กลุ่มผู้เสียหายร้องกองปราบ โดนหลอกระดมเงินทุนจัดซื้อรถยนต์หรูจากการขายทอดตลาด โดยการประมูลแล้วนำไปวางขายเต็นท์รถ อ้างให้กำไรงาม ก่อนถูกเชิดเงินไปเสียหายนับ 10 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายระพี สุขยืด อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย จำนวน 15 คน รวมตัวกันเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธงชัย โตเจริญ รองสว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมนำเอกสารหลักฐานการโฆษณา การพูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์และการโอนเงิน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้ระดมเงินทุนจัดซื้อรถยนต์หรูจากการขายทอดตลาดโดยการประมูลแล้วนำไปวางขายเต็นท์รถ อ้างผลกำไรงาม มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

นายระพี กล่าวว่า ตนกับกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์หลังถูก นายนัฐพล อุดมแก้ม อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 158 ม.1 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา น.ส.ทัศนีย์ บุญรอด อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 444/21 ม.1 ต.ปรุใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายธนพล อาจวงษ์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 121 ม.2 ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม กับพวกอีก 1 ราย (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) ได้สร้างกลุ่มในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก (ชื่อแชร์เงินทองรายวัน รายอาทิตย์ รายเดือน) เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา

...

นายระพี กล่าวต่อว่า จากนั้นได้โฆษณาชวนระดมเงินทุนในการจัดซื้อรถยนต์จากการประมูล ขายทอดตลาด หากประมูลได้จะนำไปวางขายตามหน้าเต็นท์รถ ก่อนหักผลกำไรมาแบ่งกัน รวมถึงยังอ้างว่าเป็นเจ้าของเต็นท์รถยนต์ โอ้ มาย ก้อด คาร์เซ็นเตอร์ (OMG CAR CENTER) มีการโชว์รูปรถหรู โชว์รูปการประมูลรถต่างๆ ทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือ และตนเห็นว่าได้ผลตอบแทนดี ให้ร้อยละสิบบาทต่อวัน จึงร่วมลงทุนไปทั้งหมด 500,000 บาท ภายใน 10 วันแรก ได้รับเงินปันผลตามที่บอกไว้จริง แต่ต่อมาเริ่มถูกปฏิเสธบ่ายเบี่ยง และไม่ได้รับเงิน จึงได้เดินทางไปยังคอนโดมิเนียมที่พักของกลุ่มคนร้ายย่านนนทบุรี พบว่ากลุ่มดังกล่าวกำลังเก็บข้าวของขึ้นรถอย่างเร่งรีบเตรียมหลบหนี ทำให้ทราบว่าถูกหลอกอีกทั้งมีผู้เสียหายอีกหลายคน จึงนัดรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม

นางพัชรินทร์ ยิ้มแย้ม อายุ 30 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง จ.สระบุรี ผู้เสียหาย กล่าวว่า คนร้ายกลุ่มนี้ยังมีพฤติการณ์หลอกเช่ารถจากเต็นท์รถเพื่อไปจำนำต่อ ซึ่งตนตกเป็นเหยื่อเมื่อเดือนกันยายน ปี 2560 คนร้ายกลุ่มนี้เช่ารถไป 3 คัน ลักษณะแต่งกายดี อ้างว่ามีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ฐานะมั่นคง จึงหลงเชื่อให้เช่าก่อนถูกเชิดไปทั้ง 3 คัน แต่สามารถติดตามรถกลับคืนมาได้ 1 คัน

ร.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้เพื่อดำเนินการ แต่เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงได้แนะนำกลุ่มผู้เสียหายที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อความสะดวกในการเดินทางให้ไปแจ้งความกับท้องที่ของแต่ละบุคคล ก่อนประสานส่งสำนวนมาที่กองปราบปรามรับดำเนินการต่อไป.