เศรษฐกิจที่ซบเซา บวกกับการรุกตลาดของรถยนต์จากประเทศจีนด้วยสงครามราคา ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และทำให้ตลาดรถยนต์ไทยหดตัวต่อเนื่องมาสองปี ยอดขายรถยนต์ในช่วงปลายปี 2565 แม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปี 2566 ต่อเนื่อง 2567 ยอดขายรถยนต์ในไทยกลับเหี่ยวเฉาลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่มีปัญหากับความเงียบเหงาของเศรษฐกิจ ทำให้การปล่อยสินเชื่อของสถาบันทางการเงินยากมากขึ้น รถกระบะโดนยึดมากเป็นอันดับต้นๆ ของรถที่ลูกค้าไม่สามารถผ่อนต่อได้ ทุกวันนี้การเลือกซื้อรถยนต์กระบะของผู้บริโภคที่แม้จะมียอดขายที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ก็ยังพอที่จะขายออกไปได้บ้าง แต่ไม่เหมือนหลายๆ ปีที่ผ่านมา เมื่อเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ยอดขายรถกระบะจะกลายเป็นตัวบ่งชี้ว่าเรากำลังเผชิญกับอะไร? 

...

9 ปีที่ผ่านมากับการเปิดตัวรถกระบะ Hilux REVO ค่ายสามห่วง Toyota Motor Thailand แบรนด์ยอดขายอันดับหนึ่งของไทย ก็มีการปรับปรุงรถกระบะรุ่นนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับการปรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถยนต์ปิกอัพ เพื่อเพิ่มความสดใหม่และดึงดูดลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบรถกระบะสไตล์เตี้ยแต่ไม่โหลดต่ำมากจนเกินไป ด้วยรถ Hilux REVO Smart Cab Z-Edition เครื่องดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เน้นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนทำงานในภาคส่วนของเกษตรกร หรืองานอุตสาหกรรม ตัวถัง Smart Cab แม้จะมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่ารุ่นสี่ประตู แต่ก็มีราคาไม่ถึง 8 แสน Z-Edition ปรับขนาดล้ออัลลอยจากเดิม 16 เป็น 17 นิ้ว ใช้ยาง Radial สมรรถนะดีอย่าง Bridgestone Duravis R611 ขนาด 215/55R17 ช่วงล่าง Super Flex Suspension แหนบกันสะเทือน วัสดุ High-Tensile Steel โช้คอัพปรับจูนใหม่ โช้คใหญ่ขึ้น ส่วนงานตกแต่งภายในก็มีการยกระดับวัสดุและรูปแบบที่มีความคงทนต่อการใช้งานหนัก

...

...

...

ภายนอกของเตี้ยหน้าใหม่ Toyota Hilux REVO Smart Cab Z Edition 4x2 2.4 Mid AT หน้าตาถูกปรับใหม่ทั้งกระจังและชุดไฟหน้ารวมถึงกันชน สิ่งที่แปลกใหม่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกตัวถัง เริ่มจากไฟหน้า Bi-Beam LED มาพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบ Follow-Me-Home ระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำ เฉพาะรุ่น 2.4 Mid และ Mid AT จ่ายแพงขึ้นก็ได้ของที่ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding กระจังหน้าพลาสติกสีดำ โป่งล้อ Wide Body ทำให้ล้อ 17 นิ้ว ลาย 10 ก้านคู่ ดูเล็กไปนิด เพราะมีซุ้มล้อใหญ่แต่ล้อและยางไม่ได้เต็มซุ้ม ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะใช้งานได้จริง ล้อที่พอดี ผ่านการทดสอบด้านอัตราสิ้นเปลืองในขั้นตอนของการพัฒนา ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงบิดในการหมุนล้อที่ใหญ่และหนักกว่าหากใส่ล้อ 18 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำเงา ปรับไฟฟ้าติดตั้งไฟเลี้ยว LED ที่ปัดน้ำฝันแบบหน่วงเวลา และปรับตั้งเวลาได้ มือจับที่เปิดประตูสีดำ สัญลักษณ์ Hilux บั้นท้ายเรียบง่าย เน้นการใช้งานพวกบรรทุกสัมภาระต่างๆ กระบะท้ายไม่มีวัสดุกันกระแทกติดมาให้ ต้องหามาใส่เอง ไฟท้ายแนวตั้งหลอดไฟสองแบบทั้ง LED และหลอดไส้ ไฟเบรกดวงที่สามอยู่เหนือมือจับที่เปิดฝาท้ายพลาสติกสีดำ รถกระบะรุ่นนี้ไม่มีกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ ทำให้การขับถอยหลังต้องใช้ความระมัดระวัง หากอยากติดกล้องมองหลังก็สามารถหาติดตั้งได้ทั่วไป 

มิติตัวถังของ Toyota Hilux REVO Smart Cab Z-Edition 4x2 2.4 Mid 6 MT มีขนาดความยาว 5,285 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สัดส่วนความสูง 1,695 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,510 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 154 มิลลิเมตร มิติกระบะภายใน ยาว 1,840 มิลลิเมตร กว้าง 1,540 มิลลิเมตร สูง 480 มิลลิเมตร

ภายในของ REVO Z-Edition Smart Cab เรียบง่าย มาตรวัดและแดชบอร์ดคอนโซลใช้รูปแบบเดียวกันตั้งแต่รุ่นประหยัดไปจนถึงรุ่นสูงสุด Hilux GR Sport แต่มีการเพิ่มรายละเอียดของรุ่นที่มีราคาสูงกว่า เบาะปรับมือหุ้มด้วยผ้าสีดำ เย็บเดินตะเข็บเบาะผ้าด้วยด้ายสีขาว รวมไปถึงที่วางแขนตรงกลางหลัง คอนโซลซุ้มเกียร์หุ้มหนังสังเคราะห์สีดำ หัวเกียร์ไวนิล พวงมาลัยไวนิล แดชบอร์ดติดตั้งจอภาพมอนิเตอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับอินโฟเทนเมนต์เชื่อมต่อได้ทั้งสองระบบ (apple carplay & android auto) เชื่อมต่อแบบเสียบสาย USB เข้ากับช่องเสียบของจอมอนิเตอร์กลาง พื้นที่เบาะหลังนั่งสบายพอใช้ เนื่องจากเบาะหลังปรับเอนไม่ได้ พวงมาลัยสามก้าน ติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชันปรับตั้งเครื่องเสียง หรือปุ่มสั่งงานต่างๆ ซุ้มเกียร์หน้าตาคุ้นเคยกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ปุ่มปรับสองโหมดขับเคลื่อนข้างคันเกียร์ ECO และ POWER คันเบรกมือแบบมาตรฐานที่ไม่สะดวกสบายเท่ากับปุ่มเบรกมือไฟฟ้า แต่ทนทานรองรับการใช้งานหนักโดยเฉพาะตอนขับลุยน้ำ

การสตาร์ตเครื่องยนต์ของ Z Edition 4×2 2.4 Mid 6 MT ยังคงใช้การเสียบกุญแจแล้วบิด จุดที่ชอบก็คือที่วางแก้วน้ำสองตำแหน่ง ซ้าย-ขวา และความสบายยามนั่งขับบนเบาะผ้าที่ออกแบบได้ดี แม้จะปรับมือก็สามารถปรับให้เข้ากับสรีระได้อย่างครอบคลุม พวงมาลัยยังปรับได้สี่ทิศทาง ทั้งเข้า-ออก และสูง-ต่ำ แต่ก็ปรับได้ทั้งสี่ทิศทางแบบไม่กว้างมากนัก พื้นที่ของตัวถัง Smart Cab มีไม่มาก ใช้นั่งโดยสารได้สองคน แต่ก็ไม่ได้มีเบาะรองรับการนั่ง จุดประสงค์ของกระบะรุ่นนี้ก็คือใช้พื้นที่หลังเบาะคู่หน้าเพื่อเก็บสัมภาระพวกกระเป๋าเดินทางได้บ้าง ส่วนพื้นที่กระบะท้ายก็มากกว่ากระบะสี่ประตู เน้นไปที่การบรรทุกน้ำหนักเฉียดหนึ่งตัน สำหรับการประกอบธุรกิจที่มีความจำเป็นในการขนส่งหรือบรรทุกของ 

Hilux REVO Smart Cab ตัวเตี้ยหน้าใหม่ Z-Edition คันทดสอบราคา 740,000 บาท มีการปรับปรุงเพิ่มเติมหลายจุด ที่ทำออกมาดีขึ้นชัดเจนก็คือช่วงล่างกับพวงมาลัย การปรับให้รถเตี้ยลง 23 มิลลิเมตร เกิดจากการเปลี่ยนสปริงใหม่ ส่วนโช้คอัพที่เปลี่ยนมาให้ใหม่ก็ใช้ขนาดแกนที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือน แรงกระแทกจากผิวถนนไม่เรียบได้ดี อีกจุดหนึ่งก็คือการเปลี่ยนล้อให้เบากว่าเดิม แหนบหลัง 5 แผ่นเน้นงานบรรทุก ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ยาง Bridgestone ไซส์ 215/55R17 ทำหน้าที่ได้ดี เนื่องจากวันทดสอบจากกรุงเทพฯ ไปจนถึงอำเภอลานสัก อุทัยธานี รวมระยะทางไป-กลับกว่า 550 กิโลเมตร ช่วงล่าง ยาง ทำหน้าที่ได้ดีขึ้น สำหรับพวงมาลัยก็ยังมีการปรับให้อัตราทดของแรคตอบสนองต่อการขับเร็ว ในย่านความเร็วต่ำก็ไม่หนักเกินไป ส่วนความเร็วสูงที่ลองส่งไปจนถึงความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัยก็ยังนิ่งและมั่นคงใช้ได้

หัวใจของการขับเคลื่อนคือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ระบบ DPF : Diesel Particulate Filter Regeneration ทำความสะอาดคราบเขม่า มาตรฐานมลพิษ EURO-5 ปัจจุบัน รถยนต์ในประเทศไทยมีบางรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน Euro 5 หรือ 6 แล้ว โดยส่วนใหญ่จะติดตั้งบนรถ SUV หรือบนรถเก๋ง Sedan ซึ่งมาตรฐาน Euro 5 ในเครื่องยนต์รถกระบะของ Toyota กำหนดให้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลทุกคันต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกว่า Diesel Particulate Filter หรือ DPF ทำหน้าที่กรองเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้ที่มีขนาดเกินมาตรฐานกำหนด และเมื่อตัวกรอง DPF เริ่มมีการอุดตันจากเขม่าขนาดใหญ่ DPF จะสร้างความร้อนเพื่อเผาไหม้เขม่าเหล่านี้ให้มีขนาดเล็กลงจนเป็นไปตามที่มาตรฐานกำหนด 

เทคโนโลยี Economy with Superior Thermal Efficient Combustion หรือ ESTEC หัวฉีดคอมมอนเรล ไดเรกอินเจกชันแรงดัน 1,350 บาร์ พ่วงเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด Thermo Swing Wall Insulation Technology (TSWIN) คือการชุบหัวลูกสูบด้วย silica-reinforced porous anodized aluminum (SiRPA) ลดการสูญเสียการหล่อเย็นลูกสูบก่อนการจุดระเบิดได้ 30% เทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน มีขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เทอร์โบชุดใหม่นี้มีความเล็กกว่ารุ่นเดิมราวๆ 30% การปรับปรุงระบบลดมลพิษ ทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้ผ่านมาตรฐานมลพิษ EURO-5 โดยที่เครื่องยังถ่ายแรงบิดสูงสุดในช่วงที่กว้างขึ้นมากกว่าเดิม แรงดันอากาศจากเทอร์โบยังเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ง่ายขึ้น เปลี่ยนแปลงท่อทางเดินอากาศในเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อลดการสูญเสียกำลังในจังหวะดูด ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดอากาศดีขึ้น 10%

ขั้นตอนการจุดระเบิด มีการปรับการสั่งจ่ายน้ำมันให้เหมาะสม โดยเฉพาะการปรับการสั่งจ่ายน้ำมันและเวลาที่จ่ายน้ำมัน เพื่อให้เกิดการจุดระเบิดที่สมบูรณ์แบบ เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดทำได้ 400 นิวตันเมตร ไอ้แรงบิดที่ว่าเนี่ยแหละครับที่ทำให้เตี้ยหน้าใหม่ REVO D Z Edition Smart Cab รุ่นนี้ขับสนุกใช้ได้ กำลังและการพุ่งทะยานของ 2GD-FTV (High) ด้วยแรงบิด 400 นิวตันเมตร มีส่วนช่วยทำให้รถคล่องตัวมากทั้งในและนอกเมือง เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ เดินเบาแล้วมีเสียงการทำงานเบากว่า 1 GD-FTV จากขนาดตัวเครื่องที่เล็กกว่า ความกะทัดรัดของ 2 GD-FTV ยังทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง ขับเรื่อยๆ ทำได้ 14 กิโลเมตรต่อลิตร อันนี้ถือว่าทำได้ดี เมื่อเปลี่ยนมาเป็นสปอร์ตโหมด (Power Mode) แล้วกดคันเร่งอย่างต่อเนื่อง ลากขึ้นลงบนเนินเขาแถบบ้านไร่จนมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยสปีดความเร็วสูงต่อเนื่อง ผมทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร 

Toyota Hilux REVO Z-Edition เหมาะกับคนที่ชอบใช้รถกระบะแทนรถเก๋ง แต่ไม่ชอบรถกระบะยกสูง และมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บรรทุกสัมภาระเพื่อการทำงาน หรือเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดกับครอบครัว บนเส้นทางที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก เนื่องจากใต้ท้องรถไม่ได้สูงเท่ากับ Prerunner หรือ Rocco ชอบใช้รถเกียร์ธรรมดา การทรงตัวทั้งขับเร็วบนไฮเวย์และขับในเมืองอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะช่วงล่างใหม่ GR-Sport Suspension ทำออกมาให้นั่งได้นิ่มหนึบขึ้น อาการกระด้าง กระแทกกระทั้น รวมถึงอาการโคลงในอดีตของกระบะ Hilux นั้นหายไป แล้วแทนที่ด้วยความสบายของการใช้งาน ที่มีความเหมาะสมกับระดับของราคาค่าตัว พวงมาลัยก็ดี แม้จะหนักมือไปบ้างเพราะไม่ใช่พวงมาลัยไฟฟ้าเหมือนกระบะ Ford แต่แม่นยำและชัดเจนใช้ได้ แป้นคลัตช์มีน้ำหนักที่เหมาะสม ระยะคลัตช์ที่ไม่ยืดยาวแค่เหยียบคลัตช์ ยัดเกียร์หนึ่งแล้วค่อยๆ คลายน้ำหนักเท้าออกจากแป้นคลัตช์ รถก็จะเคลื่อนตัวทันที กระปุกเกียร์ 6 สปีดยัดง่าย ยิ่งขับทางไกลจะยิ่งสนุกโดยเฉพาะเส้นทางภูเขา โดยภาพรวม Hilux REVO Z-Edition รุ่นเกียร์ธรรมดา จุดเด่นของมันก็คือความสนุกที่จะต้องเลือกตำแหน่งเกียร์เอง แต่โดนรถติดหนักๆ เข้าก็อาจทำให้เมื่อยขาได้เหมือนกัน 

ระบบความปลอดภัยมีให้มาไม่มากนัก และมีเท่าที่จำเป็นต่อการใช้งาน ที่น่าจะมี แต่ที่ไม่มีก็คือกล้องมองหลังและเซนเซอร์เสียงเตือนการขับเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง เตี้ยหน้าใหม่บอกโลกให้แซด หรือ Z Edition คันนี้ ยังเก็บเสียงดีพอสมควร อีกจุดหนึ่งที่ทำให้กระบะรุ่นนี้มีความน่าใช้งานก็คือพอขับเร็วสุดๆ ก็กินแค่ 12 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเรื่อยๆ ได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ให้มา ยังใช้การเสียบ USB เพื่อเชื่อมต่อกับมือถือ หรือเชื่อมต่อระบบบลูทูธก็ได้ หากกำลังมองกระบะตัวเตี้ยที่ทรงตัวดี ขับสบายในย่านความเร็วต่ำ นิ่มนวลใช้ได้ และบรรทุกหนักได้ มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับงานบรรทุก หรือใช้งานใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะในเขตชนบทที่ห่างไกล Hilux REVO Smart Cab Z-Edition คืออีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม ทั้งความคงทน ราคาอะไหล่ งานบริการ และราคาขายต่อ

Toyota Hilux Revo Smart Cab Z-Edition (2024)

2.4 Z-Edition ENTRY Smart Cab MT 669,000 บาท
2.4 Z-Edition ENTRY Smart Cab AT 719,000 บาท
2.4 Z-Edition MID Smart Cab MT 740,000 บาท (คันทดสอบ) 
2.4 Z-Edition MID Smart Cab AT 790,000 บาท

เครื่องยนต์รองรับมาตรฐาน EURO 5
ระบบ DPF : Diesel Particulate Filter Regeneration 
กระจังหน้า ใหม่
กันชนหน้า ใหม่
มือเปิดประตูภายนอก สีดำเงา Gloss Black
กระจกมองข้าง สีดำเงา Gloss Black
ไฟหน้า รมดำ Smoke Chrome (รุ่น MID)
ไฟตัดหมอกหน้า รมดำ Smoke Chrome (รุ่น MID)
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC 
ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC 
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
หน้าจอเครื่องเสียง Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว แบบ Capacitive

มิติตัวถัง
ยาว 5,285 มิลลิเมตร 
กว้าง 1,855 มิลลิเมตร 
สูง 1,695 มิลลิเมตร 
ความยาวฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร 
ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,510 มิลลิเมตร 
ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 154 มิลลิเมตร 
กระบะภายใน
ยาว 1,840 มิลลิเมตร 
กว้าง 1,540 มิลลิเมตร
สูง 480 มิลลิเมตร

เครื่องยนต์ 2GD-FTV
แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาว์ล VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
ความจุ 2393 ซีซี.
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 92.0 X90.0 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 15.6:1
กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,800 รอบต่อนาที 
ระบบเชื้อเพลิง หัวฉีดคอมมอลเรลไดเรกอินเจกชัน i-ART
ความจุถังเชื้อเพลิง (ดีเซล) 80 ลิตร 
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสองล้อหลัง
ระบบส่งกำลัง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด 

ช่วงล่างด้านหน้า อิสระ ปีกนกคู่ดับเบิลวิชโบน คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง
ช่วงล่างด้านหลัง แหนบซ้อน 

ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ยาง 215/55R17

ระบบเบรกด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรกด้านหลัง ดรัมเบรก
พวงมาลัยแร็กแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง

อุปกรณ์ภายใน
วัสดุตกแต่งสี Smoke Silver
มือเปิดประตูภายใน แบบโครเมียม
แผงประตูบุด้วยหนัง พร้อมแถบสี Smoke Silver
ที่บังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า และที่เสียบนามบัตร
ไฟตกแต่งแผงประตูด้านข้าง
มือจับภายในห้องโดยสาร 3 ตำแหน่ง
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
พวงมาลัยหุ้มไวนิล 
เบรกมือ สีดำ ตกแต่งด้วยโครเมียม
มาตรวัดเรืองแสง Optitron
หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
กุญแจ Jack Knife Key
ระบบเซ็นทรัลล็อก แบบ Speed Auto Lock
สวิตช์เลือกโหมดการขับขี่ ECO / Power
ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา
ช่องเก็บของด้านบน 
ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง

หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
รองรับระบบ Apple CarPlay / Android Auto
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
ลำโพง 4 ตำแหน่ง
ระบบ T-Connect Telematics

ระบบความปลอดภัย

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ถุงลมนิรภัย 3 ตำแหน่ง
คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
หัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
ระบบกุญแจ Immobilize