ตม.กัก 6 นายตำรวจ หลังพบไทม์ไลน์เกี่ยวข้องชายวัย 57 ติดโควิด-19 เสียชีวิตบนรถไฟ หลังเดินทางกลับปากีสถาน โดยเครื่องการบินไทย มีผู้โดยสาร 279 คน ผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน ด่านควบคุมโรค
กรณีชายวัย 57 ปี เสียชีวิตบนรถไฟที่สถานีทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน และหลังเสียชีวิตตรวจพบติดเชื้อโควิด-19
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีการตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางของชายคนดังกล่าวทั้งหมดแล้ว โดยพบว่าได้เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยสายการบิน TG 350 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 เวลา 06.00 น. พร้อมกับผู้โดยสารจำนวน 279 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและคนไทยที่แจ้งความประสงค์ของกลับบ้าน โดยชายคนดังกล่าวได้เดินทางกลับเพียงคนเดียว ก่อนจะเดินทางไปสถานีรถไฟบางซื่อเพื่อกลับภูมิลำเนา จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตที่บริเวณสถานีทับสะแก จ.ประจวบครีขันธ์ เวลา 22.00 น. วันที่ 30 มีนาคม
จากนั้น ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบไทม์ไลน์เส้นทางทั้งหมดเพื่อหาบุคคลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกว่า 6 คนเข้าสัมผัส ที่มีหน้าที่ประทับตรา ให้คำแนะนำ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการกักตัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนบุคคลอื่นๆ อยู่ระหว่างประสานงานติดตามตัว
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่หน้าที่ของตำรวจคือตรวจสอบหลักฐาน อาทิ พาสปอร์ต วีซ่า อาชญากรรม ความมั่นคงเท่านั้น โดยยืนยันว่าก่อนจะถึงด่าน สตม. ตรวจพาสปอร์ต ผู้โดยสารทุกคนจะผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยมีกรมควบคุมโรคเป็นกำกับดูแล จากนั้นสำนักงานตรวจเข้าเมืองจะตรวจสอบว่ามีตราประทับจากกรมควบคุมโรค มีใบรับรองแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตไทยจากประเทศต้นทาง ซึ่งชายคนดังกล่าวผ่านทุกขั้นตอนตามระเบียบ และขณะตรวจไม่ได้มีอาการผิดปกติเข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 จึงปล่อยตัวเข้าประเทศ ส่วนจะเดินทางไปที่ไหนบ้าง และขณะที่อยู่ประเทศปากีสถานทำอะไรบ้าง อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง.
...