ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมท้องที่ ตั้งฐานปฎิบัติการลวงเงินเหยื่อ  รวบผู้ร่วมกระบวนการ 8 ราย อยู่เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ยึดอุปกรณ์วีโอไอ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ อุปกรณ์ใช้ในการหลอกลวง 

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 14 พ.ย.60 ที่คอนโดบ้านสวนธน ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง นนทบุรี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.  พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประสานไปยัง พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมกันจับกุมแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์ชาวต่างชาติ 8 คน ในคอนโดแห่งหนึ่ง พื้นที่จังหวัดนนทบุรี พร้อมหลักฐานเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และตัวแปลงสัญญาณระบบโทรศัพท์

...


เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นที่อาคาร 4C ชั้น 2 ห้องเลขที่ 72/104 พบชาวต่างชาติเป็นชายชาวไต้หวัน 4 คน หญิงชาวจีน 1 คน พร้อมหลักฐานทั้งหมด จากนั้นได้เข้าตรวจค้นอาคาร 3D ชั้น 1 ห้องเลขที่ 68/425 พบชายชาวไต้หวันอีก 2 คน หญิงชาวจีน 1 คร รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ตรวจค้นในห้องพักไม่พบหนังสือเดินทาง โดยผู้ต้องหาอ้างว่านำไปต่ออายุวีซ่า จากนั้นได้นำตัวทั้งหมดส่ง สน.โชคชัย พื้นที่นครบาล


พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า วันนี้ ได้เข้าจับกุมตามนโยบาลรองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องขอแก๊งโอเวอร์สเตย์ หรือคนที่อยู่เกินกว่ากฏหมายอนุญาต ซึ่งมีอยู่ในประเทศไทยเกินกว่า 2 แสนคน แต่ที่สำคัญบุคคลที่อยู่เกินกำหนดดังกล่าวแล้วได้เข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศไทย และอาชญากรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นคือแก๊งค์คอลเซนต์เตอร์ ได้มีการไล่ล่าจับกุมแก๊งดังกล่าวที่ผ่านมา ได้ขออนุมัติหมายศาลออกจับไปแล้วกว่า 89 หมาย

"ผบ.ตร.ได้ออกคำสั่งให้มีชุดปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซนต์เตอร์ซึ่งระบาดและสร้างปัญหาให้กับประชาชนอย่างมากและทำให้รัฐสูญเสียรายได้มหาศาล วันนี้ได้มีการขยายผลจับกุมจากการออกหมายจับ 89 หมาย จับกลุ่มแก๊งชาวจีนและชาวไต้หวันได้จำนวน 8 คนยึดอุปกรณ์วีโอไอ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ และอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการหลอกลวงประชาชน นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว มีการยึดอุปกรณ์ของกลาง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และศูนย์ที่ตั้งเป็นเซนต์เตอร์ขึ้นมา ปัจจุบันแก๊งดังกล่าวได้กลับมาระบาดอีกครั้ง มีการใช้แปลงสัญญาณหมายเลขของรัฐ เช่นการหลอกลวงอาญัติบัตรเครดิต มีการให้โอนเงินออกจากบัญชี มีการพัวพันธ์กับยาเสพติด เป็นพฤติกรรมหลอกลวงซ้ำๆ" 

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ถ้ามีการโทรไปขอข้อมูลส่วนบุคคลประชาชนอย่าให้เป็นอันขาด ถ้าจะตรวจสอบให้ตรวจสอบกับสถาบันการเงินโดยตรงห้ามทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์ วันนี้ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ออกจับทั้งหมด 7 จุดเป็นชาวจีน ไต้หวัน และคนไทย เจ้าหน้าที่มีการดำเนินคดีความผิดทาง พ.ร.บ.ฉ่อโกงประชาชน และความผิดฐานสนับสนุนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในการจับกุมแก๊งค์คอลเซนเตอน์มีการบูรณาการในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต สำหรับคนที่อยู่เกินกว่ากฏหมายกำหนดตำรวจท่องเที่ยวรับผิดชอบหลักในเรื่องการปราบปราม ได้มีการให้ออกกวาดล้างปราบปรามทั่วทุกพื้นที่