ศาลอุทธรณ์ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว 8 จำเลยแกนนำ กปปส.หลังขอยื่นประกันตัว โดยตีราคาประกันคนละ 8 แสนบาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ด้าน ทนายบอกเป็นเรื่องน่ายินดีที่ศาลอนุญาตให้ประกัน
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2564 ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์กรณี 8 จำเลยแกนนำ กปปส. ยื่นประกันตัว หลังถูกศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคดีชุมนุม กปปส. โดยศาลชั้นต้นให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาประกันตัวเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งระบุ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว จำเลยเคยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นมาก่อน ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติการณ์จะหลบหนีหรือไม่มาศาลตามกำหนดนัด แม้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย แต่โทษจำคุกสำหรับความผิดในแต่ละกระทงก็ไม่สูงนัก อีกทั้งจำเลยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 800,000 บาท และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น โดยให้ศาลชั้นต้นแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยเร็ว
ดังนั้น จำเลยทั้ง 8 ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำเลยที่ 1, นายชุมพล จุลใส จำเลยที่ 3, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำเลยที่ 4, นายอิสสระ สมชัย จำเลยที่ 5, นายถาวร เสนเนียม จำเลยที่ 7, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำเลยที่ 8, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ จำเลยที่ 16 และเรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ จำเลยที่ 24 ซึ่งถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะได้รับการปล่อยตัว
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ กล่าวช่วงก่อนศาลมีคำสั่งว่า ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สมควรแล้วที่ทางศาลจะมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยทั้ง 8 คน เพราะการถูกพิพากษาในครั้งนี้ เป็นผลจากการชุมนุมตั้งแต่ปีพ.ศ 2556 และสิ้นสุดการชุมนุมเมื่อปี พ.ศ.2557 พฤติการณ์ทั้งหมดของผู้ที่ถูกตัดสินถือเป็นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง มาโดยตลอดจนกระทั่งวันที่ศาลมีคำสั่งพิพากษาตัดสินให้จำเลมีความผิด
...
สำหรับหลักการที่จะไม่มีการปล่อยตัวศาลจะพิจารณาจากหลัก 4 ข้อประกอบด้วยข้อที่ 1 จำเลยมีการพยายามหลบหนีหรือไม่ 2 มีการยุ่งเกี่ยวกับพยานหรือไม่ 3 มีการทำผิดในเรื่องอื่นหรือไม่และ 4 หลักประกันมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ซึ่งที่ผ่านมาหลักประกันที่ทางทนายยื่นไปประกอบไปด้วยเงินสด โดยจากที่ทีมทนายได้มีการวิเคราะห์ร่วมกันกับจำเลยทั้ง 8 คน สรุปว่าที่ผ่านมาทั้งหมดไม่เคยมีใครมีพฤติการณ์หลบหนี ทุกคนมีการมาพบเจ้าหน้าที่ตามนัด ทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมีหลักประกันที่น่าเชื่อถือและไม่เคยมีใครปฏิเสธอำนาจของศาล
ฉะนั้นแล้วทั้งหมดจึงอยู่ในข่ายที่สมควรได้รับการประกันตัว ถึงแม้วันนี้จะยังไม่ทราบว่าศาลจะพิจารณาคำสั่งอนุญาตประกันเมื่อใด แต่ถ้าศาลมีการอนุญาตให้ประกันแล้วขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นในส่วนของ การให้หมายปล่อยและราชทัณฑ์จะมีการตรวจสอบ การใช้เวลาน้อยหรือมากขึ้นอยู่ที่ขั้นตอนของทั้งสองส่วนซึ่งทางทนายไม่อาจละเมิดได้ ส่วนคำตอบจะเป็นอย่างไร ทนายและจำเลยก็ยินดีน้อมรับ
ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ที่ศาลไม่มีคำสั่งให้ประกัน ทางทนายไม่มีการพูดคุยกับจำเลยทั้ง 8 คนเนื่องจากเลยเวลาเข้าเยี่ยมของราชทัณฑ์แล้ว เพียงแต่โทรศัพท์แจ้งทางญาติที่เฝ้ารออย่างมีความหวัง ส่วนเรื่องของโรคประจำตัว ทางราชทัณฑ์การแจ้งผ่านทนายว่า สามารถมีการฝากยาไว้ให้จำเลยทั้ง 8 คนได้ แต่อย่างไรก็ตามในเรือนจำเองมีโรงพยาบาลที่จะคอยอำนวยความสะดวกในอาการเจ็บป่วยอยู่แล้ว.