New Altis HEV GR Sport เป็น Corolla รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2024 กับระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชันที่สี่ของ Toyota เมื่อมองจากรูปทรง คุณอาจคิดว่า Toyota รุ่นนี้มีขนาดที่เล็กลงไปมาก ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ถูกออกแบบให้มีเรือนร่างที่กะทัดรัด เพื่อเพิ่มความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง ระยะของโอเวอร์แฮงก์หน้าที่สั้นกับส่วนท้ายที่ค่อนข้างลงตัว แม้จะมีขนาดตัวถังที่เล็กกว่า Altis รุ่นที่แล้วนิดหน่อย แต่การออกแบบที่ดี ผสมผสานกับการใช้แพลตฟอร์มใหม่ TNGA ทำให้พื้นที่ภายในของ New Corolla Altis ยังคงมีความกว้างตามมาตรฐานยานยนต์ขนาดเล็กในกลุ่ม c-segment สำหรับ Corolla Altis Hybrid GR Gazoo Racing ยานยนต์พลังงานผสม ติดตั้งชุดแต่ง GR Gazoo Racing มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร บวกมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่สี่
...
Toyota Corolla Altis HEV เริ่มต้นการทำตลาดในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2562 ล่าสุดในช่วงปลายปีนี้ Toyota Motor Thailand ปรับความสดใหม่ของ Altis HEV รุ่นท็อปสุด GR Sport บวกกับเทคโนโลยีของระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเติมเต็มระบบช่วยขับในรูปแบบของ Adaptive Cruise Control เบาะไฟฟ้าคู่หน้าของ GR Sport ระบบเชื่อมต่อที่ทันสมัย กล้องมองภาพด้านหลังพร้อมเซนเซอร์มีการปรับความคมชัดให้ดีกว่าเดิม ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC แบบ All-speed และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA ทำให้ New Corolla Altis Hybrid GR Sport มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเอาไว้หวดกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันอย่าง New Mazda 3 และ Honda Civic เจ้า GR ซีดานนั้นไม่ได้เน้นความแรง แต่มีดีที่ประหยัดน้ำมัน และมีราคาถูกกว่า
GR SPORT: PASSIONATE DESIGN การออกแบบ เฉพาะรุ่น GR SPORT
กันชนหน้าและกระจังหน้าสีดำเงา ใหม่
...
หลังคาสีดำเงา ใหม่
สปอยเลอร์หลังสีดำเงา ใหม่
...
ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ใหม่ ยาง 225/45R17
...
ไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens ใหม่
เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หนัง Suede แบบเจาะรูและหนังสังเคราะห์ เดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้า ใหม่
เข็มขัดนิรภัยสีแดงสไตล์ GR SPORT ใหม่
ภายในเดินด้ายสีแดง ตกแต่งสีแดงและสีเงิน Smoked Silver ใหม่
พวงมาลัยตกแต่งสัญลักษณ์ GR ใหม่
ปุ่ม Push Start และ Smart Key ตกแต่งสัญลักษณ์ GR
Corolla Altis HEV GR SPORT ราคา 1,129,000 บาท
Altis Hybrid HEV GR Sport รุ่นสูงสุด มีราคาอยู่ที่ 1,129,000 บาท เทียบกับ Mazda 3 2.0 SP Sport รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ที่มีค่าตัว 1,078,000 บาท และ New Honda Civic RS HEV ราคา 1,239,000 บาท มองที่ราคา GR Sport ถูกกว่า Civic RS HEV ถึง 110,000 บาท สำหรับ Toyota Corolla Altis HEV GR Sport 2024 จัดอุปกรณ์เพิมเติมทั้งภายนอกและภายในมาให้ใช้เยอะพอสมควร โดยเฉพาะชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกของใหม่ที่ครบครัน แทบจะไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มอีกแล้ว เครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดและไม่อืด ช่วงล่างโดยเฉพาะพวงมาลัยจูนมาดี ราคาล้านหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากการลดอัตราภาษีของสรรพสามิตที่เอื้อต่อรถยนต์ไฮบริดเน้นประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษต่ำซึ่งวางขายในไทย ถ้าเคยนั่งที่เบาะหลังของ Altis โฉมที่แล้ว ขนาดของตัวถังที่เล็กลงของรถรุ่นใหม่กลับไม่ส่งผลกระทบไปถึงพื้นที่ภายใน เบาะหลังยังคงนั่งโดยสารได้สบายตัว และถ้าไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่ หรือหนักเป็นร้อยกิโล ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรกับการนั่งขับเจ้า Corolla Altis HEV GR Sport
GR SPORT: INTUITIVE DRIVING สมรรถนะปรับแต่งพิเศษ เฉพาะรุ่น GR SPORT
Electric Power Steering พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ปรับแต่งเฉพาะรุ่น GR SPORT ใหม่
Shock Absorber ดูดซับแรงสั่นสะเทือนให้การขับขี่มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
Coil Spring คอยล์สปริงปรับแต่งโดยเฉพาะ
Rear Stabilizer Bar ลดอาการโคลงขณะเข้าโค้ง
แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ใหม่
สัญลักษณ์ TOYOTA HEV ใหม่
ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding
จอภาพมาตรวัดแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว
หน้าจอมอนิเตอร์กลางระบบอินโฟเทนเมนท์ สั่งงานด้วยระบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ HUD (Head Up Display)
อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา + nanoeX ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค
Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ
เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
สีภายนอก พิเศษ เฉพาะรุ่น HEV GR SPORT
สีขาว Platinum White Pearl with Black Roof ใหม่ (ราคาเพิ่ม 15,000 บาท)
สีแดง Red Mica Metallic with Black Roof ใหม่ (ราคาเพิ่ม 10,000 บาท)
สีดำ Attitude Black Mica
โครงสร้าง TNGA หรือ Toyota New Global Architecture แพลตฟอร์มใหม่ของแบรนด์สามห่วง ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสไตล์การขับของรถ Toyota ทำให้รู้สึกได้ถึงความนิ่มนวลและยึดเกาะกับถนนได้ดี ความสะดวกสบายและคล่องแคล่วว่องไวของระบบขับเคลื่อน สำหรับการใช้งานในเมือง ท่ามกลางการต่อสู้อย่างเข้มข้นในตลาดรถซีดานเล็ก New Altis Hybrid GR Sport ตอบโต้คู่ต่อสู้ด้วยเครื่องไฮบริดที่มีตัวเลขอัตตราสิ้นเปลืองดีสุดในกลุ่ม c-segment แม้จะมีภายในที่ยังคงตามหลังคู่ต่อสู้ แต่ระบบขับเคลื่อน Toyota Hybrid Generations 4 เข้ามากอบกู้ทุกอย่าง และทำให้รถเล็กรุ่นนี้ไม่ตกเป็นรองคู่แข่งในด้านของอัตราสิ้นเปลือง การควบคุมและการปล่อยมลพิษ กับความสามารถในการทรงตัว
New Corolla Altis HEV GR Hybrid คมเข้มขึ้นจากอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก+ภายในใหม่ (บางจุด) ตัวถังดูกะทัดรัด แต่ห้องโดยสารกลับกว้างเท่าเดิม เป็นมนตร์วิเศษในโลกของการออกแบบที่ Toyota พยายามปรับให้ Corolla มีความคล่องตัวโดยไม่สูญเสียพื้นที่ใช้สอยภายใน ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์มาจากแพลตฟอร์มใหม่ Toyota New Global Architecture ที่มีอยู่ใน C-HR และ New Camry ที่สามารถหดหรือขยายพื้นที่ภายนอกภายในได้ตามรุ่นของรถ ซึ่งในประเทศไทยถือว่า New Corolla Altis เป็นรถยนต์รุ่นที่สามที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ ไม่ต้องแจงกันมากก็รู้ว่าช่วงล่างของมันก็ยังถูกปรับให้ขึ้นกว่าเดิม ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ขนาดของล้อ 17 นิ้ว ยาง michelin primacy 225/45R17 เหมาะสมกับซุ้มล้อ ขนาดของล้อและยางทำให้ระบบขับเคลื่อนไม่ต้องไม่แบกน้ำหนักมากเกินไป ตัวถังผลิตขึ้นรูปจากเหล็กที่มีคุณภาพในด้านความแข็งแรง การใช้แพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ผลิตออกมาเป็นรถยนต์หลายรุ่นโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนมากนักในแบบที่ Toyota และบริษัทรถยนต์ทั่วโลกกำลังทำ หรือทำมานานแล้ว เพื่อลดต้นทุนทั้งการผลิตและการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ในอนาคต TNGA ก็จะถูกปรับให้สอดรับกับการทำตัวเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่วนการออกแบบของ New Corolla Altis Hybrid GR Sport มีการตกแต่งภายนอกโดยใช้วิธีปรับชิ้นส่วนต่างๆ ของรุ่นไฮบริดจนคล้ายกับการนำเอา New Camry มาขัดเกลาย่อส่วนให้มีขนาดที่เล็กลงแล้วยัดชุดแต่ง GR Gazoo Racing เพื่อเพิ่มความสวยงาม
มิติตัวถังของ New Corolla Altis GR 1.8 Hybrid มีขนาดความยาว 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,780 มิลลิเมตร และสูงแค่ 1,455 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อวัดจากดุมหน้าไปหลัง 2,700 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,531 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,535 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 155 มิลลิเมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 43 ลิตร มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดแค่ 5.4 เมตร เน้นความปราดเปรียวว่องไว ด้วยระยะโอเวอร์แฮงก์หน้า-หลังที่สั้นกระชับ
ผมนำรถทดสอบ New Corolla Altis HEV GR มาขับเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ 4 วัน โดยใช้การขับทั้งในและนอกเมือง วันสุดท้ายก่อนคืนก็ลากไปจบที่อำเภอกุยบุรี แล้ววกกลับกรุงเทพฯมหานคร เมื่อขับไปไม่นาน คุณจะรู้สึกได้ถึงคุณภาพของแพลตฟอร์ม TNGA ซึ่งเข้ามามีส่วนช่วยอย่างมากในการปรุงแต่งให้ช่วงล่างของ Toyota ดีขึ้น Corolla Altis HEV GR ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบปีกนกคู่ดับเบิ้ลวิชโบน ล้ออะลูมิเนียมขอบ 17 นิ้ว + ยาง 225/45R17 ชุดบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยไฟฟ้า EPAS-electronic power assisted steering จูนอัตราทดพวงมาลัยใหม่หมด เป็นการปรับตั้งระบบบังคับเลี้ยวใหม่เฉพาะรุ่น GR Sport ขับแล้วให้ความมั่นใจว่าทั้งนิ่งและมั่นคงในย่านความเร็วสูง
พวงมาลัยมีน้ำหนักหน่วงมือกว่า Mazda 3 รวมถึง Civic รุ่นใหม่อย่างชัดเจน ส่วนช่วงล่างก็ยังหนึบนุ่มกว่าเนื่องจากเซตมาเอาใจนักขับที่เสพติดความนวลขณะทำความเร็ว! การขับใช้งานทั่วไป แพลตฟอร์ม TNGA ทำให้การถ่ายเทน้ำหนักขณะใช้เบรกดีขึ้นเยอะ รถมีอาการหน้าทิ่มน้อยลง วิ่งทางตรงบนไฮเวย์ได้ดีจากการทำงานของแชสซีบวกกับช่วงล่างและพวงมาลัยที่ใช้ได้เลยทีเดียว การเร่งความเร็วเมื่อใช้โหมด Power ทำให้ GR Hybrid รุ่นใหม่ กระฉับกระเฉงขึ้นมาเล็กน้อย การทรงตัวที่ย่านความเร็วสูงนับว่าดีกว่าเดิมทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากน้ำหนักของพวงมาลัยยังคงตึงมือที่ความเร็วเกิน 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมลองเปลี่ยนความเร็วกลับมาวิ่งที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหลังจากทดสอบการทรงตัวในย่านความเร็วสูง บนถนนที่มีผิวไม่เรียบ ช่วงล่างซับแรงสั่นสะเทือนไดเดี รู้สึกได้ถึงการทำงานของช่วงล่างทั้งโช้คอัพ กันโคลง สปริงและจุดยึดโยงต่างๆกับยางติดรถ ความเร็วสูงสุดถูกล็อกเอาไว้ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อไม่ทำให้ของเหลวหล่อลื่นในระบบเกียร์ CVT มีอุณหภูมิสูงเกินไป
Altis HEV GR Sport เป็นซีดานที่ครบทั้งระบบความปลอดภัย กลไกอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ ทั้งระบบปรับตั้งความเร็วและรักษาทิศทางแบบอัตโนมัติ รถจะเร่ง เบรก และขยับพวงมาลัยไปตามรถคันข้างหน้า เมื่อเปิดใช้งานระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC แบบ All-speed Rang การปรับทิศทางของพวงมาลัยตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติทำได้ไม่นานนัก แต่ก็ถือว่าดีและช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายยามขับในเมือง DRCC แบบ All-speed Rang สามารถทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า โดยสามารถปรับระยะห่างได้ตามใจชอบ ระบบนี้ยังมีการเบรกและการออกตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ช่วยลดภารกรรมการขับใช้งานในเมือง หรือขับออกทางไกลได้ดีพอสมควร พูดง่ายๆ ว่าถ้าออกทางไกลแล้วเมื่อย ก็เปิดใช้งานเป็นการพักกล้ามเนื้อขาไปในตัวเพื่อความผ่อนคลาย แต่ดูทางแล้วมีสติควบคุมพวงมาลัยไม่ให้เสียสมาธิเพราะระบบช่วยขับก็จะทำให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
ไฮบริดของ Toyota ทำให้ชุดเสริมพลังงานแบบ SERIES-PARALLEL HYBRID หรือระบบไฮบริดแบบอนุกรมบวกคู่ขนานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เป็นระบบขับเคลื่อนที่ควบรวมข้อดีของ Series และ Parallel เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และเป็นระบบที่รถ Toyota เลือกใช้ การทำงานของระบบขึ้นตรงกับสภาวะของการขับขี่ ไม่ว่าจะใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนแต่เพียงอย่างเดียวในช่วงสั้นๆ หรือใช้กำลังทั้งจากมอเตอร์และเครื่องยนต์ผสมผสานกันในการขับเคลื่อน ระบบนี้มอเตอร์ยังสามารถส่งกำลังไปที่เพลาขับเคลื่อนล้อหน้า แม้จะกำลังชาร์จไฟอยู่ก็ตาม
ระบบไฮบริดเจน 4 ของ Toyota ออกแบบให้ inverter with converter assembly มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา สามารถบูสไฟฟ้าแรงสูงอย่างรวดเร็ว โดยติดตั้งอยู่ด้านบนของชุดเกียร์ ส่วนแบตเตอรี่ไฮบริดเป็นแบบ ni-mh battery DC 201.6 V168 Cell 6 cell x 28 modules แบตเตอรี่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลังพร้อมชุดกรองฝุ่น และพัดลมไฟฟ้าระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในด้านการรักษาอุณหภูมิและการระบายความร้อนจากการทำงาน โดยมี auxiliary battery ติดตั้งอยู่ในห้องเครื่องยนต์ เป็นแบบ EN Type LN1 auxiliary battery ส่วนชุดมอเตอร์ 2 ตัวที่ฝังอยู่ในเกียร์เป็นแบบ P610 hybrid transaxle MG1 / MG2 ขนาด 600 โวลต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอเตอร์ไฟฟ้า MG 1 ของ Altis Hybrid มีแรงดันไฟฟ้าสูงสุด AC600 V กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า MG 2 มีแรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร มีแรงดันไฟสูงสุด AC600 V
เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 2ZR-FXE เป็นเครื่องทวินแคม ดับเบิลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป DOHC 16 วาล์ว (4 วาล์วต่อสูบ) พร้อมกลไกฝาสูบกับระบบไอดีแบบ Atkinson และระบบวาล์วแปรผัน VVT-i ปริมาตรความจุ 1.8 ลิตร พร้อมระบบเสริมพลังงาน Hybrid ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนแบบใหม่มีระบบระบายความร้อนดีขึ้น แบตฯ รับประกันอายุการใช้งาน 10 ปี พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟในระบบ Hybrid ด้วยมอเตอร์ในชุดส่งกำลังสองตัว (MG1 / MG2) เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson cycle 4 วาล์วต่อสูบขนาด 1,798 ซีซี กำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ หรือ 120 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด (จากเครื่องยนต์เพียวๆ) 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก กำลัง 72 แรงม้า แรงบิดจากมอเตอร์ทำได้ที่ 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Hybrid แบบ Ni-MH ควบรวมพลังงานทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำให้ New Corolla Altis GR Hybrid มีกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT มีมอเตอร์ MG-1 และ MG-2 ฝังไว้ในเกียร์เพื่อเสริมแรงบิดและชาร์จไฟใส่แบตเตอรี่ สมรรถนะเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 11.1 วินาที
ประสิทธิภาพของระบบ Hybrid ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 2ZR-FXE Atkinson cycle อุปกรณ์แยกกำลัง Power Split Device ทำหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ชุด Power Control Unit จะรับหน้าที่ควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ รวมถึงกระแสไฟฟ้าแบบสลับ จากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือเจเนอเรเตอร์ สามารถขยายกำลังไฟจากแบตฯ นิเกิ้ลเมทัลไฮดรายได้สูงถึง 600 โวลต์ เพื่อป้อนพลังงานไฟฟ้าให้กับชุดมอเตอร์ที่ใช้ในการขับเคลื่อน นี่คืองานวิศวกรรมจักรกลที่ใช้เทคโนโลยีของการขับเคลื่อนยุคใหม่ จากความชำนาญในด้านเครื่องยนต์ไฮบริดของ Toyota เป็นยุคของระบบผสมผสานพลังงานที่กำลังเข้ามาแทนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบปกติ กำลังจากเครื่อง 1.8 ไฮบริดสามารถดึงออกมาใช้งานได้เมื่อต้องการเร่งความเร็วเพื่อแซง มีความเร็วพอที่จะเอาตัวรอดได้ ในสถานการณ์ที่ต้องการกำลังในการเร่งแซง แถมด้วยจุดเด่นด้านอัตราสิ้นเปลืองในระดับ 21 กิโล-ลิตร
Altis HEV GR Sport เป็นซีดานจอมประหยัดรุ่นหนึ่งของวงการ ภายในถูกปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม ทรงตัวดี ช่วงล่างเน้นความสบายแต่ขับเร็วแล้วให้ความมั่นใจสูสีกับ Civic และ Mazda 3 พวงมาลัยแม่น กระชับและมีน้ำหนักดี ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใส่มาให้ ช่วยทำให้ขับได้ปลอดภัยขึ้นเมื่อเปิดใช้งานโดยเฉพาะ Adaptive Cruise Control ระบบแจ้งเตือนการรักษาช่องทางเมื่อเปลี่ยนทิศทางพร้อมการหน่วงดึงกลับของพวงมาลัย กระจกมองข้างติดตั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSM คอยกะพริบบอกเมื่อมีมอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหลังในมุมที่ค่อนข้างอับทึบมองไม่เห็น ช่วยทำให้การเปลี่ยนเลนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ 2ZR-FXE มีการทำงานเรียบเนียนและเงียบตามสไตล์ของ Hybrid จาก Toyota เกียร์ E-CVT เหมาะสมกับการขับแบบเรื่อยๆ หรือจะซิ่งก็ไม่ย้วยใส่ ออกกระชับใช้ได้ จากกรุงเทพมหานครมายังอำเภอกุยบุรี ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 21.0 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อลองขับเร็วขึ้นในย่านความเร็ว 110-120 บางครั้งกระชากขึ้นไปถึง 150 -160 เพื่อดูการทรงตัวและประสิทธิภาพการทำความเร็วต่อเนื่องของระบบส่งกำลัง ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองหล่นลงมาเหลือ 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร ประหยัดสูสีกับ CHR Hybrid และ Corolla Cross Hybrid เลยทีเดียว เพราะใช้เครื่องและเกียร์คล้ายกัน การเก็บเสียงทำได้ดีพอสมควร วัสดุภายในโดยเฉพาะเบาะและแดชบอร์ดนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ชอบก็คือมีเบาะไฟฟ้าในตำแหน่งคนนั่งหน้ามาให้
Altis HEV GR Sport เป็นรถที่มีช่วงล่างนวลเนียน การปรับเซตการทำงานของโช้คอัพและสปริง ทำให้ขับได้อย่างมั่นใจแทบจะไม่ต่างไปจาก Civic RS HEV แถมยังทำตัวประหยัดถ้าขับเรื่อยๆ จะเห็นตัวเลข 21 กิโลเมตรต่อลิตร ภายในห้องโดยสารมีอุปกรณ์ให้ใช้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ เชื่อมต่อ Carplayได้แบบไม่มีหลุด เครื่องเสียงติดรถมีซุ่มเสียงพอฟังได้ ไม่แย่ ขับทางไกล ไป-กลับ 600 กิโลเมตร นั่งสบายไม่เมื่อย เป็นรถที่มีการทรงตัวดีเมื่อซัดเร็วๆก็ยังนิ่งใช้ได้เลย ช่วงล่างที่เน้นความสบายเนื้อสบายตัวแต่ขับเร็วก็เอาอยู่ไม่ออกอาการน่ากลัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น ระบบรองรับรักษาการยึดเกาะได้ดีเมื่อขับเร็ว เบรกดี แต่ควรเผื่อระยะเบรกเมื่อใช้ความเร็ว พวงมาลัยแม่นและมีน้ำหนักดีมาก เป็นจุดเด่นที่ทำให้การควบคุมทิศทางง่ายและแม่นยำ ส่วนระบบช่วยขับอิเล็กทรอนิกส์ที่ใส่มาให้ ทำให้ขับได้ปลอดภัยขึ้นเมื่อเปิดใช้งาน โดยเฉพาะ Adaptive Cruise Control
ระบบแจ้งเตือนการรักษาช่องทางเมื่อเปลี่ยนทิศทางพร้อมการหน่วงดึงกลับของพวงมาลัย กระจกมองข้างติดตั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSM คอยกะพริบบอกเมื่อมีมอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหลังในมุมที่ค่อนข้างอับทึบมองไม่เห็น ช่วยทำให้การเปลี่ยนเลนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เป็น GR ที่ไม่แรง แต่ขับได้เนียนคล้ายเอา Camry Hybrid มาย่อส่วน ตัวถักะทัดรัด แต่ห้องโดยสารกว้าง จากแพลตฟอร์มและการจัดวางอุปกรณ์ภายใน ผมมองว่าจุดที่รถรุ่นนี้ทำได้ดีก็คือ ความนวลหนึบของพวงมาลัยและช่วงล่าง รวมถึงความประหยัดที่กลายเป็นจุดแข็งสำหรับการเลือกซื้อยานพาหนะในปัจจุบัน ใช้คันเร่งปกติ 110-120 มีเห็นตัวเลข 21-22 กิโลเมตรต่อลิตร แบบสบายๆ ไม่ต้องคลานเป็นเต่าเพื่อประหยัดน้ำมันกันละครับ.
แคมเปญพิเศษ Toyota Corolla Altis HEV 2024 วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ดอกเบี้ย 1.65% (คำนวณที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป นาน 48 เดือน สำหรับผู้ซื้อ ที่ผ่านการอนุมัติโตโยต้าลีสซิ่ง) ประกันภัยชั้นหนึ่ง PHYD เครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อม รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (รุ่น HEV GR SPORT และรุ่น HEV PREMIUM) ข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง (มูลค่า 30,000 บาท) ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด จาก TCFR Plus+
TOYOTA CARNIWOW “เทศกาลออกรถสุดว้าว”
ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
WOW ที่ 1
สแกน QR Code ผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ และนำ SMS ไปแสดง ณ โชว์รูมที่ต้องการจองรถหรือที่ปรึกษาการขาย รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 1.5%
ส่วนลดเพิ่ม 3,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%
ส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท หรือ ขับฟรี 90 วัน
ส่วนลดเพิ่ม 7,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%
ส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 1.0%
ส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ย 1.5%
รวมจำนวน 40,000 รางวัล มูลค่ารวม 226,100,000 ล้านบาท
WOW ที่ 2
ลงทะเบียน WOWที่ 1 และออกรถภายใน 31 ธันวาคม 2567 ลุ้นรับรางวัล WOW ที่ 2 ต่ออีกเพียบ
1. รางวัลที่ 1 ทองคำ มูลค่า 30 บาท จำนวน 1 รางวัล (ราคาทองขึ้นอยู่ ณ วันที่ทำการจัดซื้อ)
2. รางวัลที่ 2 ทองคำ มูลค่า 5 บาท จำนวน 9 รางวัล (ราคาทองขึ้นอยู่ ณ วันที่ทำการจัดซื้อ)
3. รางวัลที่ 3 โทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro (128GB) จำนวน 18 รางวัล มูลค่า 39,900 บาท
รวมมูลค่า 718,000 บาท
4. รางวัลที่ 4 บัตร Shopping Voucher 2,000 บาท จำนวน 527 รางวัล
รวมจำนวน 555 รางวัล มูลค่า 1,052,000 บาท
เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOYOTA ACCESSORIES
สเกิร์ตกันชนหน้า ราคา 7,000 บาท
ชุดสเกิร์ตข้าง ราคา 10,000 บาท
สเกิร์ตกันชนหลัง ราคา 8,000 บาท
สปอยเลอร์หลัง ราคา 5,000 บาท
แผงบังแดดข้าง ราคา 2,200 บาท
หมายเหตุ: รายการที่ 1-4 สามารถติดตั้งได้ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น GR SPORT
Toyota Corolla Altis รุ่นปรับโฉม ที่ Toyota ALIVE บางนา และโชว์รูมผู้แทนจำหน่าย Toyota ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
วันที่ 5-19 มีนาคม 2568 ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช
วันที่ 27-30 มีนาคม 2568 ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เชียงราย