ถ้าถามว่าประเทศไทยมีกี่ฤดู ก็ตอบได้ทันทีว่า ร้อน ร้อนมาก ร้อนตาย ร้อนตับแตก ร้อนดั่งไฟนรกโลกันตร์ ร้อนเหมือนตกนรกทุกวันก็ว่าได้ ซึ่งหากไม่มีแอร์ช่วยทำความเย็น เราก็อาจจะช็อกตายได้ และที่สำคัญบุคคลที่เราต้องกราบขอบพระคุณมากที่สุดในตอนนี้คือ Willis Haviland Carrier ผู้คิดค้นแอร์เครื่องแรกของโลกที่สร้างคุณูปการให้กับพวกเรา 

กลับมาที่รถยนต์กันบ้าง หลายคนหลีกเลี่ยงที่จะจอดรถตากแดดไม่ได้ แม้ความร้อนจะพุ่งทะยานไปถึง 40 องศาฯ ก็ตาม "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ขอแชร์เทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้รถยนต์ของคุณที่ตากแดดนานๆ กลับมาเย็นไวๆ  ก่อนอื่นเราไปดูข้อเสียของการจอดรถตากแดดนานๆ เสียก่อน 

ข้อเสียของการจอดรถตากแดดนานๆ 

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า จอดรถตากแดดเป็นไรไหม ส่งผลกระทบอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ที่เจ้าของรถเจอปัญหาก็จะมีดังนี้ 

1. สีรถยนต์ซีดหมองไว 

2. ฟิล์มกรองแสงเสื่อม

3. เครื่องยนต์บางชิ้นอาจจะเสื่อมสภาพไวกว่ากำหนด 

...

4. อุปกรณ์บางชิ้นที่อยู่ในห้องโดยสารอาจะเสื่อมสภาพไวขึ้น เช่น หน้าจอ หรือกล้องหน้ารถ เป็นต้น

5. ยางรถยนต์อาจจะเสื่อมสภาพไวกว่าที่คิด 

6. หากใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องการทำงานของ Compressor หรือระบบทำความเย็นในรถ โดยเฉพาะการจอดตากแดดเพื่อชาร์จไฟ แนะนำให้ดับรถไฟฟ้าก่อนชาร์จแบต และไม่ควรนั่งรอในรถ อาจทำให้คอมแอร์ทำงานหนักเป็นสองเท่า

อย่างไรก็ตาม เราต้องมั่นตรวจสภาพรถให้พร้อมการใช้งานทุกครั้ง แม้แดดจะร้อนแค่ไหนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานของเรา

จอดรถตากแดดทำอย่างไรให้เย็นไวๆ 

1. เมื่อจอดรถตากแดดควรลดกระจกลง รวมถึงหาม่านบังแดดแบบดีๆ ย้ำว่าต้องเป็นม่านบังแดดที่มีคุณภาพมาช่วยบังกระจกหน้าเพื่อช่วยลดความร้อน

2. ก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ควรเปิดประตูระบายอากาศไว้ก่อน เทคนิคสำคัญคือ ให้ผลักประตูเข้าๆ ออกๆ ประมาณ 5-10 ครั้ง เพื่อไล่ความร้อนออก

3. เปิดแอร์ แต่ไม่ควรเปิดแอร์จนเบอร์แรงสุด เอาแบบพอดีๆ เพื่อไล่ความร้อน

4. ขับออกไปจากที่จอด โดยยังไม่ปิดกระจก เพราะระหว่างที่ขับรถออกไปจะมีแรงลมช่วยดึงความร้อนสะสมออกจากห้องโดยสาร

5. เมื่อความร้อนเริ่มหายไป แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ค่อยปิดกระจก

เพียงเท่านี้ความร้อนที่อยู่ภายในห้องโดยสารก็จะมลายหายไป ที่สำคัญวิธีเหล่านี้จะช่วยให้คอมแอร์รถยนต์ หรือ Compressor และเครื่องยนต์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป.