ทุกวันนี้ การดำรงอยู่ของรถ Coupe ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์กลับตกต่ำลง เอสยูวีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องขายดีกว่ารถสปอร์ตคูเป้จนบริษัทผู้ผลิตบางแบรนด์ต้องปรับเปลี่ยนแผนงานใหม่โดยยุติสายการผลิตรถยนต์คูเป้บางโมเดลที่มียอดขายไม่เข้าเป้า สำหรับ A5 รุ่น Facelift ทั้งสองประตู Coupe และ 5 ประตู Sportback มีความพิเศษตรงที่รูปแบบของตัวถัง และระบบขับเคลื่อน รุ่นที่บริษัทไมซ์สเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Audi ในไทย นำเข้ามาขายคือ A5 Coupe Facelift รุ่น 45TFSI ใช้เครื่องยนต์ 2 ลิตรเทอร์โบ มีแรงม้า 249 ตัว พร้อมกลไกการขับเคลื่อน 4 ล้อจาก Audi หรือที่รู้จักกันในช่ือ Quattro พร้อมระบบส่งกำลัง เกียร์ออโต้ทวินคลัตช์ S-Tronic 7 สปีด กับการตกแต่งในรูปแบบ S Line Black Edition อุปกรณ์ของ Audi Sport มาตรฐานมาจากโรงงาน ราคานำเข้า 3,699,000 บาท สิ่งที่ทำให้ A5 รุ่นปรับโฉม มีความน่าสนใจก็คือ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบรอบจัดกับแรงบิดแบบจัดเต็ม 370 นิวตันเมตร ที่ทำให้ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 ของ A5 45TFSI อยู่ในอันดับหัวแถวของรถคูเป้เยอรมันราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท

...

...

การขัดเกลาส่วนหน้าอย่างมีชั้นเชิงด้วยสีดำ Black Edition บริเวณชิ้นส่วนต่างๆ เส้นสายแต่ละเส้นที่ทอดผ่านตัวรถมีจุดที่สัมพันธ์และสอดรับกันทั่วทั้งคัน กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวมีขนาดความกว้างและเตี้ยกว่าเดิม การออกแบบในจุดนี้ทำให้รถดูเด่นเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ไฟหน้า Matrix Adaptive LED เป็นอีกจุดที่ออกแบบได้ดี เปรียบเหมือนเครื่องหมายทางการค้าของรถ Audi ยุคใหม่ ตัวถังด้านข้างไหลลื่น มีเส้นคาดด้านข้าง ลากจากขอบไฟหน้าไปจนถึงขอบของไฟท้ายคล้าย Audi new A4 พื้นที่กระจกในสไตล์คูเป้ดูเล็กลง แต่จริงๆ แล้ว A5 มีพื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือ ด้วยความที่มันเป็นรถทรง Coupe รูปลักษณ์ของ A5 จึงออกมาในลักษณะแบน ยาว และเตี้ย ระยะฐานล้อที่กว้างช่วยให้ซุ้มล้อดูใหญ่และเข้ากับล้อลายใหม่ของ S Line เป็นการเน้นถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ที่ยืนยาวมากว่า 40 ปี

-A5 Sportback 40 TFSI S line edition one ราคา 2,799,000 บาท

- A5 Coupé 40 TFSI S line edition one ราคา 2,799,000 บาท

- A5 Sportback 45 TFSI quattro S line edition one ราคา 3,699,000 บาท

- A5 Coupé 45 TFSI quattro S line edition one ราคา 3,699,000 บาท (คันทดสอบ)

...

A5 Sportback Edition One พยายามรักษาแนวคิดอนุรักษนิยมของแบรนด์สี่ห่วง ด้วยรูปลักษณ์ที่ลงตัว แนวหลังคาโดยเฉพาะเสาท้าย ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากรถคู่แข่ง การออกแบบในรุ่น Facelift ยังคงเอกลักษณ์ของ Audi ทำให้ A5 ใหม่ ปราดเปรียวขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว การขัดเกลาส่วนหน้าอย่างมีชั้นเชิงด้วยพลาสติกสีดำในชุดตกแต่ง Black Edition บริเวณชิ้นส่วนต่างๆ กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวมีขนาดความกว้างและเตี้ยกว่าเดิม การออกแบบในจุดนี้ทำให้รถดูเด่นเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

...

A5 Sportback Edition One ติดตั้งไฟหน้า Matrix Adaptive LED ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติในการยกหรือลดไฟสูงพร้อมเบี่ยงเบนลำแสงไม่ให้ไปรบกวนรถที่แล่นสวนมา เป็นอีกจุดที่ออกแบบได้ดี มีประสิทธิภาพการทำงานด้วยกำลังในการส่องสว่างเพื่อทำให้การขับบนถนนที่มืดมิดมีความปลอดภัย ไฟหน้าและกระจังหน้า เปรียบเหมือนเครื่องหมายทางการค้าของรถ Audi ยุคใหม่ ตัวถังด้านข้างไหลของ A5 รุ่น 5 ประตู Fastback ไหลลื่น มีเส้นคาดด้านข้าง ลากจากขอบไฟหน้าไปจนถึงขอบของไฟท้ายคล้าย Audi new A4 พื้นที่กระจกในสไตล์คูเป้ดูเล็กลง แต่จริงๆ แล้ว A5 มีพื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือ ด้วยความที่มันเป็นรถทรง Coupe 5 ประตู รูปลักษณ์ของ A5 Sportback จึงออกมาในลักษณะแบน ยาว และเตี้ย หลังคาลาดเอียงไปยังส่วนท้ายสไตล์ Liftback ระยะฐานล้อที่กว้าง ช่วยให้ซุ้มล้อดูใหญ่และเข้ากับล้อลายใหม่ของ S Line เป็นการบ่งบอกถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ที่ยืนยาวมากว่า 40 ปี

อากาศพลศาสตร์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และค่ายรถเยอรมันก็ให้ความสนใจมากกว่าในอดีต รุ่น Sportback มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.26 เท่ากับ A6 Avant รุ่นพี่ ทรงของรถโดยเฉพาะส่วนหน้าที่ปะทะกับกระแสลมถูกออกแบบให้ลดแรงต้านของอากาศ ครีบและช่องรับอากาศบริเวณกันชนหน้า ช่วยรีดอากาศ และนำลมเย็นส่วนหนึ่งไประบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ ชายล่างของกันชนหน้าออกแบบให้เป็นช่องอากาศยาวขนานไปกับส่วนล่างของกันชนเพื่อสร้างแรงกดส่วนหน้า ใต้ท้องรถถูกปิดคลุมทั้งหมดเพื่อลดแรงต้าน และช่วยทำให้อากาศไหลผ่านได้เร็วขึ้น

อีกหนึ่งเป้าหมายหลักของ Audi ก็คือ การกำจัดน้ำหนักส่วนเกิน A5 Sportback เบาขึ้นนิดเดียว ชิ้นส่วนอะลูมิเนียมและเหล็กกล้า รวมกับช่วงล่างอะลูมิเนียมแบบ Five link ทำให้น้ำหนักส่วนหน้าของ A5 เบาขึ้น 4 กิโลกรัม พวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ ลดน้ำหนักได้อีก 5 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบเบรกโดยขึ้นตรงกับกำลังของเครื่องยนต์ คาร์ลิปเปอร์อัลลอยสีแดง เบาลงอีก 4 กิโลกรัม พร้อมประสิทธิภาพในการเบรกที่ดีขึ้นกว่าเดิม การจูนระบบรองรับด้วยมือชั้นปรมาจารย์ของ Audi ให้ความรู้สึกนุ่มสบายไร้ความกระด้าง แม้จะใส่ยางแก้มเตี้ย Series 35 เนื่องจากลูกค้าในยุคนี้ ส่วนใหญ่รักความสบายและไม่ชอบรถที่มีช่วงล่างแข็งกระด้างเกินไป

A5 ใหม่ มีให้เลือก 2 ตัวถัง 2 สไตล์ คือ รุ่น 2 ประตู 4 ที่นั่ง Coupe และรุ่น 4 ประตู 4 ที่นั่งในรุ่น Sportback สำหรับรถทดสอบ Audi A5 Sportback  ที่นำมารีวิวในอาทิตย์นี้ ประจำการด้วยเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.8 วินาที ในเวอร์ชั่น 45 TFSI พร้อมกลไกขับเคลื่อนทุกล้อ Quattro ราคา 3.6 ล้านบาท เทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes Benz C350e AMG Dynamic (W206) ราคา 3,290,000 บาท BMW 330e M Sport LCI (G20) ราคา 2,949,000 บาท ก็จะพบว่า Audi 5 Sportback 45 TFSI Quattro Edition One มีราคานำเข้าที่แพงกว่ารถคู่แข่งที่ประกอบในประเทศทั้งคู่ A5 Sportback มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม สมรรถนะด้านการยึดเกาะด้วยระบบ Quattro และตัวเลขอัตราเร่ง ทำให้ A5 45 TFSIแม้จะขายสู้ไม่ได้แต่สมรรถนะก็เหนือกว่ารถคู่แข่งร่วมสัญชาติเยอรมนี (ขับเคลื่อนล้อหลัง) อยู่นิดๆ โดยเฉพาะการทรงตัวในย่านความเร็วสูง จากการผ่องถ่ายแรงบิดที่มีความสมดุลของชุด Quattro  

A5 Sportback Edition One มีดีไซน์ที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง C350e และ 330e ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สี่ห่วง เน้นความคมเข้มกลมกลืนทั่วทั้งคัน การปรับปรุงของ A5 กระจังหน้าทรงตาข่ายสีดำเงาที่เฉียบคมมากขึ้น ไฟหน้า Matrix LED ที่มีดีไซน์คมกริบ พร้อมชุดไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running สปอยเลอร์หน้าขนาดใหญ่พร้อมช่องรับอากาศบริเวณชายล่างและด้านข้าง ฝากระโปรงใช้เส้นที่เฉียบคมลากจากไฟหน้าไปจนถึงแนวของกระจกมองข้าง ฝากระโปรงหน้า ประตูทั้ง 2 บาน และฝาท้ายทำจากอะลูมิเนียม ล้ออัลลอยลายใหม่ล่าสุด 5-double-arm 19 ของ Audi Sport ขนาด 19” x 8.5J กับยางสปอร์ตแก้มเตี้ยราคาแพงจาก Bridgestone รุ่น Potenza S001 ไซส์ 255/35/R19 96Y ทั้งสี่ล้อ ชุดเบรกของ A5 Sportback 45 TFSi ด้านหน้าใช้คาร์ลิปเปอร์แบบ 4 พอต สีแดง ส่วนด้านหลังเป็นแบบซิงเกิลพอต แก้มข้างประทับตรา S-Line รุ่นตกแต่งพิเศษด้วยอุปกรณ์เสริมความหล่อสีดำเงาในรูปแบบของ Edition One ด้วยสปอยเลอน์หลังคาร์บอนไฟเบอร์เคลือบเงา 

ด้านข้างตัวรถ มองเห็นเสากหน้าที่โค้งลดองศาความลาดเอียงลงไปยังส่วนท้าย เสาหลังแตกต่างจาก A5 Coupe บั้นท้ายสไตล์ Fastback สวยงามสมส่วน ด้วยกันชนหลังที่ออกแบบให้กลมกลืนไปกับทรงของฝาท้ายและไฟท้าย LED ท่อระบายไอเสียทรงเหลี่ยมแบบแยกฝั่ง กับกันชนหลังขนาดใหญ่และชิ้นงานตกแต่งตัวถังภายนอกสีดำเงา ตัดกับตัวถังสีแดง Progressive red metallic (B1B1) ทรงที่ดูเรียบง่าย จากความลงตัวของเหลี่ยมมุมรอบคัน และสีแดงสดใส เสริมให้ตัวถังของA5 Sportback ดูสว่างตา จัดจ้านและมีความโดดเด่นมากกว่าสีอื่นจากความเงาวาวของสีแดงเบอร์ B1B1

บั้นท้ายเน้นเส้นเหลี่ยมที่ลงตัว ไฟท้าย LED ฝาท้ายไฟฟ้า กันชนหลังเรียบง่าย ชายล่างของชุดกันชนแบบใหม่มีแผงไฟมัลติรีเฟลกเตอร์ ท่อระบายไอเสียทรงเหลี่ยมทั้งสองฝั่ง รวมถึงพลาสติกชายล่างกันชนหลังที่ออกแบบคล้ายครีบรีดอากาศ diffuser ตำแหน่งที่ทำออกมาได้เนียนก็คือ ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED สปอยเลอร์บนฝาท้ายทำจากคาร์บอนไฟเบอร์โชว์ลาย มิติตัวถังของ A5 Sportback 45TFSI Quattro S-Line Edition One มีความกว้าง 1,843 มิลลิเมตร ยาว 4,757 มิลลิเมตร สูง 1,386 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,824 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า 1,587 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหลัง 1,568 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,690 กิโลกรัม ความจุถังเชื้อเพลิง 58 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้าย 465-1280 ลิตร

ภายในมีขนาดพื้นที่ใช้สอยสูสีกับ 330e และ C350e ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะของเบาะหลัง A5 45 TFSI ติดตั้งจอภาพมาตรวัดและจอมอนิเตอร์กลางระบบมัลติมีเดีย MMI Plus จอภาพที่สั่งงานด้วยฟังก์ชันใหม่ในระบบสัมผัส เทคนิค Virtual Cockpit ทำให้ห้องโดยสารของแบรนด์สี่ห่วงมีบรรยากาศที่เรียบง่าย ไม่เน้นความฉูดฉาดของโทนสี แตกต่างจากรถคู่แข่งทั้ง BMW และ Mercedes อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะความหรูที่เรียบง่าย แดชบอร์ดคอนโซลขึ้นรูปด้วยโฟมแล้วหุ้มด้วยวัสดุไวนิล จอมอนิเตอร์กลางใช้ฟังก์ชันสั่งงานแบบใหม่ แผงควบคุมอุณหภูมิที่ใช้งานได้ง่าย คอนโซลซุ้มเกียร์ที่ถูกตัดแผงควบคุมออกไปแล้วใช้การสัมผัสที่หน้าจอภาพในการสั่งงาน เบาะนั่งทั้งสี่ตำแหน่งของ S Line เบาะหุ้มหนัง Fine Nappa ค่ายสี่ห่วงยกระดับความหรู ด้วยการจัดเบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports ตกแต่งแบบ diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line บริเวณพนักพิงหลัง เบาะไฟฟ้าของมันมาพร้อมกับฟังก์ชันนวดเพื่อความผ่อนคลาย เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง และฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่ เบาะผู้โดยสารด้านหลังออกแบบให้สามารถพับได้ new A5 มีภายในที่แสดงออกถึงตัวตนของยานยนต์จาก Audi อย่างชัดเจนโดยไม่มีกลิ่นของรถคู่แข่งโผล่ออกมาให้เห็น เอกลักษณ์ของมันก็คือ ความเรียบง่ายจากการจัดวางอุปกรณ์เท่าที่จำเป็น

พวงมาลัย Sport S Line ทรงสามก้าน ก้านวงมีสวิตช์มัลติฟังก์ชัน หลังวงพวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle shift ขนาดกกะทัดรัด พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ทรงสปอร์ตของ A5 มีรอบวงที่พอดีไม่ใหญ่หรือเล็กจนทำให้ใช้งานไม่ถนัด ทรงแบบฐานตัดยังช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเข้า-ออกจากเบาะคนขับ สำหรับการปรับตั้งเพื่อเพิ่มความสามารถในการควบคุมทิศทาง เกิดจากการปรับตั้งค่าของการตอบสนองที่ขึ้นตรงกับโหมดของการขับเคลื่อนกับสปีดความเร็วที่ใช้ในขณะนั้นๆ เนื่องจากเป็นพวงมาลัยไฟฟ้า Audi ต้องการให้ความรู้สึกของการหมุนเพื่อเปลี่ยนทิศทาง ออกมาในลักษณะที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด การปรับระยะของพวงมาลัยทำได้ 4 ทิศทางเหมือนกับรถคู่แข่ง รวมถึงความเที่ยงตรงขณะเลี้ยวหรือขยับไปมาเพื่อเปลี่ยนช่องจราจร

คอนโซลที่คาดด้วยชิ้นงานอัลลอยสีเงินที่ทำออกมาเพื่อเพิ่มความหรูหรา ภายในของ A5 ใหม่ มีทั้งหนังสังเคราะห์และอะลูมินั่มอัลลอยสีเงินที่คล้ายการตกแต่งภายในของ BMW โดยเฉพาะซุ้มเกียร์ที่มีความหรูหราจากคันเกียร์ที่มีหน้าตาคล้ายกับคันเร่งของเรือยอชต์ ช่องวางแก้วน้ำ สวิตช์สั่งงานระบบเบรกมือไฟฟ้า สวิตช์ควบคุมระบบเบรกหรือ Auto Brake Hold ปุ่มควบคุมเสียงของระบบเครื่องเสียง Bang & olufsen พร้อมลำโพงคุณภาพสูงในระบบ 3D

Bang & olufsen Audi A5 Specifications
Design Sportback + Coupé
Dynamic Lines design with aluminum details
Front door woofer grills are LED illuminated

Sportback + Coupé
19 loudspeakers
Optimized speaker in front door – DHS principle

Amplifier
Sportback + Coupé
16-channel DSP amplifier with more than 750 watts

3D sound settings let you choose between three intensity levels
5.1 Surround Sound (only available with the MMI Navigation plus)
Diverse sound setting options
Vehicle Noise Compensation

วัสดุตกแต่งพวกหนัง อัลลอยและพลาสติกเกรดเดียวกับ BMW ปุ่มและสวิตช์ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้ความคุ้นเคยกันให้มากเรื่อง จุดที่ดูดีและทำออกมาได้โดนใจนักขับรุ่นใหม่ก็คือจอภาพมอนิเตอร์กลาง และมาตรวัด TFT LCD เทคโนโลยี Virtual Cockpit ซึ่งถูกนำมาปรับแต่งเพื่อใช้งานใน new A5 โดยยกมาจากรถสปอร์ตรุ่น TT ช่วยให้ห้องโดยสารของ new A5 มีปุ่มควบคุมที่ลดลง ระบบรับคำสั่งแบบ Voice Command ฟังก์ชันรับคำสั่งด้วยเสียงแบบใหม่ที่ใช้งานได้ง่าย Virtual Cockpit พัฒนาโดย Andre Ebner โดยย่อหน่วยความจำของสมองกลไฟฟ้าให้มีขนาดที่เล็กลง เพื่อนำมาใช้งานในรถยนต์ การออกแบบภายในและจัดวางอุปกรณ์ที่เน้นความเท่ขรึม และเส้นสายโปร่งเบาพลิ้วไหวช่วยสื่อความเป็นสปอร์ตของรถ A5 Coupe ได้เป็นอย่างดี การดีไซน์ภายในห้องโดยสารใช้เส้นแนวนอนและพื้นผิวมาเน้นความกว้างขวางเช่นเดียวกับการออกแบบภายนอก ส่วนของคอนโซลกลางที่เชื่อมโยงการใช้งานอุปกรณ์โดยกำหนดให้ตำแหน่งคนขับเป็นจุดศูนย์กลาง การออกแบบตำแหน่งของท่านั่งขับที่ดีช่วยรับน้ำหนักขาขณะขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

ห้องโดยสารของ A5 Sportback 45TFSI เคร่งขรึมด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แผงหน้าปัดมาตรวัดสามารถปรับการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย ใช้จินตนาการออกแบบให้มีรูปทรงที่มองดูคล้ายปีกของเครื่องบิน ช่องแอร์ทรงเหลี่ยมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตในตระกูล A5 ก็ยังถูกนำมาใช้ จอแสดงภาพมัลติมีเดีย อินเตอร์เฟส (MMI Screen) เป็นจอภาพที่ให้ความคมชัดสูงแม้จะขับท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า งานออกแบบที่ล้ำสมัยผสมผสานกันจนออกมาเป็นจอแสดงผลดิจิทัล ผลการตั้งค่าต่างๆ จะแสดงบนจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว

มาตรวัด Virtual Cockpit ของ A5 มีความคมชัด สามารถปรับรูปแบบของการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย เพื่อสร้างบรรยากาศที่มีความทันสมัยน่าใช้งาน เป็นการผสมผสานหน้าปัดมาตรวัดที่แสดงผลความเร็ว รอบเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ ผนวกรวมเข้าไว้กับ Infotainment ต่างๆ เช่น ระบบนำทางด้วยดาวเทียม ระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์หรือมัลติมีเดีย โดยทำการแสดงผลผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ที่อยู่ตรงหน้าผู้ขับ เข็มความเร็วและวัดรอบจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นแบบการแสดงภาพที่คมชัดมาก จอระบบนำทางเล็กๆ อยู่ตรงกลาง หรือหากไม่ชอบก็สามารถเลื่อนเปลี่ยนได้

จอภาพ TFT ปรับขนาดของมาตรวัดในจอภาพให้เป็นไปตามที่ต้องการได้สามรูปแบบ ผสมกับการแสดงผลจอภาพทั้งหมดที่เชื่อมโยงระบบนำทางและกำหนดพิกัดผ่านดาวเทียม จอภาพมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว ในหน้าปัดมาตรวัดแบบใหม่ของ New A5 ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีกเพียบ การใช้งานท่ามกลางเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยน ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต้องคิดค้นหาวิธีผูกมัดใจคนซื้อให้อยู่หมัดด้วยของเล่นแปลกๆ ที่ทันสมัย มาตรวัดแบบ TFT LCD หรือ thin film transistor ยังมีอยู่ในรถระดับสูง เช่น Lamborghini / Ferrari / Mercedes Benz / BMW / Volvo / Lexus ฯ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็พยายามสร้างสรรค์งานศิลปะบนความเป็นไดนามิกที่น่าใช้งานในรถรุ่นใหม่ ราวกับนักมายากล Virtual Cockpit ของ new A5 Coupe ยังสามารถแสดงค่าต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงการโชว์ระบบ Infotainment ด้วยความคมชัด

Audi A5 Sportback 45TFSI Quattro S Line Edition One วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ระบบไฟฟ้าเสริม mild hybrid (MHEV) ขนาด 12 โวลต์ เครื่องยนต์เบนซินความจุ 2 ลิตร 1,984 ซีซี 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมกลไกวาล์วแปรผัน Audi Valvelift system อัดอากาศด้วยเทอร์โบลูกเดี่ยว ลดอุณหภูมิไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 185 กิโลวัตต์ หรือ 249 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดลงไปที่ล้อทั้งสี่ผ่านระบบ Quattro ด้วยตัวเลข 370 นิวตันเมตร เกียร์ออโต้ขับเคลื่อน 4 ล้อ S-Tronic 7 Speed ต่อเชื่อมกับระบบขับเคลื่อน Quattro เวอร์ชั่นล่าสุด! สำหรับตัวเลขสมรรถนะ A5 Sportback เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 5.8 วินาที มีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เกียร์คลัตช์คู่ S-tronic 7 speed transmission มีการตอบสนองของชุดส่งกำลัง 3 ระดับ คือ

D - ออโต้เต็มระบบ

S - สปอร์ต เกียร์ทำงานเร็วขึ้น มักคาอยู่ในเกียร์ 4 นานกว่าปกติ ในลักษณะลากรอบ

M - เกียร์แมนนวล สำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง การใช้เกียร์ S หรือ M ให้เหมาะสมกับเส้นทาง หรือสไตล์การขับ 

E - เกียร์ประหยัด ลดการตอบสนองลงเพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เกียร์ในโหมดนี้ จะไล่อัตราทดขึ้นสู่เกียร์สูงอย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้อัตราสิ้นเปลืองลดลง

ช่วงล่างด้านหน้าและหลังเป็นแบบ Five link มีชิ้นส่วนที่ทำจากโลหะอัลลอยผสมกับเหล็กเพื่อลดน้ำหนักใต้สปริง ทำให้ช่วงล่างของ A5 ให้ความรู้สึกที่เป็นกลางและเป็นธรรมชาติ การปรับตั้งค่าของโช้คอัพและสปริง ทำให้รถสามารถยึดเกาะกับถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเบรก ด้านหน้าใช้เบรกแบบคาร์ลิปเปอร์อัลลอย 4 พอต พ่นสีแดงแต่ไม่มีตราสัญลักษณ์อะไรทั้งสิ้น ด้านหลังแบบซิงเกิลพอตพ่นสีแดงอีกเช่นกัน พร้อมจานเบรกแบบมีช่องระบายความร้อนกับตัวช่วยเบรก เช่นระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS anti lock brake system ระบบกระจายแรงเบรก EBD electronic brake distribution ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR anti slip regulation และระบบควบคุมการทรงตัว ESC electronic control system with stability function

ในเมือง เบาะนั่งสบายทำให้ขับนานๆแล้วไม่เมื่อย เมื่อลองขับด้วยโหมด Comfort ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร นี่คือ Audi ที่มีตำแหน่งท่านั่งขับที่ลงตัว ระบบ MMI ล้วงแคะแกะเกาเข้าไปดูฟังก์ชัน หรือเข้าไปปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ง่าย เครื่องเบนซิน 4 สูบ แถวเรียง อัดเทอร์โบ เมื่อขับในรอบต่ำวิ่งผ่านถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี การใช้ความเร็วต่ำทำให้รถสี่ห่วงคันนี้ไม่สามารถสำแดงฤทธิ์เดชหรือตัวตนที่แท้จริงออกมาให้เห็น เนื่องจากสภาพการจราจรที่หนาแน่นบนถนน คันเร่งถูกใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป พอพ้นช่วงแยกสองพี่น้องก็จะเริ่มคล่องตัวมากขึ้น แม้จะเป็นรถ 5 ประตูที่ไม่มีขอบบานกระจก แต่การเก็บเสียงที่ย่านความเร็วเดินถือว่าทำออกมาได้ดี ความเงียบของห้องโดยสารไม่แตกต่างไปจากรถคู่แข่ง น้ำหนักตัว 1.5 ตัน เบากว่า Series-3 ซึ่งมีน้ำหนักตัว 1.7 ตัน พวงมาลัยในโหมดมาตรฐาน Comfort เบาสบายข้อมือ พวงมาลัยไฟฟ้าของ A5 ที่ความเร็วต่ำรู้สึกเบาอย่างชัดเจน

ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า A5 ล้าหลังกว่ารถ Gran Touring เยอรมันรุ่นอื่นๆ ในแง่ของไดนามิก แต่ A5 นั้นคมพอสำหรับการขับใช้งานในเมืองและให้อารมณ์สุนทรีย์เมื่อขับทางไกล โดยเฉพาะเส้นทางที่มีโค้งมากเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ A5 ไม่ว่าจะเป็น Coupe, Cabriolet หรือ Sportback มีการยศาสตร์ที่สมดุล นึกภาพว่าคุณต้องการท่านั่งในรถสปอร์ตแบบไหน เบาะนั่งแบบปรับได้เตี้ยสุดๆ พวงมาลัยแบบสูงสไตล์รถแข่งที่ปรับได้ครอบคลุมสี่ทิศทาง แนวกระจกหน้าต่างสูงกว่าไหล่ของคุณ นั่นคือตำแหน่งท่านั่งของรถคูเป้ตามแบบฉบับรถซิ่งเดอพาเลซ!

เรื่องไดนามิก หลายคนได้รับความสนุกอย่างเต็มที่จากรถขับหลังอย่าง BMW Series-3 330e  แต่ A5 45TFSI กับชุด Quattro มีการบังคับเลี้ยวที่เฉียบคม เป็นรถที่จูนส่วนหน้าให้เกาะกับถนนได้ดี Audi เป็นเจ้าแห่งระบบขับเคลื่อนทุกล้อที่ทำมานาน 40 ปี เรื่องความเสถียรและความนิ่งในย่านความเร็วสูงนั้นเชื่อใจได้ว่าดีแน่นอน รถที่ต้องนำเข้ามาด้วยราคาภาษีที่แพงกว่ารถประกอบในประเทศ คือข้อด้อยของ Audi ทุกรุ่น ซึ่งออปชันเสริมจะถูกลดทอนลงไปตามความสำคัญเพื่อทำราคาให้พอจะต่อสู้กับ BMW และ Mercedes ได้บ้าง ภายในของ A5 แม้จะเรียบง่าย แต่ใช้วัสดุเกรดเดียวกับแบรนด์คู่แข่ง พลาสติกและโลหะที่ใช้ตกแต่งก็ดูดี การตกแต่งทางเทคนิคที่เรียบง่าย โดยเฉพาะคอนโซล แดชบอร์ด จอภาพ ชุดควบคุมอุณหภูมิ ระบบสาระบันเทิงและโหมดการขับขี่ใช้งานง่าย หน้าจอสัมผัสของ A5 ใช้การสัมผัสหรือแตะที่จอภาพเพื่อสั่งงาน ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ (อยู่ใต้ชุดควบคุมอุณหภูมิ) Audi Drive Select ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อนต่อการปรับโหมดขับเคลื่อน ค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการทำงานของระบบเกียร์ 7 สปีดที่มีคลัตช์สองชุดนั้นเนียนและเร็วจนไม่รู้สึกถึงอัตราทดที่เปลี่ยนขึ้นลงผกผันไปกับความเร็วอยู่ตลอดเวลา 

Dynamic Mode เปิดเผยศักยภาพของเครื่อง 2 ลิตรเทอร์โบเดี่ยว และการทำงานที่ราบเรียบแต่ว่องไวของเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด เสียงเครื่องยนต์ครางในรอบสูงเร้าใจใช้ได้จากเสียงที่ผ่านท่อเดิม โรงงาน งานตกแต่งห้องโดยสารมีความหรูหราเป็นรอง Mercedes Benz C350e AMG Dynamic รวมถึง BMW 330e M Sport LCI เนื่องจากเป็นโมเดลที่ออกมานานกว่ารถคู่แข่ง A5 Sportback ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 40 หรือ 45 เหมาะสมกับการขับใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นรถที่ให้ทั้งความนิ่มนวลและหนักแน่นในบางจังหวะเมื่อขับเร็วขึ้น การเรียกพลังงานของเครื่อง 2.0 TFSI ออกมาใช้นั้นง่ายดายมาก แค่จมคันเร่งลงจนสุด แต่ก็ต้องระวังเพราะความเร็วที่พรวดพราดขึ้นไป เพราะความเร็วสูงต้องการระยะเบรกที่มากพอ ! ชัดเจนว่าเครื่องเบนซิน TFSI เป็นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดี เกียร์ 7 สปีด แม้จะมีอัตราทดน้อยกว่าคู่แข่ง แต่ทำหน้าที่ได้ฉับไว Audi แสดงให้เห็นว่าการมีแค่ 7 เกียร์นั้นเพียงพอแล้วสำหรับอัตราทดที่ครอบคลุมทุกย่านความเร็ว คุณสามารถระเบิดพลังงาน 370 นิวตันเมตรได้ในรอบต่ำแค่ 1,600 ลากยาวไปถึง 4,600 รอบต่อนาที พร้อมๆกับการตอบสนองอย่างว่องไวของเกียร์คลัตช์คู่ แรงดึงที่เกิดจากแรงบิดถ่ายลงไปยังล้อทั้งสี่แบบเฉลี่ยอิสระเพื่อความสมดุลสูงสุดจะทำให้รู้สึกมั่นใจเมื่อขับเร็ว สัมผัสของการพุ่งทะยานนั้นทำให้รู้สึกดีทุกครั้งเมื่อเร่งแซง 

อัตราสิ้นเปลืองเมื่อขับเรื่อยๆ ในโหมด Auto อยู่ในระดับ 13 กิโลเมตรต่อลิตร การ ปรับเข้าสู่โหมดสูงสุด Dynamic แล้วขับเร็วขึ้น อัตราสิ้นเปลืองหล่นลงมาเหลือ 10.3 กิโลเมตรต่อลิตร ในโลกแห่งความเป็นจริง คนที่ควักเงินซื้อรถเยอรมันราคา 3.6 ล้าน มักไม่ค่อยใส่ใจกับอัตราสิ้นเปลืองมากเท่ากับฟิลลิ่งหลังพวงมาลัย รวมถึงควาชอบส่วนตัวที่มีต่อแบรนด์ เครื่องยนต์เทอร์โบยุคใหม่ปรับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การบริหารเชื้อเพลิงเมื่อขับไม่เร็ว ที่ 100- 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ในเกณฑ์ดี ไม่กินดุซดหนัก ออกมาในแบบสมเหตุสมผล อัตราสิ้นเปลืองที่ผมลองขับทดสอบ ถือว่าไม่เกินเลยต่อความเป็นจริง รถจะกินน้ำมันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝ่าเท้าของคุณ ว่าจะทนความยั่วยวนของแรงม้าแรงบิดได้หรือเปล่า น้ำหนักตัว 1.6 ตัน จากการใช้อัลลอย ที่ถูกนำมาใช้เป็นโครงสร้างหลักและเปลือกของตัวถัง เครื่องยนต์และเกียร์ที่ถูกปรับให้กินน้ำมันตามความเป็นจริงของการใช้คันเร่ง เมื่อขับเร็วก็กินเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากเท่ากับคู่แข่ง ขับช้าก็ประหยัดเหมือนรถยนต์เครื่อง 2 ลิตรทั่วไป

รถสปอร์ตต้องการการควบคุมที่แม่นยำ สำหรับ A5 ความแม่นยำและการยึดเกาะ เกิดขึ้นจากการทำงานผสมผสานกันของชุดบังคับเลี้ยวและช่วงล่างแบบ Five link ผสมกับล้อและยาง Potanza S001 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ที่มอบความรู้สึกในแบบกลไกมากกว่าแบบสังเคราะห์ คุณสามารถเล็งหัวโค้งพร้อมๆ กับการหักเลี้ยวด้วยความเร็วที่สูงกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมๆ กับการส่งคันเร่งเมื่อออกจากปลายโค้งด้วยการยึดเกาะที่ทำให้รู้สึกประทับใจ! ระบบ Quattro ผกผันแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างแบบอิสระ เป็นต้นทุนราคาแพงที่ทำให้เกิดรสชาติของการควบคุมที่แปลกแยกแตกต่างไปจากรถคู่ต่อสู้ มันเป็นรถที่ขับได้แทบจะทุกสถานการณ์และทุกสภาพอากาศ เมื่อฝนตก คุณจะรัก Quattro ไม่จำเป็นจะต้องขับออกทางไกลเสมอไป แต่การลากยาวบนทางไกลแบบไฮเวย์นั้น เจ้า A5 จะสามารถสำแดงประสิทธิภาพได้เหนือกว่าการขับแบบย่องแล้วหยอดอยู่แต่ในเมือง!

A5 Sportback 45 TFSI quattro S line Edition One

แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid (MHEV) 4 สูบ พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection), เทอร์โบชาร์จ
จำนวนวาล์ว 16
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,984 ซีซี.
แรงม้าสูงสุด (183 กิโลวัตต์ 249 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro)
อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. 5.8 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม. / ชม.
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system)

พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้าอัตราทดแปรผัน
เบรกหน้า ดิสก์เบรก
เบรกหลัง ดิสก์เบรก
พื้นที่เก็บสัมภาระ 450 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร
ล้อลาย 5-double-arm 19 นิ้ว ขนาด 8.5J x 19
ยาง ขนาด 255/35 R19
ยางอะไหล่

ระบบความปลอดภัย
A5 Sportback 45 TFSI quattro S line Edition One
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system)
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with
stabilization function)
เซนเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
ชุดปฐมพยาบาล

อุปกรณ์มาตรฐาน
ช่วงล่างแบบ Sports

คาร์ลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Black Edition
ชุดตกแต่งภายในแบบ S line
หลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยลาย Matte Brushed Aluminium
ไฟหน้าแบบ Matrix LED
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
กระจกมองข้างตัดแสงและปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันบันทึกตำแหน่ง

ความสะดวกสบาย

เบาะนั่งหุ้มหนัง Fine Nappa
เบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports ตกแต่งแบบ diamond cut พร้อม
สัญลักษณ์ S line และฟังก์ชันนวดเพื่อการผ่อนคลาย
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง และฟังก์ชัน
บันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่
เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ S line และ Paddle shift
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control)
กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิดฝากระโปรงท้ายโดยไม่
ต้องใช้มือ

ระบบข้อมูลและความบันเทิง
เครื่องเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 10.1 นิ้ว
ระบบ Audi smartphone interface
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
ช่องเชื่อมต่อ USB
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับสีได้ 30 เฉดสี (Contour/ambient lighting)