ทดสอบ NISSAN NAVARA KC CALIBRE V 7AT และ NAVARA SINGLE CAB 6MT กระบะคอกขนกุ้ง!

ตลาดรถปิกอัพของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตหลักของ Nissan มักจะเต็มไปด้วยคู่แข่งสุดหิน เช่น Ford Ranger / Toyota Hilux REVO / Mitsubishi Triton / Isuzu D-MAX สำหรับแนวทางของ Nissan ในการปรับปรุงรถปิกอัพ ยังคงยึดมั่นกับภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ทรหดอดทนต่อการใช้งานทุกรูปแบบ เห็นได้อย่างชัดเจนจากการนำเสนอในรูปแบบของโฆษณา ที่มักสื่อให้เห็นถึงบุคลิกภาพที่แตกต่างไปจากรถกระบะทั่วไป ทั้งสมรรถนะและรูปลักษณ์จากความบึกบึนของเส้นสายรอบคัน รวมไปถึงความสามารถของระบบขับเคลื่อนและช่วงล่าง ยอมรับว่า Navara KC Calibre V 7AT นั้น แข็งแกร่งเกือบจะเท่ากับ Pro4X รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่พร้อมจะลุย รองรับงานบรรทุกหนักได้ดีแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนัก ส่วน Navara Single Cab 4x4 6MT ที่เน้นใช้งานขนและส่งสินค้าต่างๆ ทั้งการประกอบธุรกิจพืชไร่งานเกษตร ผลไม้ ต้นไม้ตกแต่งสวน อาหารทะเลสดแช่แข็งและอื่นๆ อีกเพียบ ความเรียบง่ายของ Navara Single Cab 4x4 6MT ราคาหกแสนกลางๆ ทำให้เป็นรถกระบะหัวเดี่ยวขับสี่ที่มีราคาไม่แพงนัก ผิดกับ Navara KC Calibre V 7AT กระบะขับสองที่มีราคาทะยานไปถึงแปดแสนแก่ๆ กันเลยทีเดียว แต่ราคาดังกล่าวก็มาพร้อมอุปกรณ์ที่รถกระบะแปดแสนควรจะมี โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ใส่มาให้เยอะพอสมควร

Nissan Motor Thailand จัดการขับทดสอบสมรรถนะของรถกระบะ Navara รุ่น KC Calibre V 7AT กับ Single Cab 4x4 6MT โดยนำรถทั้งสองคันไปตีคอกที่ไม่สูงมากนักแบบพอดีกับแนวของหลังคา เพื่อรองรับสัมภาระขนาดใหญ่ที่ใช้ประกอบธุรกิจ งานนี้มีการขนกุ้งสดจากฟาร์มแถวๆ อำเภอบ่อไร่ในจังหวัดตราด แล้วนำไปส่งที่จังหวัดจันทบุรี ดูเหมือนเป็นงานง่ายๆ แต่น้ำหนักบรรทุกหนึ่งตันทำให้การขับต้องเปลี่ยนแปลงไป Navara ทั้งสองรุ่นแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขนของหนักๆ เพื่อประกอบกิจการ ลองไปดูรายละเอียดของรถทั้งสองรุ่นกันดีกว่า ...... 

Navara Single Cab 4x4 6MT
กระบะหัวเดี่ยวสำหรับงานบรรทุกหนัก รองรับการใช้งานสมบุกสมบันในราคา 659,000 บาท อุปกรณ์มีให้เท่าที่จำเป็นต่อการใช้งาน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อกับเกียร์ธรรมดา สำหรับลุยฝ่าทางวิบากเข้าไปบรรทุกพืชไร่งานเกษตร หน้าตาแกร่งบึกบึนใช้ชิ้นส่วนที่ทนทานต่อริ้วรอยจากการใช้งาน กระจังหน้าดำ กันชนหน้าเชื่อมโยงกับทรงของกระจัง ด้านข้าง มีที่เหยียบเพื่อทำงานบนกระบะท้าย จุดยึดเชือกรัดสัมภาระ มิติตัวถัง ยาว 5,235 มิลลิเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,775 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,150 มิลลิเมตร พื้นที่กระบะยาว 2,310 มิลลิเมตร กว้าง 1,550 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า-หลัง 1,550 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 220 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,884 กิโลกรัม ล้อกระทะขอบ 16 นิ้ว ยาง 205/60R16 Bridgestone Dueler H/T ความจุถังเชื้อเพลิง 80 ลิตร  

เครื่องยนต์ของ Navara Single Cab 4x4 6MT เป็นเครื่องตัวเก่าแต่มีประสิทธิภาพด้านความอึด YD25DDiT ดีเซลสี่สูบแถวเรียง เทอร์โบแปรผัน DGS แบบ DOHC ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชัน ความกว้างกระบอกสูบ 89 มิลลิเมตร ช่วงชัก 100.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ช่วงล่างด้านหน้าดับเบิ้ลวิชโบน สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรก ด้านหน้าแบบดิสเบรก ด้านหลังแบบดรัมเบรก ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัยแรคแอนพีเนียน รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.0 เมตร ระบบส่งกำลัง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ shift on the fly 4 Wheel Drive & 4LO

Navara KC Calibre V 7AT
กระบะรุ่นคิงส์แค็บ ราคา 889,000 บาท มีพื้นท่ีใช้สอยด้านหลังเบาะสำหรับเก็บของ พร้อมความสะดวกสบายในสไตล์รถเก๋ง ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ใส่เข้ามาให้ใช้งาน กระจังหน้าแบบ Interlock ไฟหน้า Quad-Eye LED ไฟ Daytime เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า เกียร์ 7 สปีด เทคโนโลยีเตือน (IFCW) และเบรกฉุกเฉิก (IEB) เทคโนโลยีเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (IDA) เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตา (IBSI) ควบคุมรถเมื่อรถออกนอกช่องทาง (ILI) และเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HBA) เบาะหนัง Quole Modure พร้อมเบาะฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ล้ออัลลอย 18" แบบทูโทน 1,810 มิติตัวถัง ความยาว 5,260 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,810 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,150 มิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างล้อ คู่หน้า-หลัง  1,570 / 1,570 ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 225 มิลลิเมตร ขนาดกระบะบรรทุก ยาว 1,755 มิลลิเมตร กว้าง 1,490 มิลลเมตร สูง 485 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,890 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว ยาง 255/60R18 toyo open country

เครื่องยนต์ของ Navara KC Calibre V 7AT เครื่องยนต์ มีปริมาตรความจุกระบอกสูบ 2,298 ซีซี แบบดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลไดเรกอินเจคชัน ความกว้างกระบอกสูบ 85.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 101.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.4:1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวลช่วงล่างด้านหน้าดับเบิ้ลวิชโบน สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรก ด้านหน้าแบบดิสเบรก ด้านหลังแบบดรัมเบรก ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัยแรคแอนพีเนียน รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.3 เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD

โมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน (Fully Boxed Frame) ที่มีชื่อเสียงของ Nissan มาพร้อมระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโครง ขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ โดยทั้งหมดถูกปรับจูนใหม่ เพื่อสมรรถนะและการทรงตัวรถขณะขับเข้าโค้ง ในจุดนี้ ลองขับบนเส้นทางภูเขา และทางออฟโรด ให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งการทรงตัวในย่านความเร็วสูง การเข้าออกจากโค้ง การถ่ายเทน้ำหนักขณะเลี้ยวหรือเบรก โครงสร้างแชสซี เหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน พื้นที่กระบะตอนท้าย เพิ่มสเตปด้านท้ายรถ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานขึ้นลง รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ สำหรับการบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่และเล็ก

ห้องโดยสารของ Navara KC Calibre V 7AT เพิ่มความหรูหราด้วยงานตกแต่งเฉพาะรุ่น จ่ายเงินไป 8 แสน เบาะหน้าไฟฟ้าปรับตั้งความสูงต่ำและระยะของตัวเบาะกับพนักพิงหลังด้วยระบบไฟฟ้า การปรับรูปแบบและความสะดวกสบายของภายใน ด้วยการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยพอเพียง แม้พื้นที่ Cab ด้านหลัง จะน้อยกว่าพื้นที่บริเวณเบาะคู่หน้า แต่ใช้เก็บสัมภาระได้ดี และไม่แนะนำให้นั่งโดยสารระยะไกล ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมกุญแจรีโมต ระบบปรับอากาศแบบ 2 Zone แยกอุณหภูมิซ้ายขวา หน้าตาของแผงควบคุมระบบปรับอากาศยังคงเหมือนเดิม พวงมาลัยที่เคยดูธรรมดาในรุ่นที่แล้ว รถรุ่นใหม่เปลี่ยนใหม่มาเป็นพวงมาลัยสปอร์ตทรงสามก้าน หุ้มหนังแท้พร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชันปรับตั้งโหมดต่างๆ ของระบบอินโฟเทนเมนต์ และปุ่มปรับตั้งความเร็วของระบบ Cruise Control ซุ้มเกียร์ล้อมกรอบด้วยงานพลาสติกสีโครเมียม หัวเกียร์ออโต้หุ้มหนังแท้ Nissan ออกแบบร่องคันเกียร์สำหรับการชิปเกียร์เองของโหมดแมนนวล ในเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

Navara KC Calibre V 7AT ตกแต่งภายในด้วยความเรียบง่าย ห้องโดยสารโทนสีดำ ตำแหน่งกลางเบาะคู่หน้า มีที่พักแขนและที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง พอร์ต USB Type C บริเวณคอนโซลกลาง การเชื่อมต่อเพื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ทำได้ผ่าน Nissan Connect ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ระบบนำทาง (Navigation system) หรือแอปพลิเคชันฟังเพลงต่างๆ ผ่านหน้าจอเครื่องเสียงรถยนต์ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงหรือ Voice Recognition เจ้า Navara รุ่นปรับโฉม ยังสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน NissanConnect Service บนสมาร์ทโฟน เพื่อให้เจ้าของเชื่อมต่อและดูข้อมูลของรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน โดยมีฟังก์ชัน เช่น การแสดงพิกัดรถยนต์ สถานะรถยนต์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน และประวัติการขับขี่

ภารกิจ นำส่งน้องกุ้งจากฟาร์มกุ้งสิทธิโชค แถวตราด ไปยังแพกุ้งเจ้าหลาว จันทรบุรี เริ่มต้นด้วยการขับออกจาก Navara Single Cab 4x4 6MT และ Navara KC Calibre V 7AT จากกรุงเทพมหานคร ไปยังอำเภอบ้านบึง ผ่านแกลง ไปยังแสนตุ้งในจังหวัดจันทบุรี แล้วมุ่งตรงไปที่แพกุ้งสิทธิโชคในจังหวัดตราด (แถวอำเภอบ่อไร่) ขนกุ้งใส่กระบะท้าย แล้วออกเดินทางย้อนกลับมาที่จังหวัดจันทบุรีใกล้กับหาดเจ้าหลาวเพื่อเอากุ้งไปส่งให้กับรถห้องเย็น น้ำหนักบรรทุกต่อหนึ่งลัง เริ่มจาก ลังพลาสติกใส่กุ้ง น้ำหนัก 20 กิโลกรัม กุ้งน้ำหนัก 50 กิโลกรัม น้ำแข็งหนัก 15 กิโลกรัม น้ำหนัก 15 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก ลังพลาสติกใส่กุ้งต่อหนึ่งลัง 100 กิโลกรัม บรรทุก 10 ลัง เท่ากับ 1,000 กิโลกรัม 

Navara Single Cab 4x4 6MT แหนบเดิม รับน้ำหนักน้องกุ้งนาง 1,000 กิโลกรัม ดีเซลตัวเดิม 2.5 ลิตร VSG Turbo ดันรถพอไหว แต่ไม่ชินกับเกียร์ธรรมดาในรถกระบะก็ต้องมีพะเยิบพะยาบกันบ้าง ลากเกียร์สามเพราะรถมันหนักขึ้นมาอีกตัน จะไหลเกียร์สูง มันจะไม่มีแรงเร่งเวลาต้องการไปเร็วและผมเองก็ติดฟีลลากรอบมาจาก Subaru BRZ 6MT เกียร์ธรรมดาใช้งานง่าย ระยะคลัตช์ไม่ลึกมากนัก นิ่มนวลและมีการเข้าเกียร์ที่แม่นยำพอสมควร ไม่ทำให้หลงเกียร์เพราะระยะการยัดเกียร์ไม่กว้างเป็นอ่าวไทยเหมือนกระบะเกียร์แมนนวลในยุคแรกเริ่ม ราคา 659,000 บาท เอาไว้ขนส่งประกอบธุรกิจได้หลากหลาย ทั้งขนพืชผักผลไม้ อาหารทะเล และต้นไม้แต่งสวน ทรงตัวพอได้เมื่อมีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด แต่เสียงเครื่องเวลาเร่งความเร็วนั้นดังเอาเรื่องและเมื่อบรรทุกมาเต็มเหนี่ยวก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเรื่องระยะเบรกเอาไว้บ้าง โดยภาพรวม Navara Single Cab 4x4 6MT มีราคาที่เหมาะสมจะเอาไปขนส่งสินค้าต่างๆ การขับตัวเปล่าๆ ไม่มีน้ำหนักบรรทุกคล่องตัวใช้ได้ เบรกดิสหน้าดรัมหลังทำหน้าที่ได้ดี เครื่องยนต์มีเสียงดังเมื่อใช้รอบสูงและมีกำลังเพียงพอต่อการใช้งาน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ใช้ขับลุยเข้าไร่ที่มีทางเป็นหล่มโคลนได้ แต่ต้องเปลี่ยนยางเป็น MT จะลุยได้โหดกว่านี้อีกเยอะ 

Navara KC Calibre V 7AT นี่ก็แหนบเดิมเหมือนกัน เมื่อนำน้องกุ้งขึ้นรถหนักหนึ่งตัน หน้ารถก็เชิดและตูดห้อยพองาม เพราะบรรทุกมาเต็มพิกัด วิ่งจากตราดไปจันทบุรี เกียร์ออโต้ทำให้ขับสบายไม่ต้องคอยมานั่งยัดเกียร์เอง เครื่อง 2.3 ลิตร 190 แรงม้า มีแรงบิดเหลือเฟือ อุปกรณ์น้องๆ รถเก๋ง ราคา 889,000 บาท แพงอยู่เหมือนกันแต่ได้กระบะติดหรู ขับสบาย เบาะไฟฟ้า ล้อลายใหม่ 18 นิ้ว รองรับงานหนักขนบรรทุกสารพัดได้ดี จุดเด่นก็คือ แม้จะแบกน้ำหนักกระบะท้ายมาจนแอ้ แต่วิ่งไม่แย่นะครับ เผื่อระยะแซงกับระยะเบรกซะก็จบ ชอบการทรงตัวแม้จะแบกน้องกุ้งมาตันนึงแต่พี่เค้าก็ยังใจเย็นวิ่งนิ่งไม่กระเพือ ยาง Toyo A25 Open Country A/T Tires ไซส์ 255/60 R18 สอดรับกับผิวถนนแบบผสม ซึ่งมีทั้งทางปูนและทางลาดยาง เป็นยางกึ่งเรียบกึ่งลุย วิ่งได้ดีบนถนนผิวเรียบและขรุขระ รวมถึงตอนที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงก่อนถึงจังหวัดจันทบุรี แต่ถ้าคิดจะเอาไปลุยแบบเต็มเหนี่ยว ต้องขับฝ่าหล่มโคลนลึก ควรเปลี่ยนเป็นยาง M/T ดอกใหญ่ที่ลุยได้ดีบนทางวิบากอีกเช่นกัน

ขากลับผมวิ่งตัวเปล่าด้วย Navara KC Calibre V 7AT จากจันทบุรีกลับเข้ากรุงเทพมหานครแรงบิด 450 นิวตันเมตร รอรอบเล็กน้อยในช่วงต้นๆ พอจุดติด แรงฉุดลากจากเครื่องยนต์ถ่ายไปที่เกียร์ ลงไปที่ล้อคู่หลังจะนำพาตัวถังหนักเฉียดๆ 1.9 ตันให้พุ่งทะยานไปตามแรงส่งของฝ่าเท้า KC Calibre V มีช่วงล่างที่หนักแน่น ขับเร็วๆ ไปแบบเต็มคันเร่งก็ให้ความมั่นใจได้ดี รุ่น King Cab ไม่ได้ทำให้การทรงตัวของกระบะรุ่นนี้ด้อยกว่า Pro4X ซึ่งมาในรูปแบบดับเบิลแค็บ การถ่ายเทน้ำหนักขณะเบรกที่ความเร็วสูงก็ถือว่าใช้ได้ แม้กระบะท้ายจะไม่ได้บรรทุกอะไรมาเพื่อทำให้มีน้ำหนักกดส่วนท้ายเอาไว้บ้าง พอเบรกหนักๆ ท้ายรถก็ไม่ได้ร่อนออกข้างเหมือนกระบะบางรุ่นในอดีต ความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงยังเหลือระยะคันเร่งอีกพอสมควรแต่ไม่มีถนนที่ยาวพอจะให้ทดสอบความเร็วปลายเลยเอากันแค่พอหอมปากหอมคอ ถือว่าทำออกมาได้ดีแต่ก็ยังมีคู่แข่งดุๆ อย่าง Ford Ranger XLT รอดักอยู่อีกเหมือนกัน.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/