ผู้การพัทลุง เผยมีคนถูกหลอกเอาเลขบัตร ปชช.ไปสวมสิทธิ์ในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" มากถึง 234 คน เฉพาะที่ อ.บางแก้ว พบถูกหลอกเกือบทั้งหมู่บ้านรวม 111 คน รวมเสียหายกว่า 9 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้ มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้นำโครงการเราเที่ยวด้วยกันไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว จนนำไปสู่การกระทำความผิดโดยการฉ้อโกง ซึ่งไม่ได้เที่ยวจริง ใช้จ่ายจริง มีการนำเอกสาร หลักฐานเท็จมาเบิกเงินกับทางราชการ สำหรับจังหวัดพัทลุงนั้นมีชาวพัทลุงเข้าไปเกี่ยวข้องในโครงการเที่ยวกันมากถึง 234 ราย ซึ่งมากที่สุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ โดยพื้นที่ที่มีคนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวมากที่สุดได้แก่ อ.บางแก้ว 111 คน อ.เขาชัยสน 30 คน อ.เมืองพัทลุง 18 คน เป็นต้น

ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวต่อว่า ทางพนักงานสอบสวนตามโรงพักต่างๆ จะได้เชิญบุคคลทั้ง 234 ราย มาทำการสอบปากคำว่าบุคคลเหล่านี้ว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวได้อย่างไร เพื่อจะได้นำหลักฐานดังกล่าวไปสู่การดำเนินการตามกฎหมายกับตัวการสำคัญที่ใหญ่กว่านี้ ซึ่งในขณะนี้ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง และทางกองบังคับการกองปราบปรามได้ดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดไว้แล้ว 2 คน คือ ชาว จ.ชัยภูมิ 1 คน และ ชาว จ.สงขลา 1 คน

พล.ต.ต.วรา กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ อ.บางแก้วนั้น มีผู้ถูกหลอกเอาเลขบัตรประชาชนสวมสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันมากเกือบทั้งหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม จากการที่ทางด้าน ร.ต.ท.หญิง จารุมณ อัตบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ได้เชิญตัวนายอุดม นาคอนันต์ อายุ 81 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ต.พญาขัน อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็น 1 ใน 18 คน ที่ถูกเอาเลขบัตรประชาชนสวมสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน มาสอบปากคำที่โรงพัก ก็พบว่านายอุดม เป็นคนหูตึง ไม่เคยเดินทางไปเที่ยวที่ จ.ชัยภูมิ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ พูดจาไม่คล่องเนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ

...

ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนสามารถชี้ชัดได้ว่า มีการสวมรอยบัตรประชาชนของนายอุดม ให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จึงขอฝากไปยังประชาชน ที่ถูกผู้ไม่หวังดีหลอกเอาเลขบัตรประชาชนสวมสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันทั้ง 234 คน เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ เพื่อนำหลักฐานไปดำเนินการตามกฎหมาย กับกลุ่มผู้กระทำความผิดต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ในจังหวัดพัทลุงนั้น ได้ส่งผลให้รัฐบาลได้รับความเสียหายจากโครงการดังกล่าวมากถึง 9 ล้านบาท.