ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย แก๊งเงินกู้ออนไลน์หลอกปล่อยสินเชื่อง่ายๆ หลอกให้โอนเงินค้ำประกันเงินกู้ก่อนแล้วเชิดหนี ชี้ ผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ย้ำ การกู้เงินต้องมีสัญญาชัดเจน

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และโฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเรื่อง “แม่บ้านหาเงินกู้ออนไลน์ แต่กลับถูกหลอกโอนเงิน ซ้ำหมดไปหมื่นกว่าบาท” ว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่ค่อนข้างซบเซา การค้าขายฝืดเคือง อาจส่งผลให้พี่น้องประชาชนหลายคนไม่สามารถหารายได้ได้เท่าเดิม ทำให้หลายคนต้องแสวงหาแหล่งกู้ยืมเงินที่เข้าถึงได้ง่าย ในปัจจุบันก็มี “สินเชื่อเงินสดออนไลน์” ปรากฏขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งก็มีทั้งรายที่กู้เงินได้จริง และบางรายที่เป็นมิจฉาชีพ

โฆษก สอท. กล่าวต่อว่า รูปแบบของการหลอกลวงผ่านการปล่อยสินเชื่อออนไลน์บังหน้านั้น เมื่อผู้กู้มายื่นเรื่องขอกู้ ก็มักจะให้ผู้กู้โอนเงินไปบางส่วนเพื่อเป็นค่าค้ำประกันเงินกู้ และบอกว่าจะคืนเงินส่วนนี้ให้หลังจากชำระหนี้หมดแล้ว จากนั้นเมื่อผู้กู้โอนเงินไปแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อผู้ให้กู้ได้ และไม่มีการโอนเงินในจำนวนที่ขอกู้มาให้ตามที่ตกลง ทำให้ผู้กู้ซึ่งเดิมทีก็ลำบากอยู่แล้ว ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงซ้ำเข้าไปอีก

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ในทางกฎหมายแล้ว การกระทำลักษณะดังกล่าวนั้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการโฆษณาสินเชื่อดังกล่าวได้ หรือมีผู้เสียหายจากโฆษณาดังกล่าวหลายคน อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงอาจจะเป็นความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อาจจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

...

โฆษก สอท. กล่าวอีกว่า ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญ และตระหนักถึงภัยจากอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีในการกระทำความผิดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพนันออนไลน์ การปล่อยสินเชื่อออนไลน์ รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการ บช.สอท.เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สนองนโยบายดังกล่าว และสร้างการรับรู้ถึงพิษภัยต่างๆ บนโลกออนไลน์ พร้อมกับแนวทางการป้องกันให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า จึงขอแนะนำการหลีกเลี่ยงป้องกันการถูกหลอกลวงในรูปแบบของการปล่อยสินเชื่อออนไลน์ มายังพี่น้องประชาชนว่า ควรวางแผนการเงินล่วงหน้า และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด, ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตน ว่าจะสามารถชำระได้โดยที่ตนเองไม่เดือดร้อน, หากจำเป็นต้องกู้เงินจริงๆ ควรศึกษารายละเอียดของผู้ให้กู้ให้ดี เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบ, ควรเลือกกู้เงินจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ มีสัญญาการกู้ที่ชัดเจนและเป็นธรรมต่อผู้กู้ หากพบเห็นความไม่ชอบมาพากล ควรหลีกเลี่ยงเสีย และอย่าหลงเชื่อเพียงแค่คำโฆษณาสวยหรูว่ากู้ง่าย อนุมัติไว หรือหลงเชื่อรีวิวจากคนที่เราไม่รู้จัก ถึงแม้ว่าตนจะกำลังเดือดร้อนก็ควรจะใช้วิจารณญาณให้มาก มิเช่นนั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพก็เป็นได้.