โจรใต้ป่วน ลอบวางระเบิด เหี้ยมตามยิงซ้ำ พรุนทั้งรถทั้งคน ผู้นำศาสนาดับจมเลือด ผบ.ฉก.ปัตตานี เผยฆ่าผิดตัว เหตุใช้รถเหมือน จนท.เป้าสังหาร ลั่นไม่ปล่อยลอยนวล สั่งปิดล้อมล่า-เช็กแฟ้มคดีประวัติความมั่นคง เชื่อรู้ผล 2-3 วันนี้ คาดฝีมือกลุ่มเคลื่อนไหวก่อความไม่สงบในพื้นที่  

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 เม.ย.64 พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.โคกโพธิ์ รับแจ้งเหตุระเบิดและมีเสียงปืนจำนวนหลายนัด บนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง ม.4 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 ทราบ พร้อมนำกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าริมถนน ถูกลอบวางระเบิดบริเวณโค่นเสา จนโค่นล้มพาดถนน แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 40 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กจ 943 ปัตตานี สภาชนเข้ากับต้นยางพาราได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบร่องรอยรูกระสุนปืน บริเวณประตูและกระจกด้านคนขับกว่า 30 รู จากการตรวจสอบภายในรถ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่เบาะคนขับ สภาพถูกยิงพรุนทั้งตัว ทราบชื่อ นายรอมลี วาเงาะ อายุ 35 ปี มีตำแหน่งเป็นโต๊ะบิหลั่น ประจำมัสยิดคลองช้าง อยู่บ้านเลขที่ 46/2 บ.ควนลาแม ม.3 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า และลูกซองตกเกลื่อนถนนกว่า 30 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน 

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเดินทางมาตามลำพังคนเดียว โดยขับรถมาจากมัสยิดเพื่อเดินทางกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ที่ฝังไว้ใต้โค่นเสาไฟฟ้าจนเกิดระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าโค้นลงมา ผู้ตายไม่ทันหลบจึงได้พุ่งชน ก่อนรถเสียหลักไถลตกลงข้างทางชนต้นยางพารา คนร้ายอีกชุดที่ดักอยู่ในป่าและมืดเข้ามายิงถล่มซ้ำใส่รถ จนเสียงปืนดังสนั่นเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีเข้าไปในป่า 

...

ด้าน พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนใจต่อพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่ และเป็นที่รู้จักนับถือของชาวบ้าน เหตุครั้งนี้จากที่ได้รับรายงานทราบว่า ผู้ตายไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มคนร้าย แต่เนื่องจากผู้ตายใช้รถเก๋งเหมือนกับเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง ที่เป็นเป้าหมายสังหารของคนร้าย อย่างไรก็ตามการลอบทำร้ายผู้นำศาสนาถึงแก่ชีวิตครั้งนี้ จะเป็นด้วยเหตุใดก็ตามหรือจะเป็นกรณียิงผิดตัวก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายความมั่นคงไม่ยอมให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลแน่นอน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนได้สั่งการให้หน่วยกำลังสนธิกำลังร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด และเชื่อว่าน่าจะรู้ผลภายใน 2-3 วันนี้ เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่