ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ZEEKR Intelligent Technology) บริษัทผู้ผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยวางรากฐานการเป็น A Luxury Technology Brand for a New Era ผ่านไปแค่ 29 เดือนหลังจากเปิดแบรนด์ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยม ZEEKR ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า 240,000 คัน ไปยังทุกตลาดทั่วโลก ZEEKR นับเป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับในระดับสากลอย่างรวดเร็ว และประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นของบริษัทให้กับสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปี พ.ศ. 2567 เรียกได้ว่า เป็นแบรนด์น้องใหม่มาแรงที่มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานสะอาดที่ยกระดับให้เทียบเท่ากับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในฝั่งยุโรป 

...

...

ZEEKR Intelligent Technology ก่อตั้งในปี 2021 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมของ Geely ยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ เจ้าของแบรนด์ Volvo, Polestar, Lotus และ Smart สำหรับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า Zeekr Europe มีรถยนต์ไฟฟ้า ZEEKR X และ ZEEKR 001 Estate รวมถึง ZEEKR 009 Luxury MPV เป็นตัวขายในทวีปยุโรป สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา ZEEKR ยังเจาะไม่เข้า ทั้ง ZEEKR X และ ZEEKR 001 ใช้แพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) ของ Geely โดย ZEEKR X Crossover ใช้พื้นฐานร่วมกับ Volvo EX30 รวมถึง Smart 1 และ 3

...

...

ผู้อำนวยการแผนกออกแบบ Stefan Sielaff ซึ่งเคยทำงานอยู่ใน VW Group และ Mercedes-Benz ปรับแต่งรูปลักษณ์ของ ZEEKR X ให้มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะส่วนท้ายที่คล้ายกับ BMW  การออกแบบภายนอกดูเหมือนเป็นการผสมผสานเรือนร่างของ BMW i3 และ iX แม้ว่าจะดูแปลกตา แต่หลังคาพาโนรามิกก็ให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ZEEKR X มีความยาว 4.4 เมตรและกว้าง 1.8 เมตร ทำให้ มีขนาดที่ใหญ่กว่า EX30 และ Smart มิติของ X อยู่ระหว่าง Volvo XC40 Recharge และ Mercedes EQA ซึ่งเป็นครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดที่เน้นความคล่องตัวในเมือง และไม่ใช่เอสยูวีอย่างที่บริษัทรถชอบเรียกกันเพื่อให้ดูใหญ่และน่าใช้เข้าไปอีก!  

ZEEKER X มี 2 รุ่น 2 ราคา ได้แก่ Standard Long Range RWD หรือ  Flagship AWD ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 69kWh (รวม) และความสามารถในการชาร์จด่วนที่ 150kW แต่ Long Range จะใช้มอเตอร์เพียงตัวเดียวที่ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยกำลัง 268 แรงม้าและแรงบิด 343 นิวตันเมตร ส่วน

รุ่นท็อป AWD เพิ่มมอเตอร์ที่เพลาหน้า ทำให้มีกำลังของมอเตอร์คู่หน้า-หลัง รวม 428 แรงม้า และแรงบิด 542 นิวตันเมตรที่แรงเอาเรื่อง ด้วยกำลังที่สูงกว่า 400 แรงม้า ในรถยนต์ครอสโอเวอร์สำหรับครอบครัว ผลลัพธ์คืออัตราเร่งในระดับรถสปอร์ตที่จะต้องคำนึงถึงระยะเบรกเอาไว้ด้วยเพราะไปเร็วเหลือกำลังลาก จากมอเตอร์ที่ไม่มีอาการรอรอบและสูญเสียกำลังน้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน 

การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักตัว ปรับรูปแบบของการใช้งาน ประสิทธิภาพและความสะดวก ให้เข้ากับความต้องการของผู้คน จากแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของไทยในระยะต่อไปที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีการประเมินตัวเลขยอดขายรถยนต์อีวีในประเทศ ปี 2567 จะอยู่ที่ 103,182 คัน หรือขยายตัว 36.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ในไทย รถยนต์ไฟฟ้า EV ขยายตัวควบคู่ไปกับรถยนต์ไฮบริด HEV) ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีวีเพิ่มสูงขึ้นเป็น 13.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 9.8% เปิด ช่องว่างของรถอีวีระดับพรีเมียมที่มีแค่ Mercedes-Benz BMW Audi Volvo และ Lexus สำหรับตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ZEEKR เข้ามาเติมเต็มเซกเมนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชัวรี่ รวมกับอีโคซิสเต็มด้านการบริการ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการหลังการขายผ่านดีเลอร์ 6 ราย มี ZEEKR House 14 แห่ง และจะขยายเพิ่มเป็น 20 แห่ง ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายมากกว่าสองพันคันภายในสิ้นปี 2567 นี้

ZEEKR X ทำตลาดในไทยทั้งหมด 2 รุ่น 

ZEELR X Standard มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 272 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที แบตเตอรี่ลิเธี่ยมความจุ 64kWh ทำระยะทางในการขับต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไกล 540 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC ไฟหน้าแบบ Full LED, กระจกหลังคา Panoramic Glassroof พร้อมระบบกรองแสง ล้อ 18 นิ้ว ZEEKR X รุ่น Standard RWD ราคา 1,199,000 บาท

ZEEKR X Flagship AWD มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลัง 428 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์หน้า 200 นิวตันเมตร แรงบิดมอเตอร์หลัง 343 นิวตันมตร เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเธี่ยมความจุ 64 kWh ชาร์จเต็มทำระยะทางการขับไกล 470 กิโลเมตร รุ่นท็อปมีอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ล้อแบบ Forged Wheel ขนาด 20 นิ้ว AR HUD, ไฟ LED ตกแต่งภายใน Ambient Light ระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ลำโพง 13 ตำแหน่ง ZEEKR X รุ่น Flagship AWD ราคา 1,349,000 บาท

มิติตัวถัง ความยาว 4,432 มิลลิเมตร กว้าง 1,836 มิลลิเมตร สูง 1,566 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร รุ่น Long Range RWD ล้อขนาด 19 นิ้ว ยาง continental ecocontact 6 ไซล์ 235/50R19 V XL ส่วนรุ่นท็อป Flagship AWD ใส่ล้อขนาด 20 นิ้ว ยาง continental ecocontact 6 ไซล์ 245/45R20 V XL กระจกมองข้างแบบไร้กรอบทำให้รถดูแพงขึ้นอีกนิดด้วยสไตล์ของรถสปอร์ต ที่จับประตู Hidden Capacitive Sensing Door Handles ช่องชาร์จไฟเรียบสนิทไปกับตัวรถ ด้านหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime Running Light ไฟท้าย LED ทรงยาวขนานไปกับแนวนอนของฝาท้าย กึ่งกลางฝาท้ายมีสัญลักษณ์ ZEEKR เป็นตัวอักษรพลาสติกสามมิติ หลังคากระจกพาโนรามาขนาด 1.21 ตารางเมตร ไม่มีม่านบังแดดแต่มีการกรองแสงผ่านตัวกระจกหลังคา คงต้องลองกันในวันแดดจัดอีกทีว่าร้อนหรือเปล่า ภายในตกแต่งด้วยสี Rose Gold เช่น สวิตช์หน้าต่าง ปุ่มเปิดประตู หรือ Hook สำหรับแขวนแจ็กเกต หน้าจอกลางขนาด 14.6 นิ้ว ชิป 8155 จาก Qualcomm Snapdragon รองรับการประมวลผล งานตกแต่งภายใน ใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งคัน

ZEEKR X ครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัด รุ่นมอเตอร์คู่ AWD กำลัง 315kW (428 hp) แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 67 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 470 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ระบบสลับโหมดการขับเคลื่อน (Lightning Switch AWD System) ระหว่างสองล้อและสี่ล้อ ช่วยกระจายแรงบิด เพิ่มความเสถียรและลดการใช้พลังงานไฟฟ้า  โครงสร้างแพลตฟอร์มผ่านการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว มาตรฐาน EURO NCAP ในจุดนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยมีมาตรฐานความปลอดภัยอยู่ในระดับเดียวกับ Volvo EX30

สไตล์และงานตกแต่งภายในแบบรถยุโรปที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Smart ผสมกับรูปแบบและโทนสีที่เรียบง่ายแนวสแกนดิเนเวียของ Volvo และ Polestar ZEEKR X เลือกใช้เฉดสีที่ตัดกันแบบสุดเหวี่ยง รถคันทดสอบมีสีน้ำเงินและสีขาว พร้อมขอบพลาสติกสีโรสโกลด์ งานออกแบบและวัสดุให้ความรู้สึกหรูหราเมื่อเทียบกับราคาระดับปานกลางไม่ถูกไม่แพง ว่ากันพอดีๆ พื้นผิวสัมผัสส่วนใหญ่บุวัสดุนุ่ม เพื่อให้มีความนุ่มนวลเวลาเท้าแขน ZEEKR ใส่ใจในรายละเอียดที่มักมองไม่เห็นในรถที่มีขนาดหรือราคาเท่านี้ เช่น ผ้าหุ้มหลังคาแบบไมโครไฟเบอร์ที่คล้ายกับ Alcantara 

ZEEKR X ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ทั้งหนังเทียม พลาสติกเกรดสูงและพรมเนื้อดี เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า โทนสีขาวสลับสีน้ำเงิน ทำให้ห้องโดยสาโปร่งโล่ง ทุกอย่างถูกใส่เอาไว้ในจอภาพสั่งงานด้วยระบบสัมผัสเพื่อลดจำนวนของสวิชท์และปุ่มให้เหลือน้อยที่สุด เบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า หุ้มด้วยหนังสีขาวพร้อมรูระบายอากาศ ขอบของพนักพิงศีรษะตกแต่งด้วยพลาสติกสีทอง ระบบเสียงรอบทิศทาง Yamaha พร้อมลำโพง 13 ตัว จอแสดงผลบนกระจกหน้า HUD แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

ระบบอินโฟเทนเมนท์ มีจอภาพมอนิเตอร์กลาง ขนาด 14.6 นิ้ว ส่งงานด้วยระบบสัมผัส เชื่อมต่อ Apple CarPlay/Android Auto เบาะปรับอุณหภูมิได้ พร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ระบบความปลอดภัยเชิงรุก พื้นที่ห้องโดยสารออกแบบได้ดี กระจกบานประตูและกระจกหน้าหลังรวมถึงกระจกหลังคาทำให้รู้สึกสว่างและโปร่ง เบาะหลังมีพื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางขาพอเพียง  พื้นที่เก็บสัมภาระน่าผิดหวัง โดยมีพื้นที่ 362 ลิตร ส่วน XC40 Recharge ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ากลับมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 452 ลิตร แต่พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้ายังมีขนาดใหญ่พอที่จะเก็บสายชาร์จได้

พวงมาลัยแบบสองก้านหุ้มหนังแท้ แผงหน้าปัดตรงหน้าคนขับขนาด 8.8 นิ้ว ส่วนมอนิเตอร์กลางเป็นหน้าจอภาพสั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว คันเกียร์อยู่ตรงคอพวงมาลัยด้านขวาคล้ายกับเกียร์ของ Mercedes-Benz การสั่งงานต่างๆ แม้แต่การปรับตั้งแอร์ในรถ ทุกอย่างต้องทำผ่านอินเทอร์เฟซของ Zeekr ฟังก์ชันและซอฟแวร์ควบคุมการทำงานตอบสนองดีไม่มีอาการหน่วง  ฟังก์ชันต่างๆ ของระบบความปลอดภัย ADAS จะถูกฝังไว้ภายใต้เมนูนับสิบรายการ อินเทอร์เฟซที่ขับเคลื่อนด้วยไอคอนเป็นหลักออกแบบไม่ค่อยจะชัดเจนว่าอะไรอยู่ตรงไหน ต้องใช้ความคุ้นเคยกับฟังก์ชันการปรับตั้ง และรูปแบบของไอคอนสักพัก ถึงจะชินกับการยัดเอาทุกอย่างไปไว้ในจอ 

ระบบนำทางด้วยดาวเทียม การเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto นั้นโอเค แต่ถ้าอยากจะปรับแอร์ ต้องออกจากระบบเพื่อใช้ฟังก์ชันต่างๆ ลูกเล่นของ ZEEKR X ก็คือ คุณสามารถพูดหรือเล่นเพลงให้มีเสียงออกจากลำโพงไปยังโลกภายนอกได้ ระบบจอดอัตโนมัติทำงานแม่นยำ แน่ใจได้เลยว่ามีคนให้มันจอดเองน้อยกว่าการขับจอดรถด้วยตัวเองมาก! มีสื่อเคยลองพูดออกลำโพง ปรากฏว่าเสียงฟังชัดดังเอาเรื่องราวกับรถพุ่มพวง การปรับฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น กระจกมองข้างและช่องระบายอากาศของระบบแอร์ที่ต้องปรับผ่านหน้าจอสัมผัสอย่างเดียวโดยไม่มีสวิชท์แยกย่อย ทำให้ใช้งานไม่ถนัด สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จของรถหรือเวลาที่เหลืออยู่จนกว่าจะชาร์จไฟจนเต็มตามต้องการ ดูดีมีสกุลกว่าการโผล่หัวเข้ามาทางประตู

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ZEEKR Advanced Driving Assistance System - ZEEKR AD) กล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic Lane Change - ALC) ระบบรักษาตำแหน่งในเลน (Lane Centering Control - LCC) ระบบแจ้งเตือนวัตถุในจุดบอด (Blind Spot Detection - BSD) ระบบแสดงภาพรอบตัวรถ (Around View Monitor - AVM) โครงสร้าง SEA Platform Lightning Switch Intelligent AWD System หรือระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่แบบ AWD อัตโนมัติ

การขับทดสอบสั้นๆใน Motor Speed Park บ่งบอกถึงการทรงตัวที่ดี ขับสนุกเหมือน Volvo ตัวเล็ก สัมผัสของ ZEEKR X รุ่นมอเตอร์คู่ AWD นั้นทรงพลัง ตอบสนองเร็วจี๋ ฝรั่งต่างประเทศมักบอกว่าช่วงล่างของรถรุ่นนี้ย้วยไปหน่อย แต่ผมว่ากำลังพอดี แข็งกว่าน้ีคนส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่นักแข่งจะต่อว่าเอาได้  ส่วนรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ให้กำลังมากเกินพอสำหรับรถไฟฟ้าคันเล็ก เข้าโค้งได้คมกว่ารุ่นขับสี่แต่เร่งได้ไม่เร็วเท่า ZEEKR X  ขับเคลื่อนสี่ล้อมีการปรับแต่งตัวถังเพื่อรับมือกับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นจากมอเตอร์คู่

โช้คและสปริงสอดรับกับการขับใช้งานในชีวิตประจำวัน คือโดนปรับแต่งมาเพื่อความสบายอย่างชัดเจน ให้ความนุ่มนวลที่ความเร็วต่ำ ขับเร็วขึ้นก็ไม่ได้ย้วยหรือโคลงมากเกินไป อยู่ในเกณฑ์ พอดีๆ แอบชมแบรนด์นี้อยู่เหมือนกันตรงที่การเซ็ตทุกอย่างให้ดูเหมือนรถยนต์ไฟฟ้ายุโรปราคาแพง ทั้งสองรุ่นมีพวงมาลัยไฟฟ้าที่เบาสบายมือ ทำให้หนักกว่านี้ก็ได้แต่จะโดนคุณสุภาพสตรีบ่นว่าหนัก การถ่วงน้ำถ่ายเทน้ำหนักขณะเลี้ยวให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและโคตรคล้ายกับฟิลลิ่งของ Volvo EX30  พูดง่ายๆ ก็คือ ZEEKR รุ่นมอเตอร์คู่ เป็นรถที่กระตุ้นให้เหยียบคันเร่งบ่อยครั้งเพราะความสนุก 

สรุปตอนจบว่า ด้วยงบ 1.1 - 1.3 ล้าน คุณจะได้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กทรงครอสโอเวอร์ที่มีความหรูหราใช้ได้ ภายในห้องโดยสารของมัน ทำให้รู้สึกพึงพอใจกับงานตกแต่งและความตั้งใจของงานประกอบชิ้นส่วน ประสิทธิภาพการใช้งานสูสีกับ EX30 แต่ถูกกว่ามาก รุ่นมอเตอร์เดี่ยวจ่าจะไปไกลถึง 450 กิโลเมตร (เคลมมา 540 กิโลเมตร) ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ที่แรงกว่า ขับถึง 350 กิโลเมตรได้ก็โอเคแล้วครับสำหรับคนที่ชอบรถแรง อัตราเร่ง 0-100 ของรุ่นมอเตอร์คู่ ต้องเผื่อระยะเบรกเอาไว้บ้างเดียวจะหาว่าไม่เตือน โดยภาพรวม ZEEKR X เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้กับราคาที่เปิดมา 1,199,000 บาทสำหรับรุ่น Standard RWD ขับหลัง หากยังไม่สาแก่ใจ หรืออยากได้รถที่เร่งได้เร็วพอๆกับรถสปอร์ตก็เพิ่มเงินเป็น 1,349,000 บาท เพื่อเดินไปหยิบกุญแจของรุ่นมอเตอร์คู่ Flagship AWD อย่าลืมว่าเร่งเร็วแล้วต้องเบรกให้อยู่ด้วยนะครับ 

ZEEKR X ประกันภัยชั้น 1 รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดัน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง บริการ Mobile Service สำหรับลูกค้าคนสำคัญ 500 คนแรก ที่จองและรับรถภายในสิงหาคม 2567 นี้ แถม Wallbox จาก “VREMT” พร้อมแพ็กเกจติดตั้ง มูลค่า 50,000 บาท จองและชมรถได้จาก POP UP ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ Emsphere, Central Westgate, The Mall Bangkae และ Central Rama 2 และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของทาง ZEEKR ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.