จากเชียงรายไปโผล่สะปัน! มันทุกโค้ง ทดสอบ KIA EV5 EARTH LONG RANGE FWD

KIA EV5 รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนสองล้อหน้า และมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง แพลตฟอร์ม E-GMP หรือ Electric Global Modular Platform มิติตัวถังของ KIA EV5 เทียบเคียงกับ Honda CR-V ยาว 4,615 มิลลิเมตร กว้าง 1,875 มิลลิเมตร
สูง 1,715 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 175 มิลลิเมตร

KIA EV5 ราคา

KIA EV5 Light 1,299,000 บาท

KIA EV5 AIR 1,399,000 บาท

KIA EV5 Earth 1,599,000 บาท (คันทดสอบ)

KIA EV5 Earth Exclusive AWD 1,799,000 บาท

KIA EV5 รับประกัน 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 7 ปี รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แถม KIA Home Charger พร้อมติดตั้งประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี

KIA EV5 Earth Long Range FWD รถคันทดสอบ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าวางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 217 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ระบบไฟ 400 โวลต์ แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 88.1 kWh ตัวเลขสมรรถนะ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 665 กิโลเมตร หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L KIA EV5 Long Range / Performance AWD ชาร์จไฟกระแสสลับ AC รองรับ 11 kW ชาร์จไฟกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 141 kW

EV5 ใช้ปรัชญาการออกแบบ Bold for Nature ดีไซน์ SUV ไฟหน้า Star Map DRL ไฟท้าย LED Star-Map ทรงของรถ ใช้สไตล์สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ได้รับแรงบันดาลใจอย่างชัดเจนจาก EV9 SUV สามแถวที่มีขนาดใหญ่กว่าและประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดรถอเนกประสงค์ 6 ที่นั่งของอเมริกาเหนือ การออกแบบตัวถังดูบางลงและล้ำสมัย น้ำหนักตัวที่เบากว่า สอดคล้องกับรากฐานของการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยการคงมวลตัวถังเอาไว้ไม่ให้เกิน 2.1 ตัน ทรงของ EV5 แม้จะเต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมแต่ก็ออกแบบได้อย่างลงตัว สัดส่วนที่กะทัดรัดมีขนาดพอๆ กับ Honda CR-V แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าทั้งอัตราเร่งและการทรงตัว 

สไตล์ของ EV5 นั้นมีความไดนามิกมากกว่าของ EV9 เนื่องจากมีขนาดตัวถังที่เล็กกว่า ส่วนหน้าตั้งตรง ไฟหน้าและไฟหรี่กลางวัน LED แก้มข้างมีเหลี่ยมมุมที่โค้งรับกับขอบซุ้มล้อ กันชนหน้าตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำและสีเงิน ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว ยางเกาหลี Nexen ไซส์ 235/55 R19 ล้ออัลลอยลายสี่ก้านสีดำเงาสลับสีเงิน มือจับที่เปิดประตูแบบซ่อนอยู่ในตัวถังเพื่อลดแรงต้านทานของกระแสอากาศ เสาหน้ามีองศาที่สมบูรณ์แบบเชื่อมต่อกับแนวผืนหลังคาไปจนถึงเสาท้ายขนาดใหญ่ที่มีกระจกบานข้างเสาท้ายคอยช่วยสร้างบรรยากาศที่โปร่งโล่ง กรอบเสาหน้า กรอบกระจกไปจนถึงเสาท้ายตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำเงา กรอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวถังช่วยเพิ่มความหรูหรา บั้นท้ายทรงเหลี่ยมพร้อมไฟท้ายเรียวยาวที่เชื่อมต่อกันทั้งสองฝั่ง ไฟท้าย LED แม้จะมีขนาดที่เพรียวบางแต่ให้ความคมชัดทั้งไฟหรี่ ไฟถอยและไฟเบรก สำหรับไฟเบรกดวงที่สามหลอด LED ซ่อนอยู่ใต้กรอบสปอยเลอร์หลังที่ติดตั้งอยู่ด้านบนของฝาท้าย ที่ปัดน้ำฝนกระจกฝาท้ายซ่อนอยู่ภายในสปอยเลอร์หลัง เป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดทำให้ใบปัดน้ำฝนไม่ไปบดบังมุมมองของกระจกบานฝาท้ายได้อย่างเฉียบคม 

KIA EV5 เลือกใช้แบตเตอรี่แบบ LFP ที่มีโครงสร้างแบบ CPT เพื่อรองรับความหนาแน่นในการกักเก็บประจุไฟฟ้า เพื่อระยะทางวิ่งสูงสุดในขณะที่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่การจัดวางแบตเตอรี่ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ LFP ยังมีความทนทานต่อการติดไฟ ไม่มีคุณสมบัติก่อให้เกิดประกายไฟเมื่อเกิดเพลิงไหม้ 

มาดูที่ห้องโดยสารของ KIA EV5 รุ่น EARTH Long Range FWD ราคา 1,599,000 บาท คนของ KIA แจ้งว่า วัสดุตกแต่งภายในของ EV5 เน้นอนุรักษ์ธรรมชาติ มีการใช้วัสดุสังเคราะห์แทนที่หนังแท้หรือโลหะที่ทำให้เกิดคาร์บอนในขั้นตอนของการผลิต การใช้วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งวัสดุรีไซเคิล วัสดุจากธรรมชาติ และวัสดุที่ปราศจากสารเคมีในกลุ่ม BTX 

แดชบอร์คคอนโซลทำจากโฟมสังเคราะห์หุ้มด้วยไวนิลสีน้ำตาลอ่อนเพื่อซับเสียงและลดแรงสั่นสะเทือน จอภาพมอนิเตอร์กลางและจอภาพมาตรวัดหลอมรวมอยู่ในจอภาพเดียวแบบพาโนรามา หน้าปัดแบบ Digital Supervision ด้วยจอแสดงผล LCD TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (HUD) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังสังเคราะห์ แบบ 4 ก้าน ปรับระดับ 4 ทิศทาง สวิตช์เกียร์แบบ Column-type Shift by Wire พร้อม Paddle Shift ปรับการทำงานของ Regenerative Brake สวิตซ์ควบคุมโหมดการขับขี่ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ 2 โซน พร้อมช่องระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้า และไฟส่องสว่าง ไฟเรืองแสง Ambient Light ภายในห้องโดยสาร เรียกว่าให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรุ่นรองท็อปแบบจัดเต็ม นั่นรวมถึงกล้องมองภาพรอบคันและเครื่องเสียงติดรถที่ค่อนข้างมีคุณภาพอีกด้วย ระบบมัลติมีเดีย (Infotainment) ประกอบด้วยจอแสดงผล LCD TFT ขนาด 12.3 นิ้วเท่ากับมาตรวัด ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ระบบสั่งการด้วยเสียง (เชื่อมต่อผ่าน Android Auto™ / Apple Carplay®) ลำโพง 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร USB ชาร์เจอร์ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)

เบาะนั่งของ EV5 ใช้วัสดุบุนุ่ม ตัวเบาะออกแบบให้เข้ากับท่านั่งที่ผ่อนคลายและค่อนข้างสูง เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ โดยเฉพาะเบาะคู่หน้าออกแบบในลักษณะ Bench Seat พร้อมที่วางแขนแบบปรับพับได้ โต๊ะแบบอเนกประสงค์หลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้า แผ่นปิดสัมภาระแบบปรับตั้งเป็นโต๊ะได้ รองรับน้ำหนัก 12 กิโลกรัม เมื่อปรับตั้ง เบาะนั่งคนขับมาพร้อมหน่วยบันทึกความจำ เบาะหลังแบบสามที่นั่ง นั่งสองคนดูจะสบายตัวมากกว่า กลางเบาะพนักพิงสามารถดึงออกมาเป็นพนักเท้าแขนกั้นกลางระหว่างผู้โดยสารเบาะด้านหลัง รุ่น EARTH Long Range FWD ยังมาพร้อมกับกระจกหลังคาพาโนรามิกพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้าไม่ต้องไปดิ้นรนติดฟิลม์เพิ่มเพราะม่านบังแดดเวลาปิดแล้วไม่มีความร้อนที่แผดลงมาเหมือนกับกระจกหลังคาพาโนรามิกที่ปราศจากม่านบังแดดในรถไฟฟ้าบางรุ่นที่ดูเท่แต่ใช้งานจริงแล้วร้อนตับแลบ 

เส้นทางทดสอบของสื่อมวลชนในวันนี้เริ่มจากโรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านสะปันในจังหวัดน่าน รวมระยะทางของการทดสอบยาว 358 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง 45 นาที เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นลงเขาสูงชันวกไปวนมาตลอดตั้งแต่เริ่มเข้าสู่จังหวัดพะเยา KIA EV5 รุ่น Earth Long Range FWD รถคันทดสอบ มีมอเตอร์ไฟฟ้าวางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลัง 217 แรงม้า กับแรงฉุดลากหรือแรงบิดที่ 310 นิวตันเมตร แบตลิเทียมไอออน ความจุ 88.1 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกลถึง 665 กิโลเมตร เมื่อนำมาขับบนเส้นทางภูเขา มอเตอร์เดี่ยวกับแรงบิด 310 นิวตันเมตร ทำให้เกิดความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซง พุ่งขึ้นสู่เนินเขาสูงพร้อมกับการเทแรงบิดบนทางตรงยาว อัตราเร่งในระดับ 8 วินาที แก่ๆ เมื่อเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ที่ปราศจากอาการรอรอบดูเหมือนจะเร่งได้เร็วกว่า CR-V อย่างเห็นได้ชัด จุดที่ช่วยทำให้การควบคุมรถในย่านความเร็วเดินทางที่ถูกกฎหมายก็คือ พวงมาลัยไฟฟ้าที่เซตมาเบาสบายมือและมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ดี พวงมาลัยมีระยะฟรีตรงการนิดเดียว ค่อนข้างกระชับและเป็นธรรมชาติเมื่อหักเลี้ยวหรือหมุนเข้าสู่โค้งมุมแคบบนสันเนิน การถ่ายเทน้ำหนักของ EV5 ออกมาในลักษณะที่เป็นกลาง ช่วงล่างค่อนข้างนุ่ม เน้นความเป็นรถครอบครัวที่ไม่ต้องทำความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ใช้วิธีการขับแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ ช่วงล่างที่นุ่มซับแรงสั่นสะเทือนเมื่อขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบได้ดีกว่ารถไฟฟ้าจีนบางรุ่นที่มีขนาดและราคาพอๆ กัน EV5 เก็บเสียงได้ดีเลยทีเดียว มีเพียงเสียงยางเท่านั้นที่ดังลอดเข้ามาให้ได้ยินเมื่อความเร็วทะยานผ่าน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5 Link หรือมัลติลิงก์นั่นเอง อย่างที่บอกว่ากระบอกโช้คและสปริงนั้นถูกปรับมาเพื่อเน้นความนุ่มนวลมากกว่าจะไปที่ความหนึบแน่น บางจังหวะช่วงล่างผ่อนสั้นผ่อนยาวได้ดีแต่พวกที่ชอบขับเร็วก็อาจไม่ชอบช่วงล่างสไตล์รถบ้านแบบนี้ ส่วนตัว ผมว่าระบบรองรับของ EV5 ที่มุ่งไปสู่ความนุ่มสบายนั้นเหมาะสมกับคาแรกเตอร์ของรถดีอยู่แล้ว รุ่นมอเตอร์เดียวระยะทำการไกลเฉียด 600 กิโลเมตร ชอบให้ขับเรื่อยๆ มาเรียงๆ เพื่อประหยัดกระแสไฟฟ้ามากกว่าจะเอามาชัดจนยางร้องโหยหวยในโค้งบนภูเขา สำหรับเส้นทางบนน่านนั้นก็ขึ้นชื่อในเรื่องความคดเคี้ยววกไปวนมารอบๆ สันเขาที่สูงชันเกือบจะตลอดทาง หลังจากวิ่งเข้าสู่หุบเขาลึกและสลับซับซ้อน ผมมีความจำเป็นที่จะต้องลดความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้หากขับเร็วเกินไปบนเส้นทางภูเขา การลดความเร็วยังช่วยทำให้กลับมาควบคุมรถได้ดีขึ้น มีเวลามองให้ไกลขึ้นและเล็งสภาพโค้งด้านหน้าก่อนที่หัวรถจะพุ่งไปถึง Paddle Shift ของ EV5 ถูกใช้ผ่านระบบ regenerative braking โดยสามารถปรับการหน่วงความเร็วด้วยระบบรีเจนฯ ได้ถึงสามระดับ ทำให้ช่วยลดความสึกหรอของผ้าเบรกเมื่อขับบนเส้นทางภูเขาที่มีความสูงชันแบบนี้ 

มอเตอร์ของ EV5 ให้พลังงานอย่างพอเพียงทั้งการเร่งความเร็วบนเนินชัน หากใช้คันเร่งอย่างเหมาะสม ระยะทางที่เคลมมากว่า 600 กิโลเมตรนั้นถือว่าทำได้อย่างใกล้เคียง แต่ก็ต้องเป็นทางราบไม่ใช่เส้นทางภูเขาที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า KIA จะจัดทดสอบรถไฟฟ้าของครอบครัวบนเส้นทางภูเขาทำไม เพราะสื่อแทบจะไม่ได้เงยหน้ามองดูวิวทิวทัศน์เลยแม้แต่น้อย แค่ประคองรถให้อยู่บนเส้นทางที่อุดมไปด้วยโค้งนับร้อยนับพันก็แทบจะอ้วกแล้ว แถมบางช่วงฝนยังเทลงมาเพิ่มความยากในการควบคุมรถเข้าไปอีก หากเป็นทางราบผสมเนินเขาที่ไม่มีโค้งมากมายขนาดนี้ การวิ่งบนเส้นทางปกติที่มีจุดชาร์จคอยรองรับ ไม่ใช่หาจุดชาร์จไฟได้ยากเย็นแบบนี้ คงจะดีกว่ามาก โดยภาพรวม EV5 รุ่นรองท็อป Earth Long Range FWD ทำหน้าที่ได้ดีพอสมควรบนเส้นทางที่มีความหลากหลายแบบนี้ มันสอบผ่านด้านความสบายและพลังในการเร่งความเร็ว แบต 88.1 kWh เหลือเฟือสำหรับการใช้งานปกติทั้งขับในเมืองและออกทางไกล ในระยะทางที่ครอบคลุม 450-500 กิโลเมตรได้อย่างสบายๆ เป็นรถอเนกประสงค์พลังงานสะอาดที่มีช่วงล่างนุ่มสุด อาจไม่ถูกจริตพวกชอบขับเร็ว แต่ถ้าขับแบบมนุษย์ปกติก็ถือว่าดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะการพาคุณพ่อคุณแม่สูงวัยออกท่องเที่ยวเดินทาง ทางราบกินไฟไม่มากถ้าใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ถามว่า ราคานี้ 1,599,000 บาทนั้น ก็แพงอยู่เหมือนกันเพราะยังมีคู่แข่งสันดาปอย่าง CR-V e:HEV ES ที่มีราคาสูสีกันเป็นหอกข้างแคร่ที่มีดีมีเด่นกันไปคนละแบบ ถ้าชอบรถครอบครัวไซส์กลางพลังงานไฟฟ้าที่เน้นความสบายหลังพวงมาลัย EV5 รุ่นนี้ไม่น่าจะทำให้คุณผิดหวังละครับ เรื่องที่โดนใจนอกจากการขับที่ดีก็คือ การกำหนดราคาของ KIA ที่คงที่ ซื้อไปแล้ว ไม่นอนดอยติดดาวแบบซื้อวันนี้ พรุ่งนี้หายไปแสนห้าแบบรถจีนบางค่ายที่เหมือนจะทำร้ายตัวเองด้วยการลดราคาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนคนที่อยากได้เกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าเสี่ยงกับการกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ลดราคาเกือบจะทุกอาทิตย์แบบนี้ หรืออยากติดคาดอยก็ตามใจครับ เตือนแล้วไม่ฟังก็ต้องให้เจอเข้ากับตัวเองดูบ้าง! 

KIA EV5 เปิดให้ทดลองขับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ที่ตัวแทนจำหน่าย KIA ทั่วประเทศ โดยวางจำหน่ายในประเทศไทย 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Kia EV5 Light, Kia EV5 Air, Kia EV5 Earth Long Range และ Kia EV5 Earth Exclusive AWD ในราคาเริ่มต้นที่ 1,299,000 บาท มาพร้อมข้อเสนอ 7-7-8 ประกอบด้วยการรับประกันคุณภาพนานถึง 7 ปีเต็ม บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ 8 ปี

ระบบความปลอดภัย ADAS
ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรฝัน (Smart Cruise Control with Stop & Go)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
ระบบแจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง (RCCA : Rear Cross Traffic Collision Avoidance)
ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist)
ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อม ตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist (Forward Collision Avoidance Assist)
ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist)

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเบรก ABS + EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) และควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (TSA)
ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า (EPB) พร้อม Auto Brake Hold
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) และควบคุมเบรกขณะลงทางลาดชัน (DBC)
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด ELR ปรับระดับสูง-ต่ำ
เข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 แบบ 3 จุด ELR
จุดยึดสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX) บนเบาะแถวที่ 2
สวิตช์ควบคุมระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังแบบไฟฟ้า
ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Seat Alert)
เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Parking Distance Warning Front, Side and Rear)
กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/