ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดและเรือนร่างที่ใหญ่โตมโหระทึก หมูเหลือง XM 50e กับสีเหลือง Sao Paulo Yellow Solid ทรงของมันใหญ่โตมโหระทึกจนทำให้ X5 ดูเล็กไปถนัดใจ หรืออย่างน้อยจากการตีความที่ส่งผ่านทีมออกแบบ นั่นคือสิ่งที่ BMW M ต้องการให้ XM G09 ใหญ่ยักษ์คับถนนแบบนั้น สำหรับการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับรถ M รุ่นแรก นับตั้งแต่ซุปเปอร์คาร์ M1 ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อกว่า 50 ปีก่อน BMW M1 เครื่องวางกลางลำ เครื่องเบนซินหกสูบเรียง บนตัวถังที่ออกแบบโดย Lamborghini ก่อนที่แบรนด์กระทิงเปลี่ยวจะหยุดทำ เนื่องจากบริษัทกำลังประสบปัญหาด้านเงินทุน มิติของ BMW M1 เติมเต็มความฝันของเด็กหลายคนในยุคนั้น (รวมถึงผมด้วย) แต่รถประหลาดอย่าง XM ได้จุดประกายความขัดแย้งขึ้นมาในกลุ่มบีเมอร์ที่คลั่งไคล้รถ M เนื่องจากการออกแบบที่แปลกตาของ XM น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ และราคาเปิดตัวรุ่นท็อปที่แพงแสบไส้ สุดท้าย เหล่าบีเมอร์ต่างลงความเห็นว่า XM ไม่มีอะไรที่จะเทียบกับรถชั้นครูอย่าง M1 ได้เลย แต่ XM 50e กลับมีบางอย่างที่เหมือนกับรถรุ่นพี่ นั่นก็คือเครื่องยนต์เบนซินหกสูบเรียง!

...

...

...

BMW XM 50e 6,799,000 บาท
BMW XM 50e Shadow Line 6,999,000 บาท (คันทดสอบ)

XM 50e คันทดสอบ มาพร้อมสีเหลือง Sao Paulo Yellow ตัวถังตกแต่งแบบ Shadow Line ล้อ M 23 นิ้ว ซึ่งเป็นล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่สุด (และขับยากสุดๆ) ที่ BMW เคยผลิตจากโรงงาน ภายในก็โดดเด่นไม่แพ้กัน หนัง Merino สีดำ เบาะ Deep Lagoon นั่งสบาย แตกต่างจาก M5 รุ่นใหม่ที่มีคันเกียร์ขนาดเล็ก รายละเอียดต่างๆ เช่น ไฟหรี่ LED เรียวเล็ก ไฟหน้าอยู่ด้านล่างของชุดไฟ LED Daytime กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ตีความมาจากไตคู่ของยานยนต์ตระกูล X ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร เพียงแต่ตำแหน่งที่ติดตั้งและไฟที่เรืองแสงอยู่ภายในกรอบกระจังทำให้มันดูใหญ่เกินจริง เส้นตัวถังรถสีดำมันวาวตัดกับสีเหลือง ท่อไอเสียสี่ท่อดีไซน์แปลกตาแบบวางซ้อนกันและมีรูปทรงที่แตกต่างไปจากท่อของรถ M ทุกรุ่น ซุ้มล้อพลาสติกสีดำเงาทรงเหลี่ยม เป็นชิ้นงานตกแต่งตัวถังที่พยายามแสดงให้เห็นว่า นี่คือรถ SUV ออฟโรดที่ทนทาน ในความเป็นจริง มันเป็นรถอเนกประสงค์สมรรถนะสูงที่ใส่ชุดแต่ง Sports Activity Vehicle (SAV) พร้อมตราสัญลักษณ์ M และโลโก้ BMW ที่มุมด้านบนของกระจากบานฝาท้าย มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 5,110 มิลลิเมตร สูง 1,755 มิลลิเมตร กว้าง 2,005 มิลลิเมตร (ความกว้างสูงสุดเมื่อรวมกระจกมองข้าง อยู่ที่ 2,235 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 220 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,105 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,726 มิลลิเมตร หลัง 1,690 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 915 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 1,090 มิลลิเมตร ล้ออัลลอย M ขอบ 23 นิ้ว Styling 923 M Star-Spoke ยาง Pirelli P Zero ยางหน้า 275/35R23 ยางหลัง 315/30R23 

...

XM รุ่นท็อปสุดวางเครื่องยนต์เบนซิน V8 แต่มีรุ่นรองอย่าง 50e ออกขายเพื่อเอาใจคนที่กำลังอยากได้ แต่ไม่กล้าควัก 17 ล้านเพื่อแลกกับ BMW หน้าตาแปลกๆ ! ในความเป็นจริง BMW XM XDrive 50e เหมือนกับอนุพันธ์ที่มีศักยภาพของ BMW M เครื่องยนต์หกสูบเรียงเทอร์โบ 3.0 ลิตร รหัส B58B30M2 พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้ร่วมกับ BMW X5 XDrive 50e กับ BMW 760e นี่คือระบบส่งกำลังพลังงานผสมที่มีศักยภาพทั้งอัตราเร่งและความประหยัดซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในรถคันโตตัวหนัก ส่วนรุ่นท็อปอย่าง BMW XM Label Red V8 ที่ทรงพลังมากกว่า กลับกลายเป็น M Car ที่ขายช้าและออกจากโชว์รูมยากสุดในปัจจุบัน เนื่องจากรูปลักษณ์แปลกตาและราคาที่โดดไปไกลลิบ!

BMW XM XDrive 50e ร าคา 6,799,000 บาท เป็นเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อพลังงานผสม Plug-in Hybrid กำลัง 476 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร โดยมีม้าน้อยกว่า X5 xDrive 50e 13 ตัว แต่แรงบิดเท่ากัน เมื่อเปรียบเทียบข้อกำหนดทางเทคนิคมากเท่าไร XM ที่ผมยังไม่เคยลองขับไกลๆ ก็ดูด้อยลงไปเท่านั้น เนื่องจากน้ำหนักตัวบานเบอะ 2,615 กิโลกรัม หนักกว่า X5 XDrive 50e ถึง 200 กิโลกรัม!

ภายในของ M 50e ตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M ผ้าบุหลังคางานประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึม เมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างยามค่ำคืน คอนโซลด้านบน บุด้วยหนังแบบ BMW Individual ชุดไฟตกแต่งภายใน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศ ฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสําหรับเบาะนั่งตอนหน้าที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

BMW XM 50e พัฒนาด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสาร หน้าจอ BMW Head-up Display ระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System รุ่นใหม่ล่าสุด ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric ให้เสียงขับที่กระตุ้นความตื่นเต้นในโหมดการขับแบบไร้มลพิษ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาแบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto ระบบ Connected Package Professional ข้อมูลที่ครบถ้วนและข้อมูลการจราจรอัปเดตล่าสุด ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในขณะที่ XM 50e (Shadow Line) คันทดสอบ ติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond

ห้องโดยสารเป็นระเบียบเรียบร้อย ทันสมัย หน้าจอกว้างเชื่อมต่อทั้งจอภาพมาตรวัด TFT แสดงผลสำหรับคนขับและหน้าจอสัมผัสสำหรับข้อมูลความบันเทิง สามารถเลือกเบาะนั่งแบบทูโทนสีดำล้วนที่ดูมีรสนิยมหรือดูไม่หรูหราเกินไปเพื่อประดับตกแต่งห้องโดยสารควบคู่ไปกับออปชัน M ปุ่ม M1 M2 ที่ติดตั้งบนพวงมาลัยและคันเกียร์เฉพาะของ M

ระบบเสียง Bowers & Wilkins' exceptional Diamond Surround Sound System มาพร้อมลำโพงคุณภาพสูงของ B&W 20 ตำแหน่ง Amplifier แบบ 20 Channel กำลังขับรวม 1475 วัตต์
Speaker breakdown
2x 25mm Diamond Nautilus® tweeters
5x 25mm Aluminium tweeters
7x 100m Continuum® midrange speakers
2x 217mm Rohacell central bass woofers
4x 40mm 3D speakers
Sound modes
Studio
Concert
On Stage
Rear
Sound processing
QuantumLogic™ immersion processing
AuraVox
Grille material
Stainless Steel / Fabric

XM 50e มีระยะฐานล้อเท่ากันกับ X7 แต่ไม่มีเบาะแถวที่สาม เบาะนั่งด้านหลัง M Lounge แต่แทนที่จะใส่เบาะซิ่งแบบแยกตำแหน่ง XM กลับใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป เบาะหลังให้ความรู้สึกเหมือนโซฟา หุ้มด้วยหนังเนื้อนุ่ม คุณจะนั่งแบบจมลึกเหนือเสา D ล็กน้อย ทำให้ได้ประสบการณ์หรูหราสุดๆ แม้ว่าการปรับเบาะ ฟังก์ชันนวด และระบบระบายอากาศของเบาะหลังจะไม่มีให้ ชิ้นส่วนสวิตช์เกียร์ภายในบางส่วน รวมถึงส่วนของแผงหน้าปัด พวงมาลัย และปุ่มควบคุม คล้ายกับ M2 G87

หัวใจของระบบขับเคลื่อนใน BMW XM XDrive 50e วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร เทคโนโลยี M TwinPower Turbo และระบบขับเคลื่อน M Hybrid ให้กำลังรวมสูงสุด 350 กิโลวัตต์ / 475 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร อัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปุ่ม M Hybrid บริเวณคอนโซลกลางข้างซุ้มเกียร์ สามารถเลือกโหมดการขับได้สามโหมด รวมถึงโหมด ELECTRIC สำหรับ การขับขี่ด้วยไฟฟ้าโดยที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษ มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 280 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดด้วยมอเตอร์เพียวๆ โดยไม่ติดเครื่องยนต์ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ลิเทียม-ไอออน ขนาด 29.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ ชาร์จเต็มเคลมวิ่งไกล 88 กิโลเมตร 

จุดเด่นของระบบขับเคลื่อน XM XDrive 50e
เครื่องยนต์ M TwinPower Turbo 6 สูบเรียง เทอร์โบ
ระบบ BMW M HYBRID drive 350 kW (475 แรงม้า)
0-100 ใน 5.1 วินาที บนรถน้ำหนัก 2.6 ตัน
เกียร์อัตโนมัติ ZF 8-speed M Steptronic transmission with Drivelogic and hybrid module
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ผสาน M Sport differential

XM 50e เร่งความเร็วจาก 0-100 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลา 5.1 วินาที ส่วน X5 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเหมือนกันทุกอย่าง อัดจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.8 วินาที ไม่น่าเชื่อว่า XM 50e ยังช้ากว่า BMW M Performance หลายรุ่น แม้แต่ Z4 M40i เกียร์ธรรมดาที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ยังเร่ง 0-100 แค่ 4.6 วินาที นอกจากนี้ XM 50e ยังช้ากว่าหนูเล็กเด็กไส้กรอกอย่าง BMW M135i ซึ่งเป็นรถเล็กกะทัดรัดที่มีเครื่องยนต์ 4 สูบ วางอยู่บนแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าของ BMW220i แม้ว่า M135i จะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive และตัวหนักพอสมควร แต่เร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 4.9 วินาที เร็วกว่า XM 50e ถึง 0.2 วินาที!

ระบบกันสะเทือน M Professional ประกอบด้วยโช้คอัพ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟที่เซ็ตมาเพื่อส่งถ่ายอารมณ์ M Car ไม่มีโช้คถุงลมที่นุ่มนวลแต่ขึงตรึงด้วยสปริงและโช้ค รวมถึงจุดยึดโยงต่างๆที่อิงกับการทำความเร็ว พวงมาลัยไฟฟ้า Integral Active ระบบช่วยการโคลงตัวแบบแอคทีฟ ควบคุมการโคลงตัว ทำให้ควบคุมได้อย่างคล่องตัวเข้าโค้งได้ง่าย การดูดซับแรงด้านข้าง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารเบาะแถวที่สอง พวงมาลัยไฟฟ้า Integral Active รองรับการขับด้วยความเร็วสูง ล้อหลังจะหมุนขนานกับล้อหน้าเพื่อรักษาเสถียรภาพของรถ ขณะเลี้ยวกลับลำในช่วงความเร็วต่ำ ล้อหลังจะหมุนไปในทิศทางตรงข้ามเล็กน้อย ทำให้คล่องตัวมากขึ้นในพื้นที่คับแคบ

เกียร์ M Steptronic 8 สปีด รุ่นที่สี่ มาพร้อมโหมดเกียร์ธรรมดาแบบสปอร์ต ผ่านแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย โหมด M1 เมื่อกดคันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ (สวิตช์: S/M) ซอฟแวร์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์จะปรับค่ามาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยสององค์ประกอบ คือ: เครื่องยนต์จะรักษาช่วงความเร็วรอบสูง เข้าถึงกำลังขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว องค์ประกอบที่สอง ระบบควบคุมการทำงานของเกียร์จะลดคาบเวลาการเปลี่ยนเกียร์ให้สั้นลง ฟังก์ชัน Launch Control เร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่ทำบ่อยๆไม่น่าจะดีต่ออายุการใช้งานของเกียร์ โหมดอัตโนมัติ เกียร์จะปรับการทำงานให้เข้ากับสไตล์การขับ โหมดแมนนวล ไฟจะแสดงการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสม ไฟแสดงการเปลี่ยนเกียร์ (ในแผงหน้าปัดและบนจอแสดงผล HUD บนกระจกหน้า) เมื่อความเร็วสูงขึ้น เกียร์แปดจะลดความเร็วรอบเครื่องยนต์ ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักของเจ้า XM 50e (8.5 กิโลเมตรต่อลิตร) 

เมื่อชาร์จจนไฟเต็มแบตฯ มอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า รับหน้าที่ขับเคลื่อนในโหมด EV แต่วิ่งได้ไม่ไกลเท่า X5 50e เนื่องจากทั้งใหญ่และหนักกว่าเยอะ เมื่อใช้โหมด EV ทำให้ขับใช้งานในเมืองโดยไม่ปล่อยมลพิษ เป็น SUV สมรรถนะสูงที่วิ่งได้อย่างเงียบเชียบและมีประสิทธิภาพ ไฟเต็มแบตเคลมวิ่งไกล 80 กิโลเมตร แต่.... ปัญหาอย่างหนึ่งคือขนาดของ XM ความยาว 5.1 เมตร กว้างกว่า 2 เมตร แม้จะมีระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังคอยช่วยทำให้มีความคล่องตัว แต่วงเลี้ยวก็ยังกว้างถึง 12.5 เมตร 

BMW XM ในโหมดซิ่งระดับเริ่มต้น เมื่อกดปุ่ม M1 บนพวงมาลัย เกียร์อัตโนมัติจะปรับการทำงานทันที ด้วยการเปลี่ยนอัตราทดที่ช้ากว่าเดิ การเปลี่ยนเกียร์ภายใต้การเร่งความเร็วอย่างเต็มเหนี่ยว เกียร์ ZF จะเลือกตำแหน่งที่มีแรงบิดเหมาะสมกับองศาของคันเร่งแล้วคาเอาไว้แบบลากรอบ โหมด M ไม่ว่าจะเป็น M1 หรือ M2 ซอฟแวร์จะปรับการทำงานของระบบส่งกำลัง เครื่องยนต์ และระบบไฟฟ้าให้ทำหน้าที่อย่างเต็มเหนี่ยว เมื่อทั้งสองระบบถ่ายเทแรงบิดออกมาพร้อมๆกัน คุณจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงจากการเร่งความเร็ว เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงเทอร์โบ B58 ความจุ 3.0 ลิตร ให้เสียงการทำงานที่ยอดเยี่ยมเมื่อเร่งความเร็ว แต่เมื่อขับแบบชิลล์ๆ ก็จะเงียบลงและนุ่มนวลขึ้น อย่างที่บอกว่า XM มีขนาดตัวถังที่ทำให้มันค่อนข้างจะเทอะทะ น้ำหนัก 2,600 กิโลกรัม รู้สึกได้ทันทีที่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ในความเป็นจริงแล้ว รถ M ควรจะให้ความรู้สึกคล่องตัวมากกว่านี้ XM 50e เข้าโค้งได้อย่างราบเรียบและเบรกก็ตอบสนองได้ดี แต่พวงมาลัยไฟฟ้าไม่สามารถปกปิดหรือซ่อนน้ำหนักตัวขนาดน้องๆรถบรรทุก SUV ของ BMW ความเร็วสูงรุ่นอื่นๆ เข้าโค้งได้ดีกว่าและให้ความรู้สึกน่าสนใจในการขับขี่มากกว่า เช่น X6 M

อย่างที่บอกว่า XM ไม่มีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม และรถ SUV พลังงานผสมคันใหญ่ยักษ์รุ่นนี้ ก็ยังยัดล้ออัลลอยลายทึบขนาดใหญ่สุด เพื่อเน้นประสิทธิภาพของการยึดเกาะ ล้อขนาด 23 นิ้ว ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งมาจากโรงงาน และเพื่อให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น XM จึงมีปลายท่อไอเสียเรียงซ้อนกัน มุมด้านบนของกระจกด้านหลังโค้งมน เหมือนเป็นการยกย่อง M1 ในตำนาน จริงๆ แล้ว Domagoj Dukec ดีไซเนอร์ของแบรนด์ตราใบพัด ไม่ได้เกิดในยุคที่ M1 กำลังสร้างประวัติศาสตร์ งานออกแบบจึงไม่ได้เชื่อมโยงกับตำนานของแบรนด์แม้แต่น้อย ท่อแนวตั้งซ้าย-ขวา ฝั่งละสองท่อคู่ มีกลไกของวาว์ลบายพาสอยู่ภายใน วาว์ลทำหน้าที่ปลดปล่อยเสียงท่อท้ายซึ่งใช้ร่วมกับปุ่มควบคุมเสียงท่อที่คอนโซลเกียร์ 

เหยียบคันเร่งแรงขึ้นในโหมดไฮบริด เสียงเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงครางออกมาพร้อมเสียงท่อท้ายที่สุภาพสุด มันไม่ได้ดังสนั่นเหมือน M4 น่าแปลกใจที่เสียงเครื่องยนต์และเสียงท่อไม่ได้เอะอะเอ็ดตะโรเหมือนพวกแว้น เสียงเครื่องยนต์ 6 สูบในรอบสูงทุ้มลึกและเร้าใจเมื่อเหยียบคันเร่งจนมิด เสียงเครื่องยนต์ถูกจูนให้ออกมาเป็นธรรมชาติ การสลับระบบขับเคลื่อน หรือผสมผสานกัน ระหว่างเครื่องและมอเตอร์ ให้ความรู้สึกราบรื่นและเรียบเนียนคล้าย X5 50e แต่การเปลี่ยนแปลงการตอบสนองของคันเร่งนั้นไม่ราบรื่นเท่าที่ควร เนื่องจากความเป็น M Car ในบางอารมณ์เมื่อขับเร็วแบบขยี้ เจ้าหมูเหลืองตัวโตส่งถ่ายฟิลลิ่งมอเตอร์สปอร์ตออกมาให้สัมผัส เครื่องยนต์เร่งความเร็วโดยมีมอเตอร์ชั่วปั่นแรงบิดได้อย่างมโหฬาร การตอบสนองของคันเร่งในโหมด M1 เหมาะกับการขับทางตรงยาวๆ บนไฮเวย์ที่ไม่มีการจำกัดความเร็ว  XM 50e เป็นรถที่แทบจะไม่มีแรงสะบัด หรือกระตุกกระชาก ระบบส่งกำลังในรุ่น 50e ส่งมอบการขับที่สุภาพมากกว่าจะออกมาในแบบชวนทะเลาะ แต่เมื่อไหร่ที่ขับเร็ว XM ปลั๊กอิน ฯ ก็ให้ความมั่นใจได้เหนือกว่าทั้ง X5 X6 หรือแม้แต่ X7 แค่ระวังไม่ให้ล้อตกหลุมเท่านั้นพอ 

XM ไม่ใช้ Adaptive Air suspension ระบบรองรับของมันใช้สปริงเหล็กและโช้คอัพแบบปรับได้ เหมือนกับ Lamborghini Urus Performante คุณควรให้อภัยแรงกระแทกหรืออาการโคลงตัวเมื่อล้อ 23 วิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ XM พิสูจน์ให้เห็นว่าบนทางเรียบและในโค้งยาวนั้นมันคือพระเอก แต่บนถนนที่ขรุขระ มันกลายเป็นพระรองที่มีทั้งแรงกระแทกและเสียงล้อที่บดผ่านหินก้อนจิ๋วบนถนนลูกรัง  BMW M รักษาความหรูหราในการขับเคลื่อนของ  M SUV โดยเฉพาะในย่านความเร็วสูง เสน่ห์ของ XM จะยิ่งแจ่มชัดขึ้นเมื่อคุณขับเร็ว พวงมาลัยปรับตั้งค่าการหน่วงน้ำหนักได้อย่างแม่นยำ น้ำหนักเบาในช่วงความเร็วต่ำ ตึงมือขึ้นมาอีกนิดในโหมด M2 ยิ่งขับเร็ว พวงมาลัยจะหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเฉียบคมในการเปลี่ยนช่องทั้งถือว่าดี การควบคุมตัวถังที่ยอดเยี่ยม รับมือกับผิวถนนแย่ๆที่มีอยู่ตลอดทางตั้งแต่วังน้อยไปจนถึงอำเภอนางรองในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ เบรกให้ความมั่นใจได้พอสมควร แต่ทางที่ดี เมื่อขับรถที่หนัก 2.6 ตัน ก็ควรจะเผื่อระยะเบรกให้มากกว่าเดิม คาร์ลิปเปอร์เบรก M สีดำกับเบรกหน้าแบบ 6 พอต ให้การหยุดยั้งที่ดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นแบบ 10 พอต! 

ในโค้ง MX ที่ใหญ่โตกลับทรงตัวได้อย่างน่าประทับใจ เป็นรถไซล์เดียวกับ X7 แต่เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจมากกว่า พวงมาลัยพยายามปกปิดน้ำหนักตัวหรือมวลเอาไว้แต่ไม่ค่อยจะมิดชิด ต้านทานการเลี้ยวออกนอกโค้งได้ดี มีสมดุลช่วงกลางโค้งหากรักษาคันเร่งเอาไว้ในองศาที่เหมาะสมกับโค้ง เมื่อกดคันเร่งออกจากโค้ง คุณจะรู้สึกได้เลยว่าล้อหลังกำลังผลักรถออกจากโค้งแต่ล้อหน้ายังคงยึดเกาะได้ดีก่อนที่ระบบรักษาเสถียรภาพจะเข้ามาแทรกแซง การควบคุมโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี เหล็กกันโคลงแบบแอ็คทีฟช่วยให้รถนิ่งจนแทบจะไม่มีการเอียงตัว และไม่เสียหลักเมื่อขับบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ

Mercedes-Benz , Range Rover, Lamborghini, Bentley, Aston-Martin และ Rolls-Royce ต่างมุ่งไปที่ SUV สุดหรู ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีค่าตัวเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท ไปจนถึง 30 ล้านบาท หรือมากกว่านั้น สำหรับ XM รูปลักษณ์ของมัน ให้ความรู้สึกเหมือนรถที่ออกแบบโดยผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ซึ่งกำลังไล่ตามความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าคนรวย ไม่ว่าจะเป็น SUV สุดหรูที่เหนือชั้น SUV สปอร์ตที่เหนือชั้น หรือไฮบริดแบบปลั๊กอินที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ XM กลายเป็นรถที่อยู่ตรงกันข้ามกับทุกสิ่งที่แบรนด์ M เคยยึดถือมาตลอดครึ่งศตวรรษ นี่คือรถ M รุ่นพิเศษคันแรก นับตั้งแต่ M1 โผล่ออกมาในยุค 70 เห็นได้ชัดว่าการแหกกฎเกณฑ์ของงานดีไซน์เดิมๆ มักจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางลบของเหล่าบีเมอร์ผู้จงรักภักดี คำวิพากษ์วิจารณ์ที่กล่าวว่าแบรนด์กำลังเดินผิดทางนั้นดูจะแรงเกินไป รถ M บางรุ่นที่แปลกประหลาดแต่กลับขายดีก็มีอยู่หลายรุ่น แม้ XM จะไม่ประสบความสำเร็จด้านตัวเลขยอดขาย แต่การผสมผสานเพื่อให้ทุกสิ่ง ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นรถอย่าง XM 50e สมควรที่จะได้รับคำชมเชย

นอกจากเรือนร่างที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์แล้ว XM 50e ยังมีราคา 6,799,000 บาท แพงกว่า X5 Xdrive 50e ที่เร็วกว่าถึง 1,400,000 บาท ส่วนราคา BMW XM V8 ในไทย ปาเข้าไป 14,899,000 บาท เมื่อมองให้ถี่ถ้วนก็จะพบว่า เครื่องยนต์หกสูบแถวเรียงขนาด 3.0 ลิตร ของ BMW XM 50e เสียภาษีน้อยลงในบางประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร ที่โดนภาษีอานบานตะไท ทำให้ XM XDrive 50e ระบบปลั๊กอินไฮบริด มีราคาที่พอจับต้องได้ในบางประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป BMW XM SUV ขนาดใหญ่คันนี้ เป็นรถ M Car รุ่นเดียวที่จำหน่ายในปัจจุบันและมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ถือเป็นสิ่งที่หายากสุดๆ ในประวัติศาสตร์ของ BMW M.

TECHNICAL DATA XM50e(Shadow Line)
ENGINE AND PERFORMANCE
Enginetype M TwinPower Turbo 6-cylinder inline petrol
Displacement (cm³) 2,998 
Enginepower 230 Kw / 313 hp/5,000 - 6,500 rpm  
Enginetorque ) 450 Nm / 1,750 - 4,700 rpm 
Electric motorpower  145kw / 197 hp
Electric motor torque 280 Nm
Electricrange¹, NEDC 101 km
Highvoltagebatteryenergycontent  29.5 kw
Systemoutput 350 kw 476 hp  
Systemtorque 700 Nm
Topspeed 250 km
Topspeedelectric 140 km
0 -100 km/h 5.1 s
Electricenergyconsumption, NEDC 25.2 kWh/100 km
FUEL CONSUMPTION AND CO2
Combinedfuelconsumption
fromECO Sticker result 52.6 km/l
Combined CO2 44 g/km

WHEELS AND TYRES
double spoke Bicolour 23" M light-alloy wheels star spoke Bicolour
Tyresize
Front: 10 J × 23 / tyres 275/35 R23
Rear: 11 J × 23 / tyres 315/30 R23

DIMENSION
Length 5,110 mm width 2,005 mm /height 1,755 mm
Luggagecapacity(l) 527 - 1,820 L
Curb weight 2,695 Kg

Transmissionandtechnology
8-speed M Steptronic transmission with Drivelogic
Adaptive M Suspension Professional
Driving Assistant Professional
Parking Assistant Plus
Exterior
BMW kidney 'Iconic Glow'
M High-gloss Shadowline with Extended Contents
M Sportbrake, black high-gloss
Comfort Access System
Soft-close function for doors
High-beam assistant
Interior
M Multifunctional Seats for Driver and Front Passenger
M Interior Trim Finishers 'Carbon Fibre'
Ambient light
Cupholder, Temperate
Seatheating frontand rear
Active seat ventilation in the front seats
Massage function front
M seatbelts
Travel & Comfort System
Entertainmentandcommunication
BMW Live Cockpit Professional
BMW ConnectedDrive Services
Bowers & Wilkins Diamond surround sound system
BMW IconicSounds Electric
Smartphone Integration
Wireless charging tray
Safety
Airbag for driver and frontpassenger
Side airbags for driver and passenger
Head airbags for 1ˢᵗand 2ⁿᵈ seat row

Safety
Teleservices
Intelligent Emergency Call
ISOFIX child seat mounting
Dynamic Stability Control (DSC)
Anti-lock braking system (ABS)
Crash sensor
Active Protection
Acoustic protection for pedestrians
Tyre pressure monitoring system
Tyre Repair Kit