เกิดเป็นคนกรุงเทพฯ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อเจอฝนตก เพราะนอกจากเจอรถติดแบบกระเพาะปัสสาวะแข็งแกร่งแล้ว ยังต้องลุ้นกับน้ำท่วมขังรอการระบาย ขับรถกลับบ้านอยู่ดีๆ ก็ไม่รู้เลยว่าถนนข้างหน้าจะมีคลองรอบนถนนหรือเปล่า และรถยนต์ก็ยิ่งไม่ถูกกับน้ำและความชื้น จะดับเสียกลางคันเอาซะง่ายๆ ดังนั้นเรามาดูกันว่าหากรถยนต์เจอน้ำท่วมหนักมา และถ้าเรามีประกันภัยอยู่มีขั้นตอนเคลมประกันภัยอย่างไร 

ก่อนอื่นดูก่อนเลยครับว่ารถยนต์ของคุณทำประกันภัยของบริษัทไหน คุ้มครองอุบัติเหตุจากน้ำท่วมหรือไม่ แต่ส่วนมากถ้าเป็นประกันภัยชั้นหนึ่งแทบทุกยี่ห้อจะมีคุ้มครองจากอุบัติเหตุน้ำท่วมอยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินคุ้มครองจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่เงื่อนไขของทางบริษัทประกันภัย ส่วนประกันชั้น 3 จะไม่ครอบคลุมเรื่องน้ำท่วม แต่สำหรับประกันประเภท 5 หรือเรามักจะเรียกกันเก๋ๆ ว่า ประกันชั้น 2 พลัส ประกันชั้น 3 พลัส ก็อาจมีเงื่อนไขดูแลรถยนต์จากเหตุน้ำท่วมในบางยี่ห้อ ผู้ซื้อประกันควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

ขั้นตอนการเคลมประกัน

1. ถ่ายรูปรถขณะที่โดนน้ำท่วม พยายามถ่ายให้เห็นป้ายทะเบียนรถ ยืนยันว่าเป็นรถคันที่ต้องการเคลมประกันแน่ๆ
2. บันทึกภาพทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในรถ ระบุรายละเอียดให้ชัดเจนถึงวัน เวลา และสถานที่ที่เกิดเหตุ
3. แจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัย เพื่อนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ประกันตรวจสอบความเสียหาย

ความเสียหายรถเจอน้ำท่วม แบ่งได้เป็นสองประเภท

1. รถยนต์เจอการสูญเสียโดยสิ้นเชิง (total loss) หมายถึงตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้ ไม่คุ้มกับค่าซ่อมให้รถยนต์กลับมาใช้งานได้ปกติอีกครั้ง ในกรณีนี้ทางบริษัทประกันจะประเมินมูลค่าความเสียหายที่ 70% ของมูลค่ารถ
2. รถยนต์ได้รับความเสียหายบางส่วน (partial loss) ตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายไม่มาก สามารถซ่อมได้ บริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมให้มาใช้งานตามปกติ

...

รถเจอน้ำท่วมไม่ได้เคลมประกันได้ทุกกรณี

ขึ้นอยู่กับเจตนา หากรับรู้ว่าทางข้างหน้ามีน้ำท่วมขังในระยะทางยาวเกินกว่าเครื่องยนต์จะรับได้ ตามเงื่อนไขของบริษัทประกันอาจไม่รับเคลมค่าเสียหายได้ เนื่องจากในเงื่อนไขกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะจ่ายชดเชยเหตุน้ำท่วมรถในกรณีที่ไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถเท่านั้น เช่น หากผู้ใช้รถจอดรถไว้ตอนกลางคืนแล้วฝนตกหนักมาก ตื่นเช้ามารถเจอน้ำท่วมสูงแบบคาดไม่ถึง หรือหากกำลังขับรถอยู่แล้วน้ำท่วมสูงจนหลีกหนีไม่ทัน อันนี้เป็นเหตุผลที่ประกันจะพิจารณาจ่ายค่าเสียหาย.