VINFAST VF5 ECO EV สัญชาติเวียดนาม ที่จะเปิดตัวพร้อมราคาในเดือนมิถุนายน 2567 นี้ ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวารุ่นแรกของแบรนด์ VinFast ที่มุ่งสู่ตลาดรถยนต์ของประเทศไทย ในช่วงที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศของไทยกำลังดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจนทำให้ตกไปอยู่ในอันดับที่สาม ตามหลังทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซียที่ทำยอดได้สูงกว่า การมุ่งสู่ตลาดอีวีของไทย ทำให้ VinFast เชิญผู้สื่อข่าวสายยานยนต์ของไทยเดินทางไปขับทดสอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ภายในโรงงานของ VinFast ที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ของเวียดนามซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดไฮฟอง
...
VinFast VF5 รถไฟฟ้าขนาดเล็กซึ่งมีการวางแผนเปิดตัวในไทยเดือนมิถุนายน 2567 เป็นคู่แข่งของ Neta V II และ Wuling Binguo การมาถึงของ VF5 เนื่องจาก VinFast ยกเลิกการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Eco EV รุ่น VF e34 และยกเลิกโปรแกรมการเช่าแบตเตอรี่แยกจากราคารถที่เคยแถลงเอาไว้เมื่อเดือนเมษายน 2567
VinFast VF5 Eco EV มีขนาดใกล้เคียงกับ Suzuki Swift มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 3,967 มิลลิเมตร กว้าง 1,723 มิลลิเมตร สูง 1,578 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,514 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 168 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระ 260 ลิตร ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟส ความจุ 37.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ชาร์จไฟกระแสตรง DC จาก 10% ไปจนถึง 80% นาน 40 นาที ชาร์จเต็มวิ่งไกล 326 กิโลเมตร มอเตอร์วางคร่อมเพลาหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 13.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
...
รูปร่างหน้าตาที่ดูทันสมัยของ VinFast VF5 คล้ายกับงานดีไซน์ของ Renault รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ด้วยงานออกแบบชุดกระจังและกันชนหน้าที่เป็นชิ้นเดียวกัน ไฟหน้า LED รวมอยู่ในกลุ่มไฟเลี้ยวและไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light ล้อรถทดสอบเป็นล้อกระทะ ขอบ 16 นิ้ว ใส่ยาง sailun atrezzo ไซส์ 195/60R16 ด้านข้างตัวถังมีเส้นนำสายตาจากแก้มข้าง ลากผ่านแนวขอบบานประตูและตวัดขึ้นบนไปที่เสาท้าย มือจับที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวถัง กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมเลนส์ไฟเลี้ยวในตัว เสาอากาศแบบครีบฉลาม ฝาท้ายเปิดออกแบบแมนนวล รูปทรงของไฟท้าย LED ที่เรียวบางเชื่อมโยงกับสัญลักษณ์รูปตัว V ของแบรนด์ ชุดไฟท้ายส่วนล่างแบบ LED และแบบหลอดไฟธรรมดา กันชนหลังทำจากพลาสติกสีดำ ไฟเบรกดวงท่ีสามอยู่ในกรอบสปอยเลอร์หลังคาส่วนท้าย ที่น่าแปลกใจก็คือ VinFast VF5 ไม่มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ได้แต่หวังว่าในวันเปิดตัว VF5 จะมีปัดน้ำฝนบานหลังติดตั้งมาให้ใช้งาน
...
...
ภายใน แดชบอร์ดและคอนโซล มีรูปทรงที่เชื่อมโยงกับเส้นสายของภายนอกได้อย่างกลมกลืน พลาสติกเกรดกลางๆ คล้าย Suzuki Eco Car กึ่งกลางของแดชบอร์ดคาดด้วยชิ้นงานตกแต่งทำจากพลาสติกสีเงิน เบาะคู่หน้าปรับมือ เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาว เบาะคู่หน้ามีแอร์แบคด้านข้างติดตั้งมาให้เพื่อความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ VinFast VF5 ยังคงใช้เบรกมือแบบสายสลิงพร้อมคันเบรกมือหุ้มด้วยไวนิล จอแสดงผลกลาง ขนาด 8 นิ้ว และจอภาพมาตรวัดตรงหน้าคนขับ สำหรับจอภาพมอนิเตอร์กลาง สั่งงานด้วยระบบสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือในระบบอินโฟเทนเมนท์ พวงมาลัยทรงสามก้าน หุ้มด้วยไวนิล มีสวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์ ปุ่มควบคุมระบบเสียง ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ปุ่มโหมดขับเคลื่อน (Eco/ Sport) สำหรับซุ้มเกียร์อัตโนมัติแบบปุ่มหมุนที่มีตำแหน่ง DNRP เบาะหลังมีพื้นที่พอๆ กับ Mazda 2 เบาะหลังออกแบบให้ปรับพับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระ
การวางตำแหน่งให้เป็นคู่แข่งของ Neta V II และ Wuling Binguo ซึ่งคู่ต่อสู้จากจีนทั้งสองแบรนด์นั้นมีราคาไม่ถึงห้าแสนบาท เมื่อแผนการทำตลาดในไทยมีความคืบหน้าจนสามารถกำหนดระยะเวลาในการเปิดตัว Vinfast ก็เชิญสื่อมวลชนไทยเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานและทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า Vinfast ถึงสามรุ่น ได้แก่ VF5 อีโค อีวี ที่จะเข้ามาในเดือนหน้านี้ VF6 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเมื่อเทียบกับ VF-5 และ VF7 ที่ขับได้ดีสุดเมื่อเทียบกับรถรุ่นน้องทั้งสองคัน สำหรับ VF5 ความเรียบง่ายเพื่อทำราคาปรากฏอยู่ทั่วห้องโดยสาร เบาะและตำแหน่งนั่งขับใช้ได้ กำลัง 70 แรงม้า จากมอเตอร์ที่วางอยู่ด้านหน้า มาพร้อมแรงบิด 135 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะขับใช้งานในเมืองในย่านความเร็วต่ำ หรือขับออกทางไกลระยะทางไม่น่าจะเกิน 280 กิโลเมตร
ท่านั่งที่ดีทำให้ควบคุมรถได้ง่าย VF5 ของ Vinfast ออกตัวแบบไหลไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลมมาใกล้เคียง 14 วินาที แสดงว่ามีมอเตอร์ที่ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไรแค่พอให้ขับเคลื่อนไปได้โดยที่ไม่ย้วยมากจนเกินไป พวงมาลัยไฟฟ้าในรถคันทดสอบ มีระยะฟรีตรงกลางมากไปนิด และมีการหน่วงที่แปลกๆ ในย่านความเร็วต่ำ จนความเร็วเพิ่มขึ้นพวงมาลัยเริ่มกระชับรัดกุมขึ้นมาบ้าง การขับแบบสลาลมด้วยความเร็วต่ำของ VinFast VF5 เป็นรถเล็กที่คล่องตัวใช้ได้ ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริงโช้คอัพและกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีม ล้อกระทะเหล็กครอบด้วยพลาสติกสีเงิน ขนาด 16 นิ้ว ใส่ยาง sailun atrezzo ไซส์ 195/60R16 ยางรองรับแรงบิดได้ดีเนื่องจาก VF5 มีแรงฉุดลากแค่ 135 นิวตันเมตร การเร่งความเร็วก็ไม่ได้ช้ามากมายอะไร ความเร็วค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามรอบของมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเล็ก การถ่ายเทน้ำหนักขณะเข้าโค้งทำได้ตามมาตรฐานรถเล็กทั่วไป ส่วนการเก็บเสียงก็ยังไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร เมื่อความเร็วผ่าน 100 กิโลเมตร จะได้ยินเสียงยางอย่างชัดเจน เบรกของ VF5 เป็นดิสเบรกสี่ล้อ พร้อมตัวช่วย เช่น ABS EBD Brake assist (BA) Electronic stability control (ESC) Traction Control System / Hill-start Assist Control กับ Airbags อีกสี่ตำแหน่ง
ขับสั้นๆ แค่สองรอบสนามทดสอบ รวมระยะทางแค่ 8 กิโลเมตร มีทั้งลองเร่งความเร็ว สลาลม และหมุนเป็นวงกลมด้วยความเร็วที่ใกล้ขีดข้อจำกัดของยาง VinFast VF5 เหลือรายละเอียดปลีกย่อยแค่ไม่กี่จุดที่จะต้องปรับจูนก่อนการเปิดตัวในไทย เป็นรถไฟฟ้าคันเล็กที่ทรงตัวใช้ได้ มีแรงบิดพอเพียงต่อการใช้งาน รูปทรงภายนอกดูทันสมัย ถ้า VinFast เปลี่ยนจากล้อกะทะเป็นล้ออัลลอย และเพิ่มปัดน้ำฝนกระจกบานหลังกับจูนพวงมาลัยให้เข้าที่ VF5 ก็น่าจะไปได้ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ซึ่งถ้าหาก VF5 สามารถทำยอดขายได้ดี เราจะมี VF6 และ 7 ที่จ่อรอเปิดตัวในไทยตามหลัง VF5 ที่น่าจะพอไปได้ในตลาด EV ของไทย
Mr. Pham Nhat Vuong เจ้าของแบรนด์ Vin Group ซึ่งธุรกิจหนึ่งในนั้นก็คือบริษัทรถยนต์หน้าใหม่อย่าง VinFast หลังจากประสบความสำเร็จด้านอาหารสำเร็จรูปและอสังหาริมทรัพย์ ภารกิจล่าสุดของ Mr. Vuong ก็คือการระดมทีมงานชาวเวียดนามที่มีความรู้ความสามารถในการสร้างแบรนด์ เพื่อทำให้ VinFast Auto เป็นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามระดับโลกที่ก้าวออกจากแผ่นดินของตัวเองไปสู่เส้นทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก Mr. Vuong ทุ่มทุนกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อทำให้ VinFast เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ท่ามกลางความสงสัยว่า บริษัทรถยนต์หน้าใหม่ของเวียดนามแบรนด์นี้จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์ของจีนที่ครองตลาดได้จริงหรือ อันที่จริงแนวคิดของผู้บริหาร VinFast ก็คือ การขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวา ที่มีราคาพอจะจับต้องได้ มีการตั้งตัวเลขยอดขายที่ไม่เกินความเป็นจริงมากนัก และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความตั้งใจในการทำธุรกิจ รวมถึงความใส่ใจในด้านบริการหลังการขาย
VinFast จดทะเบียนในไทยช่วงปลายปี 2566 ด้วยทุนจดทะเบียน 108,360,000 บาท มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ 15 ดีลเลอร์ เพื่อเปิดโชว์รูม 22 แห่ง เน้นพื้นที่บนถนนสายหลักในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล รวมถึงจังหวัดหัวเมืองอย่าง เชียงใหม่, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, อยุธยา และชลบุรี รวม 30 แห่ง ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในปีนี้
การเปิดตัว VinFast VF5 ในประเทศไทยจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2567 นี้ พร้อมการรับประกันอายุการใช้งานประมาณ 200,000 กิโลเมตร หรือ 10 ปี ส่วนราคาจะเปิดมาเท่าไร คงต้องตามกันอีกที เพราะถ้าเดาไปแล้วไม่ใกล้เคียงกับท่ีประกาศก็จะขาดความน่าเชื่อถือกันซะเปล่าๆ เอาง่ายๆ ก็คือ แบรนด์เวียดนามเขายังไม่อยากให้คาดเดาราคากันเอาเองล่ะครับ งงเลยแหละ.