ป.ป.ส. จับมือ AFP ร่วมสืบสวนขยายผลเครือข่าย หลังตรวจยึดไอซ์ 316 กิโลกรัม หลังพบข้อมูลเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 พ.ค. 64 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australia Federal Police – AFP) ประชุมแนวทางการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติด กรณีทางการออสเตรเลียตรวจพบไอซ์ 316 กิโลกรัม รัฐนิวเซาธ์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมา โดยมี Ms. Davina Copelin เจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ สำนักงาน ป.ป.ส.

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึง ในส่วนของ ป.ป.ส. มีข้อมูลเชิงลึกถึงเครือข่ายนักยาเสพติดข้ามชาติ ที่พร้อมจะแลกเปลี่ยน กับทางเจ้าหน้าตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) ซึ่งในการประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลในส่วนที่แต่ละฝ่ายได้สืบสวน และจะนำมาแลกเปลี่ยนข่าวสารเพื่อขยายผลถึงขบวนการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ 

...

"ประเด็นสำคัญ คือ การสืบสวนขยายผลไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง หรือผู้บงการ ซึ่งตรงนี้มีความเกี่ยวพันกับนักค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้มอบหมายให้ อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านการควบคุมยาเสพติดของสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ประจำอยู่ต่างประเทศ ดำเนินการประสานข้อมูลเชิงลึก ควบคู่กับการตรวจสอบเส้นทางการเงิน บัญชี Statement ของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเตรียมยึดทรัพย์สิน เมื่อมีหลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกคนขับรถบรรทุกที่ไปรับสินค้าที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติดมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าจะมีรายละเอียดข้อมูล พยานหลักฐานนำไปสู่การอนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไปในส่วนของออสเตรเลีย พร้อมที่จะให้ข้อมูลที่ได้มีการสืบสวนมาก่อนหน้านี้แก่ประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ตามที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความร่วมมือ"นายวิชัยกล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. และตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australia Federal Police – AFP) มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านยาเสพติดมาโดยตลอด ที่ผ่านมาตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียได้สนับสนุน ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการปราบปรามยาเสพติด การฟอกเงินและการจัดการกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมกันระหว่างไทย-ออสเตรเลีย (Task Force Strom) รวมถึงความร่วมมือในการจัดทำข้อมูลข่าวกรอง แผนประทุษกรรมของกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวในภูมิภาคเอเชีย เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายและการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด ให้สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาโดยตลอด