คู่กรณีเชื่อว่าคนขับรถตู้แฟนบอลสิงห์ท่าเรือไม่ชินเส้นทาง จนทำให้เกิดเหตุสลดชนประสานงา ดับสยอง 5 ศพ ขณะที่ ศพฐ.4 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ยังไม่ชัดปมดื่มสุราในรถ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้ของแฟนบอลสิงห์ท่าเรือพุ่งชนประสานงากับรถเทรลเลอร์ เหตุเกิดบนถนนสายชุมแพ-สีชมพู แยกบ้านโสกก้อง ม.6 ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 5 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ รวมทั้งการตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชนของรถคู่กรณีทั้งสองคัน ซึ่งขณะนี้รถทั้งสองคันถูกนำไปเก็บรักษาที่โรงพักชุมแพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้าน ร.ต.อ.สุวิวัฒน์ นิติไกรสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น รถคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างก็มีประกันภัยและ พ.ร.บ.ทั้งคู่ แต่ในทางคดีนั้นต้องให้เจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ทำการตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนก่อนจึงจะสามารถตอบได้ว่าใครผิดใครถูก ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนและรายละเอียดในบางเรื่องก็เกี่ยวกับกับสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบในทุกเรื่องอย่างละเอียดรอบคอบ

ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นได้เก็บรักษาไว้ที่ รพ.ชุมแพ เพื่อให้ครอบครัวมาติดต่อขอรับเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามลำดับต่อไป

ขณะที่ นายสายันห์ คนขับรถเทรลเลอร์ เปิดเผยว่า ตนขับรถออกจากบริษัทที่ อ.เอราวัณ จ.เลย มุ่งหน้าไปที่โรงงานน้ำตาลที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้าเข้าไปอำเภอชุมแพ ซึ่งเป็นช่วงขึ้นเนินนั้น มองเห็นรถยนต์ที่วิ่งตามหลังกันมา 2-3 คัน ชะลอความเร็วคล้ายจะเลี้ยวเข้าซอยไปในหมู่บ้าน และมองเห็นรถตู้คันเกิดเหตุวิ่งตามหลังเป็นคันที่ 4 แต่ไม่ชะลอความเร็ว และได้แซงรถทั้งหมดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทั้งที่จุดดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทึบ จึงได้พุ่งชนรถเทรลเลอร์ที่ตนขับมา เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

...

“หลังจากเกิดเหตุ ผมรีบลงจากรถมาดูก็พบว่ามีทั้งคนเจ็บและคนตาย แถมเห็นขวดสุราในรถด้วย ซึ่งไม่รู้ว่ามีการดื่มหรือไม่ จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ทั้งนี้ก่อนที่จะชนประสานงานกันนั้น ผมเห็นรถตู้คันดังกล่าวขับแซงรถคันอื่นที่ชะลอความเร็ว ผมทั้งบีบแตร กะพริบสัญญาณไฟเตือน แต่รถตู้กลับไม่ชะลอความเร็วจนทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น จึงเชื่อว่าคนขับน่าจะไม่ชินเส้นทางจึงได้ขับรถแซงมาอย่างเร็วเช่นนั้น” คนขับรถเทรลเลอร์กล่าว

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็พบบานประตูรถตู้ สิ่งของเครื่องใช้และอุปกรณ์เชียร์กีฬายังคงตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ คือ นายเสน่ห์ ชัยเยศ อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันโชคประทิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะกำลังเดินอยู่หน้าปั้มน้ำมัน ได้ยินเสียงแตรรถบรรทุกที่วิ่งมาจาก อ.สีชมพู หรือจากจังหวัดหนองบัวลำภู เสียงดังลั่น ตนจึงหันไปมองก็ยังคงบีบแตรและเปิดส่งสัญญาณไฟกะพริบ จากนั้นก็เห็นรถตู้คันเกิดเหตุวิ่งแซงรถยนต์อีกประมาณ 3 คัน ที่วิ่งมาจาก อ.ชุมแพ ชะลอความเร็วอยู่บนถนน รถตู้ก็พุ่งชนรถบรรทุกกลางถนน เสียงดังสนั่น เมื่อเดินไปดูก็พบว่ามีคนตาย คนเจ็บจำนวนมากอยู่ในรถตู้ ส่วนคนขับรถบรรทุกหลังเกิดเหตุก็ลงมาดูคนในรถตู้และไม่ได้หลบหนีไปไหน

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานบริษัทประกันภัยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพรถทั้งสองคัน ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า รถตู้มีประกันภัยประเภทที่ 1 ของบริษัท ที เอส ไอ อินชัวรันส์ และ พ.ร.บ.ของบริษัทไทยศรีประกันภัย ส่วนรถเทรลเลอร์มีประกันประเภทที่ 3 ของบริษัทนำสินประกันภัย.