Lexus และบริษัทแม่อย่าง Toyota เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีไฮบริดมานานกว่า 30 ปี และ All-new 2023 RX ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบส่งกำลังพลังงานผสม เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า (ซึ่งทำออกมาขายนานแล้ว) Lexus RX เป็นหนึ่งในโมเดลสำคัญของแบรนด์ Lexus จากยอดขายที่ทำตัวเลขได้ดีทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 จนถึงทุกวันนี้ โมเดล RX ของ Lexus ยังคงเป็นครอสโอเวอร์หรูหราราคาแพงที่ขายดี ในไทย RX มียอดตามหลัง NX ที่เล็กกว่า จากราคาค่าตัวที่ถูกกว่าของรถรุ่นน้องไซส์เล็ก สำหรับ RX 350h รุ่นใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ผสานระบบขับเคลื่อนไฮบริดไฟฟ้า นับเป็น New RX ในรุ่นที่ถูกที่สุด แต่ก็ยังมีราคาสูงถึง 4,790,000 บาท 

...

Lexus RX 350h Premium FWD ขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นเริ่มต้น มีราคา 4,790,000 บาท ใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K เหมือนกับ Toyota RAV4 พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของรถครอสโอเวอร์ไซส์กลางรุ่นนี้ก็คือ สไตล์การออกแบบที่ Lexus นำมาปรับใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด ซึ่งแต่ละโมเดลมีขนาดแตกต่างกัน Lexus RX รุ่นล่าสุดถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของผู้ผลิตรถยนต์หรูหราสัญชาติญี่ปุ่น เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนบนรูปแบบที่แตกต่าง แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นแต่คุณภาพงานประกอบนั้นยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ถูกกว่า RX450h+ เวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดหลายแสนบาท แต่ให้ฟีลลิ่งของช่วงล่างเกือบจะใกล้เคียงกัน ยกเว้นพลังในรูปของแรงบิดเวลาเร่งแซง RX450h+ แรงกว่าอย่างชัดเจน อันที่จริง RX 450h+ พร้อมระบบปลั๊กอินคือ RX ระดับกลาง มันมีอัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหนือกว่าและการปรับแต่งทั้งภายนอกและภายในที่เยอะกว่ารุ่นไฮบริดอย่าง RX 350h ส่วนรุ่นสูงสุด RX 500h F Sport เดี๋ยวจะเอามาทดสอบอีกทีเมื่อมีเวลามากพอ บอกตามตรงว่าพอใกล้งานบางกอก มอเตอร์โชว์ทีไร งานเปิดตัวและเชิญทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ที่พร้อมขายในงานจะประดังเข้ามาจนยากจะทำได้ทัน กลับมาที่ RX350h Premium นี่คือรถที่กลายเป็นข้อเสนออันน่าดึงดูด เนื่องจากใช้ระบบขับเคลื่อน 'Performance Hybrid' แม้จะเป็น RX ที่ถูกที่สุดในไทย แต่ก็ไม่ใช่ SUV ที่มาพร้อมการขับแบบสปอร์ตเสียทีเดียว RX350h ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ทำหลายอย่าง ทั้งเสริมแรงบิด วิ่งด้วยไฟฟ้าสั้นๆ ในย่านความเร็วต่ำ ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรอสัญญาณไฟโดยที่แอร์ยังเย็นฉ่ำ ข้อสำคัญ ยังมีพื้นที่ส่วนท้ายสำหรับเก็บสัมภาระได้อย่างจุใจ 

...

RX ไม่ใช่ Lexus ที่เซ็กซี่หรือมีความสามารถมากที่สุด แต่การวางตำแหน่งและแนวทางในการทำตลาด ทำให้ RX กลายเป็นรถที่มีผู้ซื้อจำนวนมากให้ความสนใจ โดยทั่วไปแล้ว RX มีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขาย Lexus ในอเมริกา และขายได้มากกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ Lexus ทั้งหมดรวมกัน ด้านหน้าของ Lexus RX350h Premium วาง 'กระจังหน้า Spindle' ที่เป็นข้อถกเถียงว่าทำให้รถดูดีหรือดูแปลก แต่ที่แน่นๆ ก็คือ ทำให้ส่วนหน้าของรถดูยื่นออกไปพอสมควรเมื่อมองจากด้านข้าง พัฒนาการที่เกิดขึ้นจากรูปลักษณ์ใหม่ใน New RX Model  เป็นสิ่งที่ Lexus เรียกว่า 'สปินเดิล' มีการถอดชิ้นส่วนขอบโครเมียมรอบๆ กระจังหน้าออก เพื่อให้กลมกลืนกับกันชนหน้าของ New RX ไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ยังใช้รูปทรงที่เฉียบคม ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่ดุดันแต่ทันสมัย

...

...

ด้านข้างตัวถังมีซุ้มล้อที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีพร้อมกับล้ออัลลอยขอบ 21 นิ้ว สีเงินยวง เสาหน้าเชื่อมต่อกับแนวโค้งของบังโคลนแก้มข้าง ส่วนเสาท้ายยังใช้สไตล์ของ RX รุ่นที่แล้ว ด้วยชิ้นงานโครเมียมที่ไหลลงมาในมุมสโลปที่ลงตัว แรคหลังคาโลหะสีเงิน ประตูบานหลังเชื่อมมุมกับซุ้มล้อหลังได้อย่างกลมกลืน บั้นท้ายแทบจะไม่แตกต่างไปจาก RX450h+ ไฟท้าย LED ทรงยาวเชื่อมต่อกันด้วยกรอบไฟท้ายพลาสติกพร้อมตัวอักษร Lexus บริเวณกึ่งกลางของชุดไฟท้าย ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์ช่วยเปิด กันชนหลังออกแบบให้มีมุมที่ลึกลงไปเพื่อเพิ่มมุมมองที่สอดคล้องกับแสงเงา มิติตัวถังของ Lexus RX350h มีขนาดความยาว 4,890 มิลลิเมตร กว้าง 1,920 มิลลิเมตร สูง 1,695 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 190 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,005 กิโลกรัม ล้ออัลลอยลายใหม่ ขอบ 21 นิ้ว สีเงิน ยาง Bridgestone Alenza ไซส์ 235/50R21 110W

ภายใน การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดก็คือ ความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความทันสมัย ในราคาที่ไม่ถูก ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว วางเชื่อมกับแดชบอร์ด เป็นระบบอินโฟเทนเมนต์แบบหน้าจอสัมผัส ความละเอียดของหน้าจอนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี แต่กราฟิกยังตามหลังแบรนด์ยุโรปที่เน้นความครบของฟังก์ชันต่างๆ จอ 14 นิ้ว ตอบสนองต่อการสัมผัส เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย (แต่ Android Auto ยังคงมีสายอย่างน่าประหลาด) ระบบเสียงไม่ใช่ Mark Levinson แต่เป็นชุดเครื่องเสียงพานาโซนิคแบบ 12 ลำโพงที่คมชัดใช้ได้ แป้นหมุน HVAC คู่ที่รวมอยู่ในหน้าจอสัมผัสก็ใช้งานง่ายเช่นกัน ฟังก์ชันแบบดิจิทัลและจัดวางในลักษณะที่เข้า-ออกและอ่านได้ง่าย 

พวงมาลัยทรงสามก้านหุ้มหนังแท้ มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ปุ่มควบคุมบนก้านวงมีทั้งแบบสัมผัสและไวต่อแรงกด แนวคิดดีเพราะว่าปุ่มเดียวกันมีฟังก์ชันที่แตกต่างกัน เมื่อใช้งานก็ต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย ห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tazuna ซึ่งเป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "ควบคุมม้าด้วยสายบังเหียน" การพูดทางการตลาดนี้ เมื่อลองลงไปนั่งในเบาะคนขับก็รู้ว่าจริง เนื่องจากการตกแต่งภายในตามหลักสรีรศาสตร์โดยเอื้ออำนวยการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ เน้นไปที่คนขับ ทุกอย่างให้ความรู้สึกพอดีและเป็นธรรมชาติ ส่วนควบคุมที่จำเป็นทั้งหมดก็อยู่ไม่ไกล จอภาพที่ต้องเอื้อมมือเอานิ้วไปแตะก็อยู่ในระยะที่ง่ายต่อการสัมผัส แต่ควรปรับตั้งอะไรให้เรียบร้อยก่อนการเคลื่อนตัวจะปลอดภัยกว่าการละสายตาไปมองหน้าจอ เบาะนั่งรองรับอย่างดีเยี่ยม มาพร้อมระบบปรับความเย็นในตัวเบาะสามระดับที่เหมาะกับสภาพอากาศในเดือนมีนาคม ทัศนวิสัยมุมมองด้านหน้าจากตำแหน่งที่นั่งคนขับมองเห็นได้กว้างไกล เบาะหลังมีพื้นที่วางขาเหลือเฟือ ที่เก็บของก็มีให้เยอะพอสมควร คอนโซลกลางยังออกแบบให้เปิดได้ทั้งสองด้านเพื่อความสะดวกในการใช้งาน 

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ที่แสดงบนหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว และมีระบบนำทางด้วยดาวเทียม, Apple CarPlay ไร้สาย, Android Auto แบบมีสาย วิทยุดิจิทัล เมื่อเปรียบเทียบกับระบบอินโฟเทนเมนต์ของ Lexus รุ่นเก่า RX350h รุ่นใหม่ถือว่าทำได้ดีกว่ามาก แม้ว่าจะไม่ได้เร็ว ลื่นไหลเหมือนที่คุณเคยใช้งานในรถยนต์คู่แข่งแบรนด์ยุโรป แผงหน้าปัดดิจิทัลเป็นมาตรฐาน คลัสเตอร์ดิจิทัลระดับสูงพร้อมกับจอแสดงผลบนกระจกหน้า ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ซันรูฟแบบพาโนรามา, เบาะหุ้มหนัง, เบาะนั่งคู่หน้าแบบมีช่องระบายอากาศพร้อมระบบปรับอากาศให้เบาะเย็นหรืออุ่นร้อนแบบสามระดับ ฟังก์ชันหน่วยความจำสำหรับเบาะนั่งคนขับ เพิ่มการควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัสที่ไวต่อการสั่งงานซึ่งคุณต้องควบคุมผ่าน HUD หากชอบความเรียบง่าย ปุ่มแบบเดิมๆ บนพวงมาลัย RX จะเหมาะมากกว่า นอกจากนี้ ยังรวมกล้อง 360 องศามาให้ใช้งานอีกด้วย

RX 350h ติดตั้งเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางที่นั่งสบายเอาเรื่อง, พวงมาลัยปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, เบาะหนังโคตรนุ่มนั่งสบายก้น พร้อมระบบปรับอากาศในตัวเบาะ, ไฟส่องสว่างภายใน, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ฝาประตูท้ายไฟฟ้า, ระบบตรวจสอบผู้ขับ และระบบเครื่องเสียง Panasonic 12 ลำโพง ที่ให้เสียงคมชัดราวกับเครื่องเสียงราคาแพง เบาะแบบมาตรฐานให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและพรีเมียมตามที่คาดหวังใน Lexus ห้องโดยสารให้ความรู้สึกแพง และถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี มีวัสดุคุณภาพสูงตกแต่งอยู่ทั่วไปหมด โดยภาพรวม ภายในของ RX350h Premium กว้างขวางใช้งานได้ดี มีพื้นที่วางขามากพอสำหรับผู้โดยสารทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง พื้นที่เก็บของด้านหน้าคันเกียร์เป็นโพรง เนื่องจากชุดเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ฝาปิดคอนโซลกลางสามารถเปิดไปทางซ้ายหรือขวาได้ เพื่อความสะดวกของทั้งคนขับและผู้โดยสาร พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย มีขนาดใหญ่ถึง 612 ลิตร มีพอร์ต USB-C ห้าพอร์ต พอร์ต USB-A หนึ่งพอร์ต และปลั๊กไฟ 12V หนึ่งช่องเพื่อชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ

ใต้ฝากระโปรงของ RX 350h 2WD พบกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้างกำลังสูงสุด 184kW 246 แรงม้า ซึ่งส่งแรงบิดไปยังล้อหน้า ผ่านระบบเกียร์ e-CVT อัตโนมัติ พร้อมอัตราทดแปรผัน 6 สปีด เพื่อแยกกำลังขับสูงสุดซึ่งคำนวณด้วยวิธีเฉพาะเนื่องจากเป็นรถไฮบริด เครื่องยนต์เบนซินผลิตกำลังได้ 140 กิโลวัตต์ (187 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 239 นิวตันเมตรที่ 4,300-4,500 รอบต่อนาที ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มกำลังได้ 134 กิโลวัตต์ และ 270 นิวตันเมตร กำลังรวมทั้งระบบ 246 แรงม้า แม้ว่าตัวเลขทั้งหมดจะดูค่อนข้างดี แต่ RX350h ไม่ใช่รถแรงในโมเดล New RX เนื่องจากเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ทรงพลังเท่ากับ RX500h ขับสี่ จึงอาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องเร่งความเร็วเพื่อแซง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.1 วินาที ทำให้ความเร็วตีนต้นอยู่ในอันดับสุดท้ายเมื่อเทียบกับ BMW X5 xDrive50e/ Mercedes-Benz GLE350D / Audi Q7 60TFSIe และ Volvo XC90 PHEV 

จากเส้นบางบัวทอง-สุพรรณบุรี จนมาถึงอำเภอหนองปรือในจังหวัดกาญจนบุรี ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ชัดเจนว่านุ่มสบายและสงบเงียบ นั่นคือคือเป้าหมายของ RX รุ่น 350h Premium ที่เน้นเรื่องความสะดวกสบายและประสิทธิภาพด้านอัตราสิ้นเปลือง ระบบไฮบริดทำงานด้วยความราบรื่น การเปลี่ยนถ่ายระหว่างเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้า ปราศจากแรงในการเชื่อมต่อ ราบเรียบไหลลื่นเมื่อถ่ายเทแรงบิดผ่านเกียร์ e-CVT เมื่อกดคันเร่งหนักๆ จะได้ยินเสียงครางเบาๆ ของเครื่องเบนซินสี่สูบเรียงความจุ 2.5 ลิตร เนื่องจากเกียร์ที่ต้องใช้การลากรอบยาวๆ เพื่อเรียกกำลังทำให้มีเสียงครางของเครื่องยนต์ในรอบสูงลอดเข้ามาให้ได้ยินเบาๆ แชสซีที่ดีทำหน้าที่ผสมผสานกับระบบกันสะเทือนเพื่อถ่ายทอดความนุ่มนวลบนทางแบบสองเลนสวนสลับทางขึ้นลงเนินเขาเตี้ยๆ 

Lexus RX 350h ซึ่งเป็น RX ไฮบริดระดับเริ่มต้นที่ไม่ได้ทรงพลังเหมือน RX 500h F Sport Performance AWD 366 แรงม้า แต่ RX 350h นำเสนอแพ็กเกจของความสะดวกสบาย ความหรู อัตราการประหยัดน้ำมันดี เมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนัก การขับรถออกทางไกลไปรอบๆ ภูเขาแถบทิศตะวันตกแถบองคต เขาหินตั้ง ด่านช้าง ท่ามกลางอุณหภูมิยันปรอทระดับ 39 องศาเซลเซียส แพลตฟอร์ม Toyota TNGA-K ทำให้ RX ใหม่ มีความยาวเท่าเดิม แต่มีระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น ขนาดตัวถังที่กว้างขึ้น เพื่อเสริมรูปลักษณ์ให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานของมันยังเบากว่า RX รุ่นที่แล้ว 90 กิโลกรัม ซึ่งน่าจะหมายถึงความคล่องตัวที่ดีขึ้น

เมื่อดูเผินๆ RX 2023 ยังคงดูเหมือนรถโฉมที่แล้วโดยเฉพาะมุมมองด้านข้างตัวถัง รูปทรงและคุณสมบัติพื้นฐานที่คล้ายกัน แต่สไตล์ของรถรุ่นใหม่มีความคมชัดยิ่งขึ้นได้รับการปรับปรุงมากกว่าเดิม เมื่อตรวจสอบด้วยสายตาเพิ่มเติม ในขณะที่ความสะดวกสบายยังคงเป็นจุดเด่นของ Lexus แต่เมื่อเจาะลึกลงไป คุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของคุณภาพงานประกอบ งานสีตัวถัง วัสดุ เทคโนโลยีช่วยขับ และอุปกรณ์ความปลอดภัย กระจังหน้าสไตล์เก๋ไก๋ บางคนบอกว่ามันโหนกเกินไป ไฟหน้า LED ทรงโฉบเฉี่ยว เส้นแนวเสา C ที่เฉือนกรอบกระจกได้อย่างลงตัวเหมือนกับ RX รุ่นที่แล้ว ส่วนโค้งด้านหลังที่แข็งแกร่ง แถบไฟท้ายเชื่อมต่อกันชนิดเต็มความกว้าง ทอดยาวจากกึ่งกลางของรถไปยังไฟท้ายทั้งสองฝั่ง ทั้งหมดนี้รวมกันเป็น SUV ที่ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่น มันดูแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น 500h ซึ่งมีชุดแต่ง F Sport รอบคัน แต่ RX350h ที่ถูกกว่าก็มีความเรียบง่ายของอุปกรณ์เป็นจุดขาย 

บนทางหลวงชนบทที่เงียบสงบแถบเขาโจด RX 350h ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าการขับ RX450h+ รุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่แพงกว่าหลายแสน น้ำหนักที่เบากว่าไม่ได้เปลี่ยน RX ให้เป็นรถสปอร์ต หรือแม้แต่สปอร์ตครอสโอเวอร์ ความสบายในการขับออกทางไกลเป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไปในรถหรู แต่ Lexus RX ให้อารมณ์ที่แปลกแยกไปจากรถเยอรมัน ชัดเจนว่ามันไม่ได้แรงกว่า หรือเลี้ยวในโค้งได้ไวกว่า แต่การเปลี่ยนทิศทางใน RX จะเต็มไปด้วยความมั่นใจ เป็นรถที่ให้ความรู้สึกสงบมากกว่าอาการกระด้าง หรือกระแทกปึงปัง RX รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเลี้ยวได้ดีและยึดเกาะถนนใช้ได้ 

รถ RX350h สเปก Premium ที่ผมขับทดสอบมีวัสดุซับเสียงเพื่อแยกผู้โดยสารจากเสียงอึกทึกภายนอก แรงสั่นสะเทือนที่ความเร็วต่ำถูกโช้คอัพและสปริงดูดซับเอาไว้ทั้งหมด โดยกรองแรงสะเทือนให้กลายเป็นความนุ่มนวล เนื่องจากมีโช้คอัพแบบปรับไม่ได้แต่มีระบบวาล์วภายในที่ซับซ้อน โดยภาพรวมแล้ว Lexus RX ทุกคันยังคงเป็นรถที่ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลและเงียบกริบในขณะไหลไปเรื่อยๆ บนทางไฮเวย์ข้ามจังหวัด ข้อยกเว้นคือเครื่องยนต์ คุณแทบจะได้ยินว่ามันทำงานบนมอเตอร์เวย์ และหากไม่มีความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ กระบอกสูบ 4 สูบ ต้องทำงานหนักบนทางขึ้นลงเนินเขา เครื่องยนต์ไม่ได้มีกำลังมากนัก และเสียงของเครื่องสี่สูบที่เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ค่อนข้างออกมาในแบบน่าเบื่อ ไม่ได้ช่วยสร้างประสบการณ์สปอร์ตแต่อย่างใด แต่ RX 350h ก็ยังมีดีตรงที่สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเมื่อขับเรื่อยๆ ได้ที่ 12.8 กิโลเมตรต่อลิตร บนน้ำหนักตัว 2 ตัน ซึ่งถือว่าดีสำหรับรถยนต์ครอสโอเวอร์ไซส์ค่อนข้างใหญ่

ในตลาดโลก RX 2024 มาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันไม่น้อยกว่าสี่แบบ เริ่มจากรุ่นพื้นฐาน RX350 ไม่มีระบบไฮบริด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สี่สูบเทอร์โบชาร์จขนาด 2.5 ลิตร 275 แรงม้า RX รุ่นดังกล่าวมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก็เป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับรถทดสอบรุ่นไฮบริด RX350h มอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์สี่สูบ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 246 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ (CVT) ที่แปรผันอย่างต่อเนื่องและระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนรุ่นท็อปที่มีขายในไทยอย่าง RX500h F Sport Performance จะปลดล็อกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น มีการควบรวมเครื่องเบนซิน 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบชาร์จ ความจุ 2.4 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อสร้างเรี่ยวแรง 367 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Direct4 ของ Lexus เพื่อส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ อีกรุ่นท่ีผมเคยขับทดสอบแล้วนำมารีวิวก็คือ RX450h+ รุ่นปลั๊กอินไฮบริด มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นระบบส่งกำลังแบบเดียวกับที่ประจำการอยู่ใน Toyota RAV4 Prime และ Lexus NX450h+ SUV แต่เพิ่มแรงม้าเล็กน้อย ทำให้มีกำลังรวมเป็น 304 ม้า ทั้ง 450h+ และ 350h มีความนุ่มนวลและเน้นไปที่ความหรูหราสะดวกสบายพอๆ กับรถคู่แข่งจากเยอรมัน ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ชอบงานบริการหลังการขายที่มาพร้อมความหรูหรา 

ช่วงขากลับที่ต้องขับโดยปราศจากแสงไฟไกลถึง 140 กิโลเมตร จนมาถึงบายพาสสุพรรณบุรี ระบบส่องสว่างอัตโนมัติของ RX350h ทำงานเร็วและมีกำลังในการส่องสว่างครอบคลุมระยะไกลเกือบๆ 600 เมตร การขับเคลื่อนของ RX รุ่นเริ่มต้น เน้นความสงบและสบาย เป็นการนำเสนอเป้าหมายดั้งเดิมของ Lexus ในฐานะแบรนด์หรูหราราคาแพง ทั้งหมดเกี่ยวกับไดนามิกที่ส่งออกมาหลังพวงมาลัย ระบบช่วยขับและอุปกรณ์ต่างๆ ถือเป็นความผ่อนคลายที่ดีเยี่ยมในขณะเดินทางไกล แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่หมายถึงความทันสมัย ไมาว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน หรือระบบความปลอดภัย สำหรับคนที่ชอบรถครอบครัวที่ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างแท้จริง Lexus RX 350h รุ่น Premium แทรกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างคู่แข่งชั้นนำอย่าง Audi Q7, BMW X5 และ Mercedes-Benz GLE รวมถึงนักรบไวกิ้งอย่าง Volvo XC90 ใน Lexus คุณจะพบกับเทคโนโลยีที่แตกต่างของระบบอินโฟเทนเมนต์ งานออกแบบและตกแต่งภายในสไตล์เอเชียที่ไม่ซ้ำใคร เครื่องเสียงดีคมชัดแม้จะซื้อรถรุ่นเริ่มต้นและการขับขี่แบบรถครอบครัวที่ไม่เน้นความสปอร์ต สำหรับลูกค้าเก่าผู้ภักดีต่อ Lexus การถอย RX รุ่นใหม่หลังจากใช้งานรถนเก่ามานานเป็นเรื่องที่ควรกระทำละครับ! 

Lexus RX350h Premium ราคา 4,790,000 บาท

มิติและน้ำหนักรถ

Premium Luxury
ความยาวโดยรวม 4,890 มิลลิเมตร
ความกว้างโดยรวม 1,920 มิลลิเมตร
ความสูงโดยรวม 1,695 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อหน้า-หลัง 2,850 มิลลิเมตร
ความกว้างฐานล้อ (หน้า) 1,655 มิลลิเมตร
ความกว้างฐานล้อ (หลัง) 1,695 มิลลิเมตร
น้ำหนักตัวถังรถ 1,900 - 1,995 กิโลกรัม
น้ำหนักรถสุทธิ  2,590 กิโลกรัม

โครงสร้างรถ
ระบบรองรับแบบแปรผัน - -
ระบบรองรับหน้า MacPherson Strut
ระบบรองรับหลัง Multi Link
ระบบส่งกำลัง E-CVT
ระบบขับเคลื่อน FF
ระบบบังคับเลี้ยว EPS
ระบบเบรก (หน้า) Ventilated Disc (18")
ระบบเบรก (หลัง) Ventilated Disc
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (ล้อ) (เมตร) 5.9
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 65
ยาง 235/50R21 SM HI2 235/60R19 SM

เครื่องยนต์ 2.5-liter L-4 16-Valve, DOHC, Chain Drive (A25A-FXS)
ความจุกระบอกสูบ 2,487 ซีซี
กำลังสูงสุด 187 แรงม้า/ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 239 นิวตันเมตร/ 4300 - 4500 รอบต่อนาที
ระบบเชื้อเพลิง SFI
ค่าออกเทนน้ำมัน 95 or Higher (E10)

มอเตอร์
มอเตอร์หน้า
ประเภท Permanent Magnet Synchronous Motor
กำลังสูงสุด 134 กิโลวัตต์
แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร
กำลังรวมทั้งระบบ 246 แรงม้า

แบตเตอรี่
ประเภท Nickel Metal Hydride Battery
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 259.2 โวลต์
จำนวนเซลล์แบตเตอรี่ 216 เซลล์

สมรรถนะ
ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0 - 100 กม/ชม 8.1 วินาที
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20 กิโลเมตร/ลิตร
ค่าเฉลี่ยมลพิษ CO2 114 กรัม/กิโลเมตร
มาตรฐานการปล่อยมลพิษ EURO 6

อุปกรณ์ภายนอก
กระจกหน้าตัดแสง UV แบบซับเสียง 
กระจกตัดแสง UV สำหรับประตูรถด้านหน้าแบบซับเสียงและกันน้ำเกาะ 
กระจกตัดแสง UV สำหรับประตูรถด้านหน้าส่วนมุม 
กระจกตัดแสง UV สำหรับประตูรถด้านหลัง 
หลังคาพาโนรามา 
ราวหลังคา 
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า 
ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED

ระบบไฟส่องสว่าง
ไฟส่องสว่างด้านหน้า 3-LED 
ไฟหน้าแบบปรับองศาการส่องสว่างในมุมต่ำ พร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ 
ระบบทำความสะอาดไฟหน้า 
ไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน 
ไฟตัดหมอกหน้า 
ไฟส่องมุมหน้ารถ 
ระบบปรับองศาของไฟส่องสว่างอัจฉริยะ Auto High Beam (AHB)

อุปกรณ์ภายใน
มาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล 8-inch 7-inch
หน้าจออัจฉริยะ HUD 
พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ 
หัวเกียร์แบบหุ้มหนัง 
กระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่องสว่าง (ที่นั่งตอนหน้า) 
ช่องเก็บของคอนโซลด้านหน้าพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB-C, USB-A และ DC-12 V 
ช่องเก็บของคอนโซลกลางและช่องเชื่อมต่อ USB-C ด้านหลัง 
ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร Multi Color 
ระบบปรับอากาศพร้อมปุ่มควบคุมอุณหภูมิแบบแยกอิสระสำหรับที่นั่งตอนหน้าและที่นั่งตอนหลังพร้อมระบบกรองอากาศ 
ระบบ Nano-e 
วัสดุหุ้มเบาะ Semi Aniline Smooth Leather
ระบบเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10-way 8-way
ระบบเบาะดันหลังสำหรับที่นั่งคนขับ 4-way 2-way
ปุ่มบันทึกตำแหน่งเบาะ 3 ตำแหน่ง (สำหรับที่นั่งคนขับ) Driver & Front Passenger 
เบาะนั่งพร้อมระบบปรับอากาศ (เบาะคู่หน้า) Front & Rear Seats 
เบาะหลังแบบปรับพับแยก 60:40 แบบไฟฟ้า O Switch Fold only
ลายประดับตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ash Sumi Black Film

ระบบการทำงาน
พวงมาลัยไฟฟ้าปรับระดับ 4 ทิศทาง 
ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย Touch Switch 
ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Alll-Speed Adaptive Alll-Speed Adaptive
รูปแบบการขับขี่ 
ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 
ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์อัจฉริยะ 
กุญแจแบบการ์ด 
จอแสดงผลการสั่งงานแบบ EMV แบบสัมผัส 14-inch 14-inch
ระบบแผนที่นำทาง 
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย 
ระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงหลังด้วยไฟฟ้า 
ระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย
ระบบเครื่องเสียง 12-Speaker
ระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย

ระบบความปลอดภัย

ระบบประตูนิรภัยอัจฉริยะ 
ระบบเสริมแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (ACA) 
ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ (VSC) 
ระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) 
ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกไฟฟ้า (EBD) 
ระบบช่วยเบรก (BA) 
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน 
กระจกมองหลังและกระจกข้างตัดแสงอัตโนมัติ Digital 
ระบบช่วยจอด with Auto Parking Assist 
ระบบช่วยเบรกขณะถอยจอด 
จอแสดงภาพขณะถอยจอดพร้อมกล้องรอบคัน 
ระบบเตือนแรงดันลมยาง 
ระบบป้องกันก่อนการชน 
ระบบติดตามช่องทางวิ่ง 
ระบบช่วยเปลี่ยนเลน พร้อมสัญญาณเตือนมุมอับสายตา
สัญญาณเตือนด้านท้าย ขณะถอยหลัง 
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS (สำหรับที่นั่งคนขับ) 
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS (สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า) 
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS บริเวณหัวเข่า (สำหรับที่นั่งคนขับ)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง (สำหรับที่นั่งตอนหน้า) 
ม่านถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับและลดแรงกระชาก (สำหรับที่นั่งตอนหน้า) 
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับ (สำหรับที่นั่งตอนหลัง) 
แท่นยึดสำหรับติดตั้งที่นั่งเด็กแบบ ISO FIX (สำหรับที่นั่งตอนหลัง) 
ระบบป้องกันการโจรกรรมพร้อมสัญญาณเตือนอัตโนมัติ

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th 
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/