“บิ๊กอู๊ด” พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เผยตำรวจขอฟังความเห็นเจ้าพนักงานสำนักอนามัย กทม. พฤติกรรมก๊วนดีเจมะตูมจัดปาร์ตี้วันเกิด เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ แจงแหลกมั่วสุมเกิน 5 คน ทำไมยังไม่ดำเนินคดี

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 1 ก.พ. 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผอ.เขตสาทร ยื่นเรื่องให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตรวจสอบเอาผิด นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม จัดงานฉลองวันเกิดที่โรงแรมบันยันทรี จนมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 สั่งการแล้วเรื่องดังกล่าวมีพื้นที่เกี่ยวเนื่อง 2 โรงพัก คือ สน.ทุ่งมหาเมฆ และสน.ลุมพินี เบื้องต้นมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของดีเจมะตูม และมีหนังสือเชิญเจ้าพนักงานสำนักงานอนามัยของกรุงเทพมหานครมาให้ปากคำและความเห็นในวันที่ 1 ก.พ. เวลา 13.00 น.

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ ขณะเกิดเหตุห้องอาหารเปิดให้บริการตามปกติ นอกจากคณะของดีเจมะตูมยังมีบุคคลอื่นมาใช้บริการด้วย เบื้องต้นพบว่าโรงแรมมีมาตรการตรวจวัดไข้ มีเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง พนักงานสอบสวนคงต้องสอบถามความเห็นของเจ้าพนักงานสำนักงานอนามัย กรุงเทพมหานคร ว่ามาตรการต่างๆ ที่ทางร้านอาหารดำเนินการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19

“ทั้งนี้จากหลักฐานข้อเท็จจริงปรากฏว่า พื้นที่ของห้องอาหารเวอร์ทิโก้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 400 ตารางเมตร ห้องอาหารมีคนใช้บริการ 65 คน ในส่วนของดีเจมะตูมมาใช้บริการ 14 คน หลังจากนั้นเวลา 21.00 น. เป็นเวลาปิดทำการของห้องอาหารตามปกติ คณะของดีเจมะตูมก็มาต่อในห้องพัก ที่มีการเช่าห้องสูท 3 ห้อง พื้นที่ 351 ตารางเมตร ในห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องใหญ่สุด เราคิดว่าจะอยู่กันเป็นจำนวนมากพื้นที่ในส่วนตรงนั้นมีประมาณ 143 ตารางเมตร จากการตรวจสอบใช้บัตรคีย์การ์ดเข้า-ออกห้องจำนวน 26 ครั้ง ต้องตรวจสอบว่าการเข้า-ออกทั้งหมดเป็นจำนวนกี่คน เนื่องจากในการจัดงานวันเกิดมีการนัดหมายไปจำนวน 14 คน ตำรวจจึงต้องขอฟังความเห็นของเจ้าพนักงานสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โดยจะเสนอข้อเท็จจริงให้เจ้าพนักงานสำนักอนามัยรับทราบ ก่อนจะขอทราบความเห็นว่าพฤติกรรมลักษณะนี้เข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่ มีการพิจารณาอยู่ 2 กรณี คือพ.ร.บ.โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน” พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าว

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเรียกดีเจมะตูมมาหรือไม่ ทางพล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ก็ต้องเรียกมาให้การ เพราะเบื้องต้นของห้องอาหารเวอร์ทิโก้ มีพนักงานให้บริการ 34 คน ทางโรงแรมมีมาตรการกักตัวและมีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้นผลเป็นลบ และยังอยู่ระหว่างการกักตัวทั้ง 34 คน การตรวจสอบการกระทำผิดของดีเจมะตูมดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน วันนี้ได้ให้เจ้าพนักงานสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครมาให้ความเห็น เนื่องจากตำรวจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรค และต้องให้เจ้าพนักงานสำนักอนามัยให้ความเห็นว่า มาตรการที่ทางโรงแรมทำถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ทั้งการวัดไข้ เจลล้างมือ การรักษาระยะห่าง รวมถึงพฤติการณ์ที่ไปต่อในห้องพัก ทั้งจำนวนคนและมีพฤติการณ์แบบนั้นจะเป็นการมั่วสุมแพร่เชื้อโรคหรือไม่ จึงต้องเป็นความเห็นจากผู้มีความรู้ทางสาธารณสุข

เมื่อถามว่า การมั่วสุมเกิน 5 คนแล้ว ทำไมยังไม่เข้าข่ายสามารถดำเนินคดีได้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของร้านอาหารจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีมาตรการ จากนั้นได้เข้าไปอยู่ในห้องพักจากการตรวจสอบการใช้บัตรเข้า-ออกห้อง และเช่าห้องสูท 3 ห้อง ขนาดต่างๆ กัน รวมพื้นที่ใช้สอย 351 ตารางเมตร จึงต้องตรวจพิสูจน์ว่าเมื่อเข้าไปในห้องได้เข้าไปพร้อมกันหรือไม่ อยู่ในห้องกันกี่คน ในห้องมีพฤติการณ์อย่างไร พยายามรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ รวมทั้งสอบถามเจ้าพนักงานสำนักอนามัย เพื่อให้ความเห็นว่าลักษณะแบบนี้เป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อหรือไม่ หรือเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องการควบคุมโรคหรือไม่

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบห้องอาหารดังกล่าวไม่พบว่ามีการจำหน่ายสุรา ส่วนในห้องพักปรากฏหลักฐานเบื้องต้นว่า มีการสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนจะดื่มในห้องหรือไม่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในห้องมีอยู่แล้วตามมินิบาร์ของห้อง ซึ่งมีหลักฐานปรากฏเป็นใบเสร็จการจ่ายชำระค่าแอลกอฮอล์ที่อยู่ในห้อง ตำรวจไม่ใช่ผู้ชำนาญการเกี่ยวกับเรื่องโรคติดต่อ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรอฟังความเห็น อย่างไรก็ตามไม่ได้นิ่งนอนใจได้รวบรวมพยานหลักฐานในรายละเอียดทราบว่าใครเป็นคนเปิดห้อง ตอนนี้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลอยู่และพฤติการณ์ที่ทำกิจกรรมในวันนั้น ขอเวลาตำรวจในการดำเนินการก่อน