เป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง กรณี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 ช่วงนั้นถือเป็นคดีใหญ่ที่คนสนใจมาก

ผ่านมาเกือบ 5 ปี คดียืดเยื้อ ยังไม่มีความคืบหน้า

บางข้อหาหมดอายุความไปแล้ว ส่วนคดีไม่แจ้งเหตุช่วยเหลือ กำลังจะหมดอายุความตามกันไปในวันที่ 3 ก.ย.2560 ยกเว้นคดีขับรถประมาทรถชนคนตาย ที่มีอายุความ 15 ปี จะหมดอายุความปี 2570

งานนี้ไม่รู้ใครถูกผิด

ถึงปล่อยให้คดีระดับชาติที่มีผู้เสียหายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกชนเสียชีวิตในเครื่องแบบตำรวจ

จบชีวิตแบบกฎหมายเอาผิดอะไรคนกระทำความผิดไม่ได้

แปลกคดีนี้ผู้ใหญ่ของตำรวจ ไม่ได้เร่งรัด ติดตาม ทำให้คดีเกิดความโปร่งใส ตรงไปตรงมา

ตำรวจและอัยการ ต่างฝ่ายยังไม่ทำเอกสารส่งผู้ร้ายข้ามแดน อ้างรอสืบหาที่อยู่ จนสื่อต่างประเทศมีการนำเสนอความเคลื่อนไหวการใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นของผู้ต้องหา

ตำรวจ อัยการให้สัมภาษณ์ ทำนองไม่ได้นิ่งนอนใจ สวนทางกับความเป็นจริง

เป็นคำถามคาใจสังคม จะดำเนินคดีได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้คงต้องมีผู้รับผิดชอบ

จนล่าสุดช่วงปลายเดือน มิ.ย. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.น.5 กับพวก ได้แก่ พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รอง ผบก.น. 5 พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม พนักงานสืบสวนสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนา- กูล พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ และ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ

กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

ในการอำนวยความยุติธรรม สอบสวนช่วยเหลือนายวรยุทธผู้ต้องหาไม่ให้ถูกดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด ความผิดคดีอื่นๆ ที่ไม่มีการตรวจร่างกายผู้ต้องหา

...

และไม่คิดที่จะออกหมายจับผู้ต้องหา เพื่อให้ได้ตัวมาส่งพนักงานอัยการฟ้องร้องดำเนินคดี

เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนีและไม่ได้ตัวมาฟ้องภายในอายุความ

คงต้องจับตาดูว่า ผลการสอบสวนจะออกมาแบบไหน

และกระบวนการยุติธรรมไทยจะสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้หรือไม่

......เป็นสิ่งที่คนในสังคมติดตาม.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th