สาวหมอนวดชาวไทใหญ่ โร่ขึ้นโรงพักพร้อมหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด แจ้งจับหนุ่มอ้วนจอมแสบ เชิดเงิน 1,200 บาท หลังมาใช้บริการนวดแผนโบราณอโรมา 4 ชม. ยังไม่พอฉกมือถือไปอีก 1 เครื่อง ก่อนซิ่ง จยย.เผ่นหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 5 ต.ค.64 ร.ต.อ.ทองดาว โคตรหลักคำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง รับแจ้งจาก น.ส.ดาว อายุ 32 ปี ชาวไทไหญ่ สัญชาติเมียนมา ผู้ดูแลร้านนวดแผนโบราณ ชื่อร้านแสงดาวนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่ 107/2 หน้าโรงแรมสตาร์ ถ.ศูนย์การค้าสาย 3 ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ได้พา น.ส.น้ำ อายุ 30 ปี พนักงานนวดแผนโบราณ ชาวไทใหญ่ที่ถูกคนร้ายเป็นชาย ทำทีเป็นลูกค้ามานวด ก่อนสบโอกาสขโมยมือถือของพนักงานไป 1 เครื่อง นอกจากนั้นยังเบี้ยวค่าบริการนวด 4 ชั่วโมง เป็นเงินจำนวน 1,200 บาท ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
โดย น.ส.น้ำ พนักงานนวดแผนโบราณผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุที่ร้านมีผู้ชายรูปร่างท้วม ผิวสีดำ-แดง สูงประมาณ 165 เซนติเมตร อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดสีเขียว นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิ๊ก สีแดง จำทะเบียนไม่ได้ มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นได้เข้ามาใช้บริการนวดแผนโบราณโดยบอกว่า ต้องการให้นวดน้ำมันอโรมาทั้งตัว เป็นเวลา 4 ชั่วโมง ตนจึงได้พาขึ้นห้องไปยังชั้น 3 หลังจากใช้บริการนวดเสร็จแล้ว คนร้ายรายนี้ออกอุบายว่า จะขอนอนเล่นพักผ่อนสักพัก และจะขอลงไปเอาบุหรี่ซึ่งเก็บไว้ที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านมาสูบ ตนจึงได้เดินลงมาชั้นล่างก่อน จากนั้นไม่นานคนร้ายได้เดินตามลงมา ทำท่าเดินผิวปากร้องเพลงและรีบเดินออกจากร้านตรงไปยังรถจักรยานยนต์ทันที ตนเห็นว่าลูกค้ายังไม่ได้ชำระค่านวดเป็นเงิน 1,200 บาท จึงวิ่งตามตัวไปเพื่อทวงถาม แต่ลูกค้าบอกว่าขอออกไปซื้อบุหรี่ก่อน เป็นจังหวะที่สายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ ซึ่งเป็นของตนอยู่ในมือลูกค้า จึงรู้ว่าถูกขโมยเลยรีบวิ่งเข้าไปคว้าโทรศัพท์ทันที แต่คนร้ายรีบขึ้นจักรยานยนต์แล้วขับออกไป ทั้งที่มือตนยังจับมือถือในมือคนร้ายไว้แน่น แต่ด้วยแรงของรถจักรยานยนต์ ได้กระชากร่างตนอย่างแรงเกือบจะล้มลงกับพื้นถนน จนมือหลุดออก ก่อนที่คนร้ายจะขับขี่หลบหนีหายไป จึงรีบวิ่งมาแจ้งผู้ดูแลพยายามออกติดตาม แต่ก็ไม่พบ จึงแจ้งเจ้าของร้าน ก่อนจะเข้ามาแจ้งความ โดยมีหลักฐานเป็นภาพคนร้ายที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดของทางร้าน
...
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี พร้อมตรวจสอบภาพคนร้ายอย่างละเอียด เพื่อหาเบาะแสนำตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป