ดีเอสไอ เปิดศูนย์รับแจ้งความคดี FOREX 3D โดยวันนี้มีผู้เสียหายมาให้ปากคำอีก 40 ราย เผยความเสียหายล่าสุดกว่า 1.3 พันล้าน จากผู้เสียหาย 10,049 ราย 

ที่บริเวณห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการเปิดให้ประชาชนผู้เสียหายจากกรณีประชาชนถูกหลอกให้ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FOREX 3D) ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการพิจารณาให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 153/2562 ซึ่งในวันนี้ได้มีผู้เสียหายกว่า 40 คน ที่ได้มีการลงทะเบียนกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาสอบปากคำเป็นพยานผู้เสียหายในคดีดังกล่าว

ทั้งนี้พบว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายลงทะเบียนแล้วกว่า 10,049 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,368 ล้านบาท โดยภาคเหนือมีผู้ลงทะเบียนแล้วกกว่า 1,464 ราย ซึ่งสถิติพบว่า ส่วนใหญ่แล้วจะเสียหายมูลค่า 10,000-100,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 57 ในเบื้องต้นทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 5 จะได้มีการทยอยในการนัดผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมวันละประมาณ 40 ราย เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำกัด ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการสอบปากคำระยะหนึ่งจึงจะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเพิ่มรายชื่อดำเนินคดีความเสียหายทางแพ่งต่อไป

...

สำหรับในวันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการเปิดให้ประชาชนผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจำนวน 10 ศูนย์ทั่วประเทศ ระหว่างวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน ถึงวันพุธที่ 25 ธันวาคม 2562 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. โดยผู้เสียหายจะต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชน เอกสารหลักฐานการชักชวน เอกสารการรับเงินโอนเงิน Statement หรือสลิปต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการลงทุนและความเสียหาย และบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความเคลื่อนไหว

ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่จะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะต้องลงทะเบียนและกรอกข้อมูล พร้อมนัดหมายวันเวลาที่สะดวกก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในแต่ละท้องที่ ผ่าน QR Code ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารความคืบหน้าของคดีผ่านทางเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือทางเฟซบุ๊กเฟจ DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ เท่านั้น


ด้าน นายอนุชา บุญเรือง อายุ 24 ปี หนึ่งในผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า ตนได้เห็นข้อมูลดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ จึงเกิดความสนใจ นอกจากนี้จากการสอบถามเพื่อนๆ ที่เคยได้ลงทุน พบว่าได้กำไรดี ตนจึงตัดสินใจร่วมลงทุน เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในช่วงแรกตนได้รับเงินปันผลกว่า 29,000 บาท จนกระทั่งเดือนพฤษภาคมเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทน ตนจึงพยายามที่จะถอนเงิน แต่ก็ไม่สามารถจะกดถอนได้ จนกระทั่งเกิดเป็นข่าวตนจึงรู้ว่าตกเป็นเหยื่อ และได้ลงทะเบียนเดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า ครั้งนี้อยากฝากถึงผู้คิดจะลงทุน หากมีข้อเสนอดีๆ อยากจะให้ผู้ลงทุนได้ศึกษาและคิดทบทวนดีๆ ก่อนที่จะลงทุน เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็โดนมาหลากหลายรูปแบบแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตนคิดว่าจะไม่ลงทุนแบบนี้อีกแล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมาก.