ทุกวันนี้อะไรก็ตามที่มี 4 ล้อ Mercedes-Benz ก็จะเอามาปรับให้กลายเป็นรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ หรือเอสยูวีไปซะทั้งหมด เกิดจากความนิยมรถอเนกประสงค์ที่แพร่หลายไปทั่วมานานกว่า 20 ปี ยอดขายที่สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับค่ายรถทำให้รถยนต์อเนกประสงค์ไม่ว่าจะเป็นรถเอสยูวี หรือรถครอสโอเวอร์หรูจากยุโรปราคา 2 ล้านบาท อย่าง BMW X1 / MINI Countryman / Audi Q3 / Lexus UX/NX ต่างก็มีกลุ่มลูกค้าของตัวเอง โดยเฉพาะ Mercedes Benz GLA ที่กำลังทำตลาดอย่างมุ่งมั่นกับครอสโอเวอร์รุ่นปรับโฉมอย่าง GLA 200 AMG Dynamic รุ่นปรับโฉม 2024
...
Mercedes Benz GLA เป็นรถยนต์ในกลุ่ม Premium Compact Car ประเภท Crossover รูปลักษณ์ดีไซน์สไตล์คอมแพ็คคาร์ 5 ประตู ด้วยยอดขายในไทยทั้งหมดเกือบ 20,000 คัน ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2012 มาจนถึงปี ค.ศ.2024 Mercedes Benz พัฒนารูปทรงของรถยนต์ครอสโอเวอร์ในโมเดล GLA200 รุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ การปรับปรุงระบบอากาศพลศาสตร์ ระบบส่งกำลัง และความกระชับคล่องตัวจากมิติตัวรถที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร Mercedes Benz Thailand แบรนด์รถหรูตราดาว แนะนำ The New GLA-Class ครอสโอเวอร์กะทัดรัดรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ 2023-2024 ในช่วงต้นปี ด้วยราคา 2,580,000 บาท ในรุ่น GLA200 AMG Dynamic พร้อมเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ และเกียร์ออโต้คลัตช์คู่ 7 สปีด
...
...
...
รูปลักษณ์ที่กลมมนคล้ายเด็กตัวอ้วนของ GLA200 AMG ทำให้ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลง มิติตัวถังของ Mercedes Benz GLA200 Urban มีความยาว 4,436 มิลลิเมตร กว้าง 1,849 มิลลิเมตร สูง 1,605 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,729 มิลลิเมตร ห้องเก็บสัมภาระท้ายความจุ 435-1,430 ลิตร ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร แนวคิดทางการออกแบบที่ Mercedes Benz ใช้เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ของ GLA ประกอบด้วยการปรับแต่งรูปทรงของเสาเอให้ลาดเป็นวงโค้ง การปรับปรุงกรอบกระจกรอบตัวถังให้สอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศด้านใต้ท้องรถ การปรับแต่งปลายขอบตัวถังบริเวณส่วนล่างของตัวรถให้เป็นพื้นที่ลู่ลมขนาดใหญ่ รวมถึงการปรับแต่งบริเวณส่วนกลางของเพลาหลังและท่อระบายไอเสียด้านหลังซึ่งเชื่อมต่อกับดิฟฟิวเซอร์ GLA ติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา พร้อมไฟท้ายแบบใหม่ ด้านข้างตัวรถออกแบบโดยคำนึงถึงการควบคุมกระแสลมหมุนวนทางด้านหลังของตัวรถให้เป็นไปอย่างเหมาะสม
GLA200 AMG ทำตัวเป็นครอสโอเวอร์ด้วยการยกความสูงเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างพื้นถนนกับใต้ท้องรถให้มากขึ้น การยกตัวถังให้สูงขึ้นทำให้ลุยทางวิบากได้บ้าง เนื่องจากเป็นเวอร์ชันขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ตำแหน่งเบาะนั่งยกสูงขึ้นเพื่อทัศนวิสัยมุมมองรอบคันที่คลอบคลุม รูปลักษณ์ที่ดูคล้ายกับการนำ GLE หรือ GLS มาย่อสัดส่วนให้เล็กลง การปรับปรุงเริ่มจากกันชนหน้า AMG แบบใหม่, ไฟหน้า LED High Performance ระบบไฟอัตโนมัติที่ให้กำลังในการส่องสว่างดีขึ้น ด้วยอุณหภูมิแสงที่ใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ ระบบ Adaptive highbeam Assist ที่ช่วยปรับไฟสูงแบบอัตโนมัติ เพื่อลดการบดบังทัศนวิสัยของผู้ร่วมใช้ถนน, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน หลอด LED กรอบไฟหน้าใช้ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย LED แบบใหม่ที่ลงตัวและมีขนาดที่พอดีกับสัดส่วนบั้นท้าย ไฟเบรกดวงที่ 3 หลอด LED กระจกมองข้างปรับ-พับเก็บด้วยไฟฟ้า กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่ และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ เปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้า ราวหลังคาอะลูมิเนียม ปลายท่อไอเสียหลอกเสริมโครเมียม 2 ท่อ พร้อมล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว ยาง continental Ecocontact 6 ไซส์ 235/50R19
ห้องโดยสารของครอสโอเวอร์ตราดาวประกอบไทย ราคา 2.5 ล้าน มีการประดับประดาด้วยวัสดุคุณภาพดี พลาสติก โลหะและพรมที่ทำให้งานตกแต่งภายในน่าใช้งาน แดชบอร์ดทรงสูงวางตำแหน่งอุปกรณ์ให้ใช้งานได้ง่าย เบาะไมโครไฟเบอร์คู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ เบาะหนังสีเทาดำหุ้มหนังกลับไมโครไฟเบอร์ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดงตามสไตล์งานตกแต่งภายในของ AMG โทนสีเทาเข้มเข้ากับสีดำของแดชบอร์ด แผงคอนโซลคาดด้วยงานตกแต่งที่เรืองแสงเป็นรูปดาวดวงเล็กๆ ในตอนกลางคืน ช่องแอร์ทรงกลม 5 ช่องที่ออกแบบได้ดีและใช้วัสดุราคาแพงแถมยังเรืองแสงเนื่องจากมีหลอด LED อยู่ภายใน การเรืองแสงที่ปรับเปลี่ยนเฉดสีไปตามการปรับตั้ง เพื่อสร้างบรรยากาศของความหรูหรา เบาะหลังแบบ 3 ที่นั่ง เบาะหลังพับราบกับพื้นได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ แผงประตูแบบทูโทนใช้สีเบสตัดกับสีดำ พร้อมมือจับที่เปิดประตูสีเงินยวง ผู้โดยสารตอนหลังยังเย็นสบายด้วยช่องแอร์ด้านหลังที่เพิ่มเข้ามาให้ใช้งานสำหรับพื้นที่เขตร้อน พื้นที่บรรทุกสัมภาระท้าย 435 ลิตร เมื่อพับเบาะจะเพิ่มเป็น 1,430 ลิตร
พวงมาลัย 3 ก้าน ทรงแมลงปอของ AMG มาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และสวิตช์ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ พวงมาลัย 3 ก้าน ติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชันใช้สั่งงานระบบเครื่องเสียง สวิตช์รับหรือวางสายโทรศัพท์แบบบลูทูธ สำหรับคนที่เพิ่งจะถอยตราดาวป้ายแดงเป็นครั้งแรกนั้น คันเกียร์แบบก้านติดตั้งอยู่บริเวณด้านขวาของพวงมาลัย ใช้งานไปอาจไม่คุ้นเนื่องจากชินกับคันเกียร์แบบเดิม เมื่อขับไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าก้านเกียร์ที่คล้ายกับก้านไฟเลี้ยวของ Mercedes Benz นั้นใช้งานได้สะดวกมากกว่าคันเกียร์ออโต้แบบเดิมๆ ที่มักอยู่ในตำแหน่งถัดจากคอนโซลกลาง
Mercedes Benz GLA200 AMG ติดตั้งระบบมัลติมีเดีย MBUX รุ่นใหม่ หน้าจอภาพมาตรวัดและจอมอนิเตอร์กลางอยู่ในชิ้นเดียวกัน เป็นจอยาวแบบใหม่พร้อมกับความคมชัดและกราฟิกที่ออกแบบให้เข้าถึงฟังก์ชันการปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น GLA200 ตกแต่งแบบ AMG Interior Package
เบาะนั่งคู่หน้า Sport Seats หุ้มด้วยหนัง ARTICO สลับ DYNAMICA microfibre สีดำ ตะเข็บด้ายสีแดง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า ระบบดันหลังสำหรับเบาะนั่งคู่หน้า ปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังแยกพับอิสระ 40 : 20 : 40 ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง พวงมาลัย Multi-function แบบ Sport Steering Wheel หุ้มด้วยหนัง Nappa แป้นคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ตพร้อมปุ่มยางกันลื่น ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ช่องแอร์แบบ Turbine Airvents พร้อมไฟเรืองแสง ไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร Ambient Light LED ปรับได้ 64 สี ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ Push Start Button มาตรวัดแบบ Full Digital ขนาด 10.25 นิ้ว กล่องเก็บสัมภาระใต้เบาะนั่งคู่หน้า พรมปูพื้น AMG
Mercedes Benz GLA200 AMG วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงแบบ 4 กระบอกสูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ มีปริมาตรความจุ 1,332 ซีซี เครื่องยนต์วางตามขวางขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดทำได้ 250 นิวตันเมตร ที่ 1,650-4,000 รอบต่อนาที เป็นตัวเลขแรงบิดที่สมน้ำสมเนื้อกับขนาดและน้ำหนักทำให้เกิดความคล่องตัว เนื่องจาก GLA200 เป็นรถคันเล็กมีน้ำหนักตัวไม่มาก เครื่องยนต์แค่ 1.3 ลิตรเทอร์โบ ก็เอาอยู่และสามารถใช้งานได้ดีจากแรงฉุดลากหรือแรงบิดแบบจัดเต็ม สมรรถนะของ GLA200 มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณทะยานไปได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ของครอสโอเวอร์รุ่นนี้ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G - DCT) เป็นเกียร์ทวินคลัตช์ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Steering - wheel Gearshift Paddles ระบบรองรับหรือช่วงล่างของ Mercedes Benz GLA200 AMG ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์พร้อมชิ้นส่วนของช่วงล่างที่ทำจากอะลูมินั่มอัลลอยเพื่อลดน้ำหนักใต้สปริง ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว ลาย 5 ก้านที่ล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนยางหน้า-หลัง มีขนาด 235/50 R19 จัดยางรันแฟลต continental Ecocontact 6 เป็นยางเนื้อนิ่มวิ่งเงียบใช้ได้
ราคา 2.5 ล้าน กับกลไกของระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ที่พ่วงกับรถเล็กในค่ายตราดาวรุ่น A-Class และ CLA-Class รูปแบบของการขับที่เน้นความคล่องตัว ขนาดที่เล็กกะทัดรัดกับน้ำหนักตัวเบากว่า คล้ายรถแฮตช์แบคคันเล็กที่ยกสัดส่วนความสูงมากกว่าปกติ ขุมกำลัง 1.3 ลิตรเทอร์โบ มีแรงบิดมาให้ใช้งานถึง 250 นิวตันเมตร การปรับจูนเครื่องยนต์ตัวเล็กกับชุดส่งกำลังคลัตช์คู่ให้ตอบสนองดี สูตรสำเร็จในการเอาไปต่อสู้กับ BMW เครื่องยนต์เบนซินอัดอากาศด้วยเทอร์โบประสิทธิภาพสูง เสริมระบบระบายความร้อน ปรับปั๊มเชื้อเพลิง ปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้น่าขับมากยิ่งขึ้นในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ พร้อมพวงมาลัยไฟฟ้าที่แม่นยำและเที่ยงตรง จ่ายไป 2.5 ล้าน ได้ตราดาวตัวเล็กที่ขับได้ดีแบบนี้ก็ถือว่าโอเคละครับ
กำลัง 163 แรงม้า เมื่อขับออกทางไกลก็ให้ประสิทธิภาพของการวิ่งบนไฮเวย์ที่น่าพึงพอใจ ฟิลลิ่งของการขับเน้นความสนุกสไตล์รถยนต์แบบครอสโอเวอร์ อาการโคลงหรือส่ายน้อยลงเนื่องจากการกระจายน้ำหนัก แชสซีที่สมดุลแลช่วงล่างที่ส่งเสริมให้รถขับสนุก ขนาดของตัวถัง น้ำหนัก และกำลังแรงบิด ไม่เป็นอุปสรรคในการทำความเร็ว ช่วงล่างที่ปรับตั้งมาจากโรงงานทำหน้าที่อย่างรัดกุมสอดคล้องกับสภาพเส้นทางที่หลากหลายในประเทศไทย บนถนนลาดยางจากสุพรรณบุรีมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เจ้า GLA200 AMG วิ่งได้อย่างมั่นคง แม้บางช่วงบางตอนจะเจอเข้ากับผิวถนนที่ไม่มีความสม่ำเสมอ แต่ช่วงล่างกับยางก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดี ยาง 235/50 มีแก้มยางสูงและเนื้อยางที่นิ่ม ส่งถ่ายความนิ่มนวลและช่วยลดเสียงรบกวนเมื่อบดลงไปกับผิวถนน การยึดเกาะของยางรุ่นนี้อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่ว่าจะแห้งหรือเปียกก็ให้ความมั่นใจใช้ได้ วัสดุป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอกทำให้ GLA200 AMG เป็นรถที่เก็บเสียงรบกวนใช้ได้เลยทีเดียว
เครื่องยนต์ 1.3 ลิตรเทอร์โบ ไม่ได้ดึงสนุกเท่า GLA250 รุ่นที่แล้ว แต่ GLA200 รุ่นใหม่ที่วางเครื่องเล็กลงก็เป็นรถที่ชอบให้ลงคันเร่งหนักๆ การเร่งความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็พุ่งลิ่วๆ ไปตามแรงเท้า ซึ่งให้ความรู้สึกในการตอบสนองไม่เป็นรอง BMW X1 การขับเข้าโค้งด้วยการเบรกลดความเร็วก่อนถึงจุดที่จะเริ่มหมุนพวงมาลัย ถ่ายเทน้ำหนักค่อนข้างสมดุล ทำให้มันเป็นรถเล็กที่ทรงตัวดีในโค้งมุมกว้าง กลไกขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ส่งผลกระทบกับชุดบังคับเลี้ยวมากนัก ขณะที่เร่งออกจากปลายโค้งด้วยการกดคันเร่งส่งอย่างเต็มเหนี่ยว บาลานซ์ที่ดีของรถมอบความมั่นคง ช่วงล่างรองรับแรงม้าและแรงบิดสอดคล้องกับรูปแบบของตัวถังจากการปรับตั้งที่ดีทำให้เผลอตัวขับเร็วบ่อยครั้งจนโดนใบสั่งแทบจะทุกครั้งที่ขับออกทางไกลคือสิ่งที่ต้องระวังในการทำความเร็ว
จังหวะของการเปลี่ยนเกียร์คืออีกหนึ่งจุดที่ทำได้เนียนดีมาก เกียร์ 7G - DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Steering - wheel Gearshift Paddles อัปเกรดซอฟต์แวร์เพื่อทำให้มันเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้นอีกนิด เชื่อมโยงกับโหมดขับเคลื่อน (ECO / COMFORT / SPORT / INDIVIDUAL) เกียร์ของ GLA200 มีประสิทธิภาพดี แม้จะมีแค่ 7 เกียร์ เป็นชุดส่งกำลังที่ถ่ายเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ในช่วงแรงบิดกว้างๆ ทำให้แทบจะไม่มีอาการรอรอบ ซึ่งเป็นปัญหาเก่าๆ ของเครื่องยนต์ 4 สูบติดเทอร์โบ น้ำหนักของพวงมาลัยที่ขึ้นตรงกับโหมดของการขับเคลื่อนจะแม่นสุดในโหมด Sport ส่วนโหมด Comfort ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไม่รัดกุมมากจนเกินไป โหมด ECO เป็นการปรับตั้งค่ากลางๆ ทำให้พวงมาลัยเบาและตอบสนองต่อการหักเลี้ยวในย่านความเร็วต่ำเมื่อขับใช้งานในเมือง แต่โหมด ECO ซึ่งเป็นโหมดประหยัดโดนจำกัดการใช้คันเร่งด้วยการปรับให้คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองช้าลงเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ไม่ว่าคุณจะคาอยู่โหมดไหนเมื่ออยากไปให้ไวขึ้นก็แค่ลงน้ำหนักเท้ากดคันเร่งให้สุด แค่นั้นเจ้า GLA200 AMG ก็จะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
อัตราทดของเกียร์ 7 สปีดทวินคลัตช์นั้น ที่เกียร์ 1-4 ถูกปรับให้ชิดขึ้น ส่วนเกียร์สุดท้าย หรือเกียร์ 7 เป็นเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อวิ่งบนไฮเวย์ ช่วยทำให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น ขณะที่ผมขับแช่ความเร็วอยู่บนไฮเวย์ หรือขับด้วยความเร็วต่ำบนทางหลวงชนบท เมื่อลองเปลี่ยนเกียร์ด้วยแป้น Paddle Shift เกียร์ของ GLA200 AMG ปลี่ยนอัตราทดแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่กระโชกโฮกฮาก คลัตช์ 2 ชุดเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนอัตราทดได้ว่องไวพอใช้ การเปลี่ยนเกียร์ในโหมด Auto นิ่มนวลไหลลื่นมาก และเข้ากับรูปแบบรถอเนกประสงค์ได้ดี บนทางหลวงชนบทที่เงียบสงัด การสับเกียร์เล่นขึ้นๆ ลงๆ เมื่อเจอกับโค้งสลับซ้าย-ขวา คือความสนุกเพลิดเพลิน ด้วยความมั่นคงของช่วงล่าง ยางและชุดบังคับเลี้ยว
Mercedes Benz GLA200 AMG Dynamic รุ่นปรับโฉม เป็นครอสโอเวอร์ที่มีชีวิตชีวา คำถามก็คือ ทำไมไม่มีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ที่แรงกว่านี้? แต่รุ่น 200 เครื่อง 1,300 ซีซี ก็เพียงพอต่อการใช้งาน สุดท้ายเจ้า GLA200 AMG คือการอัปเกรดยานพาหนะตราดาวไซส์เล็กให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เป็นรถเบนซ์รุ่นเริ่มต้นที่แม้จะมีราคาสูงอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าน่าใช้ หากอยากจะเปลี่ยนพาหนะคันใหม่จากรถญี่ปุ่นเป็นรถยุโรปรุ่นเริ่มต้นที่หรูหรามากกว่า การจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อขยับมาเป็นรถตราดาวแม้ขนาดจะเล็ก แต่ก็เหมาะสมกับการใช้งานหากไม่คิดมาก GLA200 เครื่องยนต์ 1.3 ลิตรเทอร์โบ กับเกียร์ทวินคลัตช์ 7 สปีด พร้อมช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวแหล่มๆ ก็ทำให้คนที่ใช้รถญี่ปุ่นรู้สึกหวั่นไหวได้เหมือนกัน.
รายละเอียดด้านเทคนิค GLA 200 AMG Dynamic
เครื่องยนต์ เบนซิน แถวเรียง/4 สูบ/เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
(รองรับนํ้ามัน E85)
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,332 ซีซี.
แรงม้าสูงสุด 120 กิโลวัตต์ 163 แรงม้า 5,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร/1,620–4,000รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. 8.7 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 210 กม./ชม.
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง E10 | E85 7.4 ลิตร/100 กิโลเมตร
นอกเมือง 5.2/100 กม. | 4.7/100 กม.
รวม 6.2/100 กม. | 5.7/100 กม.
ความจุถังนํ้ามัน 43 ลิตร
พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 435–1,430 ลิตร
ระบบส่งกําลัง เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G–DCT)
พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
(Steering–wheel Gearshift Paddles)
ขนาดล้อ และยาง หน้า–หลัง 235/50 R19
มิติตัวถัง กว้าง 1,849 มิลลิเมตร ยาว 4,436 มิลลิเมตร 1,605 มิลลิเมตร
ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าสําหรับผู้ขับขี่
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti–lock braking system)
ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill–Start Assist
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light)
ระบบเตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist)
ระบบเตือนแรงดันลมยาง (tyre pressure loss warning system)
กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด
ระบบช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC)
ระบบแจ้งเตือนสถานะเข็มขัดนิรภัยสําหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบแจ้งเตือนขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning)
ระบบรักษาความเร็ว (CRUISE CONTROL)
ชุดอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินแบบ TIREFIT
ใบปัดนํ้าฝนทํางานโดยอัตโนมัติ พร้อมเซ็นเซอร์วัดปริมาณนํ้าฝน
ไฟหน้าแบบ LED High Performance
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)
ระบบเปิด–ปิด ฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS–FREE ACCESS)
ระบบกุญแจแบบ KEYLESS–GO
กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า
ช่วงล่าง Comfort suspension แบบ ride–height lowering
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด–ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystyling
อุปกรณ์กันกระแทกโครงหลังคาแบบ aluminium
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19"
ระบบเบรกแบบสปอร์ต
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน GLA 200 AMG Dynamic
ระบบเปิด–ปิด ฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS–FREE ACCESS)
ระบบกุญแจแบบ KEYLESS–GO
กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า
ช่วงล่าง Comfort suspension แบบ ride–height lowering
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด–ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystyling
อุปกรณ์กันกระแทกโครงหลังคาแบบ aluminium
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19"
ระบบเบรกแบบสปอร์ต
เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจําสําหรับตําแหน่งที่นั่ง และกระจกมองข้าง
ระบบดันหลัง 4 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พับได้แบบ 1/3 และ 2/3
หน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.25"
มาตรวัดความเร็ว และวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All–digital instrument display ขนาด 10.25"
ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging) สําหรับที่นั่งด้านหน้า
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT
ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉด (Ambient lighting)
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa
เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ MICROCUT microfibre สีดําตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
วัสดุตกแต่งภายใน Back– illuminated trim
เบาะนั่งแบบ Sport seats
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 2 โซน
ตกแต่งห้องโดยสารแบบ AMG Line interior
กระจกมองหลังสําหรับผู้ขับขี่ปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ช่อง USB Type–C 5 ตําแหน่ง
ที่วางแก้วนํ้าบริเวณคอนโซลกลาง
พรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ AMG
ระบบความบันเทิง และการสื่อสาร
ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS
และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto™)
อุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สําหรับบริการ Mercedes me connect
ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
รองรับการสังซื้อ Application สําหรับรายงานสภาพการจราจรแบบออนไลน์ Live Traffic Information
ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX
ฟังก์ชันเพิ่มเติมสําหรับการใช้งาน MBUX