บทสรุปของการขับทดสอบ New Accord RS e:HEV ก็คือ ช่วงล่างที่ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงหลักๆ ของรูปลักษณ์ และสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่เน้นทั้งแรงบิดและความประหยัด หน้าตาที่ดูแปลกประหลาด ต้องมองจ้องกันนานๆ ถึงจะเห็นความตั้งใจในการนำเสนอเรือนร่างใหม่ของ Honda Accord ของทีมออกแบบ บางคนก็ชอบ G11 มากกว่า G10 บางคนก็ไม่ชอบกระจังของ Accord ใหม่บวกกับไฟหน้าทรงยาวรีแบบใหม่ที่ทำให้ส่วนหน้าของรถดูแคบและสั้น ไม่สมส่วนกับมิติความยาวของรถ แต่การขับที่โดดเด่นของ G11 เข้ามากลบเกลื่อนรูปลักษณ์ด้านหน้าที่ดูแปลกตาไปจากเดิมจนหมดสิ้น สัมผัสของช่วงล่างที่คล้ายกับ BMW 523i e39 แม้จะไม่หนักแน่นเท่ากับแบรนด์ตราใบพัด แต่ New Accord RS ก็มีดีมากพอที่จะให้แฟนเก่าของ G10 กลับมาง้อขอคืนดีได้ไม่ยาก 

HONDA ACCORD e:HEV ราคา

HONDA ACCORD e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท (คันทดสอบ)

HONDA ACCORD e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท

HONDA ACCORD e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท

...

...

Honda แจ้งว่า Accord 2024 นั้นมีการออกแบบใหม่ทั้งคัน ส่วนหน้าใหม่พร้อมกระจังหน้าทรงเหลี่ยมและไฟหน้า LED เพรียวบาง เส้นสายตัวถังที่ช่วยเสริมหลักอากาศพลศาสตร์ ไฟท้าย LED แบบเชื่อมต่อกันทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา เป็นรูปแบบไฟท้ายที่กำลังได้รับความนิยม ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าของจีนและรถยนต์บางรุ่นของยุโรปที่มีดีไซน์ไฟท้ายในลักษณะดังกล่าว ท่อไอเสียคู่ ซึ่งทำให้มีรูปลักษณ์ส่วนท้ายค่อนข้างลงตัว มิติตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยมีความยาว 4,971 มิลลิเมตร กว้าง 1,862 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,830 มิลลิเมตร ยาวกว่า G10 รุ่นที่ผ่านมา 71 มิลลิเมตร ล้ออัลลอย ขอบ 18 นิ้ว ยาง Michelin e Primacy 235/45R18

...

...

Accord สองสามรุ่นก่อนหน้านี้เจอกับปัญหาเสียงรบกวนจากถนน แต่ Honda ก็พบวิธีแก้ปัญหาและทำให้รถรุ่นใหม่เงียบกว่าเดิม อุปกรณ์ตกแต่งมีการลดเสียงมากขึ้น ด้วยวัสดุซับเสียงพิเศษ การปรับปรุงระบบกันสะเทือนโดยเฉพาะด้านหลังมีการปรับค่าใหม่หมด พร้อมด้วยบูชอาร์มด้านหลังที่ใหญ่ขึ้น 10% ซึ่งหมายความว่ามีวัสดุบุชชิ่ง เพื่อความนุ่มนวลมากกว่าเดิม การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่สำคัญ เช่น ไฟร์วอลล์ที่กั้นระหว่างห้องโดยสารและห้องเครื่องยนต์ ถูกเสริมความแข็งแกร่ด้วยกาวที่มีโครงสร้างพิเศษ จุดยึดที่ออกแบบใหม่ พื้นที่ด้านล่างของเสาหน้าออกแบบใหม่เพื่อกระจายแรงไปยังระบบกันสะเทือนหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนรองรับหม้อน้ำมีเหล็กค้ำยันใหม่สองตัว เพื่อลดการเสียรูปเนื่องจากการกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ การปรับปรุงคุณภาพการขับขี่ เบาะหลังเสริมความแข็งแกร่งด้วยรูปทรงโลหะใหม่และวัสดุที่แข็งแรงขึ้น ตัวถังที่แข็งแกร่ง ช่วยให้ระบบกันสะเทือนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเสียงรบกวนจากถนนและความถี่เสียงของเครื่องยนต์ ปัญหาเสียงรบกวนจากถนนที่ถูกแก้ไขให้เงียบกว่าเดิม พร้อมเครื่องเสียง Bose สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายสำหรับเดินทางไกล

เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์สองตัว ตัวแรกเป็นมอเตอร์เจเนอเรเตอร์หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มอเตอร์ตัวที่สองขับเคลื่อนผสมผสานแรงบิดร่วมกับเครื่องยนต์สองลิตรไฮบริด ทำให้ Accord Hybrid e:HEV มีกำลัง 207 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.9 วินาที เป็นตัวเลขที่เหมาะสมค่อนข้างไปทางมีประสิทธิภาพ เมื่อพิจารณาถึงขนาดที่ใหญ่โตของรถ เครื่องยนต์และมอเตอร์ขับเคลื่อนมีแรงบิด 335 นิวตันเมตร แรงบิดของทั้งสองระบบโผล่ออกมาแบบฉับพลันทันที ทำให้ Accord e:HEV คล่องตัวและเร่งความเร็วได้ดีขึ้นจนรู้สึกได้ ขุมกำลังพลังงานผสม e:HEV เครื่องยนต์มีกำลัง 147 แรงม้า แรงบิด 182 นิวตันเมตร ผสานการส่งแรงบิดเสริมของมอเตอร์มอบอัตราเร่งที่ดี ส่งผลทำให้ Accord RS e:HEV เร็วกว่า Toyota Camry 2.5 Hybrid

ไม่ว่าคุณจะขับมันด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องบนทางตรงยาวบนไฮเวย์ หรือขับบนเส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยว รถซีดานขนาดกลางของ Honda ก็ยังควบคุมได้ดี ให้การขับขี่ที่นุ่มหนึบ จากระบบรองรับแบบปรับจูนใหม่ที่เข้ามามีส่วนช่วยควบคุมตัวถังได้อย่างดีเยี่ยม ระบบกันสะเทือนสามารถดูดซับร่องหรือรอยต่อและคอสะพาน รวมถึง ผิวถนนที่เสียหายจากรถบรรทุกได้ดีขึ้นจนรู้สึกได้ อัตราสิ้นเปลืองที่ผมพยายามทำให้รถกินน้ำมันสุดๆ ด้วยการกดคันเร่งเมื่อเจอกับทางยาวๆที่มีรถร่วมทางน้อยลง เจ้า RS e:HEV ทำอัตราสิ้นเปลือง 16.7 กิโลเมตรต่อลิตร ในย่านความเร็ว 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และต้องลากยาวกว่า 20 กิโลเมตร กว่าจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงหล่นจาก 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร ผมไม่แนะนำให้ทำตาม เพราะต้องขับเร็วจี๋ จี้ประสาทจนทำให้รู้สึกเครียด กว่าที่จะทำให้เครื่องไฮบริดของ Honda กินน้ำมันมากขึ้นต้องลากกันยาวข้ามอำเภอ จนแล้วจนรอด มันก็ยังประหยัดอยู่ดีถ้าเทียบกับการใช้ความเร็วต่อเนื่องที่น่าจะกินมากกว่านี้เยอะ! 

เครื่องยนต์กับมอเตอร์ผสมผสานตัดต่อการทำงานได้เนียนและไหลลื่นมาก ในย่านความเร็วต่ำ เครื่องยนต์ยังคงหลับไหลและมอเตอร์ไฟฟ้าที่เชื่อมกับระบบเกียร์เข้ามารับหน้าที่ขับเคลื่อนได้อย่างเงียบกริบ มอเตอร์ทำงานแยกจากระบบขับเคลื่อนหลักได้ดี ยกเว้นที่ความเร็วสูงกว่าเครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นแล้วรับหน้าที่ขับเคลื่อนต่อจากมอเตอร์ การเปลี่ยนผ่านระหว่างเครื่องยนต์ที่จะติดหรือดับเป็นไปอย่างราบรื่น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร e:HEV เงียบและกินน้ำมันน้อยมาก เมื่อเร่งความเร็ว หรือใช้ความเร็วเดินทาง 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไปจนถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังทำงานราบรื่นจนแทบไม่ได้ยินเสียงหรือรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน มีแค่เสียงยางที่ดังลอดเข้ามาให้ได้ยินเมื่อความเร็วเกินกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

พวงมาลัยมีน้ำหนักดี ให้ความรู้สึกแม่นยำและตอบสนองต่อการหักเลี้ยวได้ราวกับ Civic RS e:HEV โหมดขับขี่ มีให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Normal, Econ, Sport และ EV ซึ่งถ้าเลือกโหมดขับเคลื่อนแบบไฟฟ้า หากมีไฟมากพอในแบตเตอรี่ไฮบริด คุณสามารถขับเจ้า Accord ด้วยความเร็วต่ำแบบไร้มลพิษได้ไกล 2-3 กิโลเมตร ที่ความเร็ว 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โหมดสปอร์ต ทำให้น้ำหนักของพวงมาลัยไฟฟ้าหนักขึ้นเล็กน้อย เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับน้ำหนักของพวงมาลัยให้สมดุลในย่านความเร็วสูง นั่นก็คือไม่เบาจนทำให้หน้ารถไวมากเกินไปจากการขยับพวงมาลัยเพียงเล็กน้อย ในโหมดสูงสุด ECU จะสั่งงานให้ระบบส่งกำลังตอบสนองดีขึ้น (เล็กน้อย) ในขณะที่โหมด Econ สมองกลของระบบจะผ่อนคลายการตอบสนองลง เพื่อเน้นประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โหมด EV มีไว้เหมือนจะฟุ้งว่า มอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆนั้นวิ่งได้นะ แต่อย่าลืมว่าแบตเตอรี่ไฮบริดของ Accord e:HVE มีขนาดเล็ก ทำให้การวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ไปได้ไม่ไกลมากนัก เหมาะกับการขับในเมืองท่ามกลางการจราจรที่เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวเคลื่อนตัวมากกว่า 

ระบบกันสะเทือนของ Accord มีส่วนช่วยทำให้การขับขี่มีความเงียบสงบ และสบายตัว จากความนิ่มนวลหนึบแน่นของช่วงล่าง สำหรับในแง่ของการประหยัดน้ำมัน Accord สามารถทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ยอดเยี่ยม แม้จะหวดยับก็ยังไม่กินน้ำมัน อันนี้ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว 

รายละเอียดภายในที่น่าสน คือ แป้นหมุนแบบวงกลมที่กำหนดค่าได้บนคอนโซลกลาง ซึ่งมาแทนที่ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบเดิม ทำให้ง่ายต่อการใช้งานระบบสาระบันเทิง ด้วยการกดแป้นหมุน ผู้ใช้จะเลือกว่าจะควบคุมเสียง อุณหภูมิ แสง ฯลฯ ขณะเดียวกัน หน้าจอในตัวจะเป็นหน้าปัดนาฬิกาแบบอะนาล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งาน ปุ่ม Experience Selection Dial เลือกปรับฟังก์ชั่นผ่านจอภาพมอนิเตอร์กลาง Google built-in พร้อมแอปและบริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)

รุ่น RS มาพร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential และ ใหม่ ระบบควบคุมประตู (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card

หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วสำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์ "Google Built-in" รวมกับแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว และจอแสดงผลบนกระจกหน้าขนาด 11.5 นิ้ว อุปกรณ์ความปลอดภัย ได้แก่ ชุด Honda Sensing 360 ADAS ใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายครั้งแรกในญี่ปุ่น คาดว่าชุดอุปกรณ์ดังกล่าวจะได้รับการอัปเกรดในปี 2568 ด้วยระบบที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้นไปอีก

Accord ใหม่ มีระบบส่งกำลังที่ประหยัด ช่วงล่างถือว่ารุดหน้า ดีกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ห้องโดยสารดีงาม แม้จะเหมือนกับ G10 รุ่นที่แล้ว แต่ก็มีอุปรณ์และฟังก์ชั่นใหม่เพิ่มเข้ามาให้ใช้งาน มันยังคงเป็นรถไซส์กลางที่ทำยอดขายในไทยตามหลัง Toyota Camry อย่างเสมอต้นเสมอปลาย โดยภาพรวม รถรุ่นใหม่ของ Honda ก็ไม่มีจุดไหนที่ด้อยกว่า นอกจากหน้าตาที่ดูแปลกแยกจากรถทุกรุ่นของแบรนด์สัญลักษณ์ตัว H อย่าลืมว่า ทุกวันนี้ ความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ SUV นั้น เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากยอดขายของ New CR-V รวมถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ที่แข่งขันกันไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็ต่อสู้กับการขาดแคลนแร่ธาตุลิเธียม ทั้งยังต้องนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตแบตฯ จากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของญี่ปุ่น Accord RS e:HEV มีทางเลือกไม่มากนักในการต่อสู้กับรถยนต์ไฟฟ้าของจีน สำหรับคนที่ขี้เกียจรอชาร์จไฟและไม่ชอบรถที่กินน้ำมัน Honda Accord ไฮบริดใหม่รุ่นท็อปสุดนั้นน่าใช้จริงครับ.  

New Accord RS e:HEV
สัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย
หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา 
ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
กรอบกระจกมองข้างสีดำเงา
ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน 
เสาอากาศครีบฉลามสีดำ
สปอยเลอร์หลังสีดำ
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ

ห้องโดยสาร
เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
ชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black
ปุ่ม Experience Selection Dialหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง ไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ แสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 แบบ

ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) 
ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง
ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card (รุ่น e:HEV RS)
ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT พร้อมเทคโนโลยี Digital Key
ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) 
Google built-in Google Assistant, Google Maps และแอปอื่นๆ จาก Google Play
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว จอแบบ Full Graphic LCD แสดงผลทั้งการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ข้อมูลการขับขี่ และข้อมูลต่างๆ ของตัวรถ ในรูปแบบของกราฟิกขนาดใหญ่ แสดงผลการทำงานของ Maps ได้เต็มหน้าจอ เมื่อใช้งาน Google built-in แม้จะมีการทำงานของระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) แต่ไม่รบกวนการนำทางบนหน้าจอ
ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ตำแหน่ง ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
ฟังก์ชั่นการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) อัปเดตระบบ Infotainment อัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว หรือผ่านทางแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ

ระบบขับเคลื่อน ไฮบริด e:HEV มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT เป็น มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พัฒนาใหม่ ระบบจะมอบสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับ อัตราการประหยัดน้ำมันที่เคลมมา 25 กม./ลิตร (ขับจริง ใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง 16.7 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 96 กรัม/กิโลเมตร

ระบบขับเคลื่อนไฮบริด e:HEV ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับ (Intelligent Multi-mode drive) ประกอบไปด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่

โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)

โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)

โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

ขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration) สวิตช์ฟังก์ชั่น Drive Mode เลือกโหมดการขับ ด้วยการกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์

โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัด 
โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

ระบบความปลอดภัย
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบไฟหน้า Adaptive Driving Beam: ADB เพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง มีการเพิ่ม Charge Mode ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน มีการพัฒนาแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. เหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
กล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) 
เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด 
ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) 
ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
ถุงลม 8 ตำแหน่ง ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)