หนุ่มวัย 30 เครียดจัดทราบข่าวบริษัทที่ทำงานอยู่จะปิดตัวลงและถูกเลิกจ้าง กลัวพี่ชายลำบากเขียนจดหมายลาตาย ก่อนตัดสินใจคว้าปืนลูกซองยิงตัวเองดับคาหอพัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 13 ก.พ.63 ร.ต.อ.ภูวิชพนธ์ สุกใส รอง สว.( สอบสวน ) ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกยิงตายภายในหอพักแห่งหนึ่งใน ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภาสกร ทุนทรัพย์ ผกก.สภ.ดอนหัวฬ่อ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ศรีจันตรา รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วุฒิไกร จตุรงค์เสรีกุล รอง ผกก.( สืบสวน ) พ.ต.ต.พงษ์ วงศ์ประเสริฐดี สวป.แพทย์เวร รพ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 2 และกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์

ที่เกิดเหตุเป็นตึกสูง 4 ชั้นภายในห้องพักชั้น 3 พบศพนายเสกสรร เอกธรรม อายุ 30 ปี เป็นชาว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ทำงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ เฟส 8 นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนในสภาพใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว ที่หน้าอกซ้ายมีบาดแผลถูกยิงเป็นรูใหญ่ เลือดแห้งเกรอะกรัง ที่หัวไหล่ซ้ายมีอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ตกอยู่ มีปลอกกระสุนปืนลูกซองคาอยู่ในรังเพลิง 1 ปลอก ใกล้ศพพบจดหมายเขียนด้วยปากกามีข้อความว่า “ผมรักพี่นะครับ พี่ดา ถ้าผมอยู่ต่อไป จะพากันลำบาก” โดยภายในห้องนอนไม่พบร่อยรอยการต่อสู้ แพทย์คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมานานกว่า 5 ชั่วโมง

สอบถามพี่ชายผู้ตายไม่ให้รายละเอียดใดๆ และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปบันทึกภาพบนห้องที่เกิดเหตุ

สอบนายศราวุธ กันจัง อายุ 25 ปี เพื่อนผู้ตายเผยทั้งน้ำตาว่า เขากำลังจะตกงาน ผู้ตายเคยพูดให้ฟังบ่อยในช่วงหลังว่าเครียด เพราะทราบข่าวมาว่า บริษัทที่ทำงานอยู่จะปิดตัว และผู้ตายก็เป็นหนึ่งคนที่จะถูกจ้างออกจากงาน ด้วยอายุก็มากแล้ว ผู้ตายกลัวหางานไม่ได้ พอทราบมานานแล้วก็เครียดมาตลอด ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาฆ่าตัวตายเสียใจมาก

...

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวพี่ชายผู้ตายไปสอบสวนเพิ่มเติม และตรวจเขม่าดินปืนเพราะพักอยู่กับผู้ตายที่เป็นน้องชายเพียงแค่ 2 คน และให้กู้ภัยนำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่ รพ.ชลบุรี ต่อไป