เมื่อมีคนถามถึงแนวการแต่งรถ เล่นรถ ของผู้คนในช่วงข้ามต่อศตวรรษ (Y2K) ถ้าจะเอาอย่างง่าย ผมก็มักแนะนำให้ไปหา Fast & Furious ภาคแรกดู องค์ประกอบของรถในภาพยนตร์นั้นบ่งบอกแนวทางการปั้นรถซิ่งเมื่อราว 20 กว่าปีก่อนได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะหาเรื่องมาคุยกันเพิ่ม เราคงต่อกันได้ยาว คนที่อายุราว 40-50 ในวันนี้น่าจะยังจำได้ว่าเราแต่งรถกันยังไง
เอาแค่ไฟหน้ากับไฟท้ายก่อนนะ ถ้าโรงงานให้มาเป็นไฟสีส้ม ผิดใจมาก! ต้องรีบไปหาไฟเลนส์สีขาวมาใส่ แต่ถ้าโรงงานให้มาเป็นไฟสีขาวแล้วล่ะ? ก็ผิดใจอยู่ดีแหละ! ต้องไปหาไฟขาวที่แต้มแถบส้มๆ หรือที่เราชอบเรียกว่าไฟเลี้ยว US มาใส่ แล้วถ้าซื้อรถมามีไฟสไตล์ US อยู่แล้วล่ะ? ยัง! รื้อโคมออกมาพ่นโคมรมดำข้างในมันซะเลย แล้วไอ้คนแต่งรถรุ่น Y2K นี่ล่ะก็ชอบไปถามคนรุ่น Palace ว่า พี่เอาสเปรย์ไปพ่นไฟท้ายสีดำทำไม เอาผ้าลำโพงไปหุ้มไฟทำไม ท่อไอเสียปลายสวยๆ ไปตัดให้มันแหลมชี้ฟ้าทำไม
ผมก็จะบอกว่า ทั้งคุณและพ่อคุณต่างก็เสียเงินให้รถทั้งนั้นแหละ แต่จะ 80s 90s หรือ Y2K ก็ตาม บริษัท Autometer จำกัด USA ก็ได้เงินของลุง ของพ่อ และของคุณหมดแหละ
...
อย่าหาว่าน้าพล่าม..น้องๆ อายุ 25 ตอนนี้ คุณมีขนรักแร้ขึ้นไม่ทันวันที่รุ่นพวกผมรับจ้างล้างรถ เฝ้าบ้าน เฝ้าหน้าร้านอะไหล่ เก็บเงินมาซื้อมิเตอร์วัดรอบอันเท่าลูกนิมิต ยิ่งโตยิ่งบ่งบอกความภูมิใจ มีชิฟต์ไลต์ข้าวหลามแคระยิ่งเท่ เวลาออกซิ่งกลางคืนลากรอบมีไฟสว่างส่องหน้าส่องคางจนคนข้างนอกมองมาเขา นึกว่ากระสือขับรถ..ผมถึงไม่ตั้งคำถาม ไม่ด่า ไม่วิจารณ์อะไรมากกับความชอบของวัยรุ่นสมัยนี้
น้องๆ หลานๆ ครับ
สิ่งที่เราทำในวัยเรามันก็เคยเป็นสิ่งไร้สาระของผู้ใหญ่เสมอแหละ ถ้าไม่ได้ไปเบียดเบียนใครหรือไปฆ่าใครตาย เราสองวัยก็ควรจะอยู่กันได้เนาะ แต่บางครั้งสิ่งที่ดูไร้สาระในสายตาผู้ใหญ่ ก็มีเหตุผล คุณคิดว่าทำไมพวกผมต้องติดมาตรวัดรอบเพิ่มโตๆ ทั้งที่บนหน้าปัดรถก็มีอยู่แล้วล่ะ? เพราะในทศวรรษก่อน 2010 เป็นยุคที่เฟื่องฟูที่สุดของเครื่องยนต์รอบจัดหรือ HI-REV รถบางคันวางเครื่องมาวัดรอบของเดิมไม่พอ โดยเฉพาะคนเล่น Honda นะครับ วัดรอบของเดิมเล็กกะปิ๋วและเครื่องยนต์ของชาว H
หลายรุ่นสามารถปั่นไปถึง 9,500 รอบได้โดยพังแหละ..แต่ไม่พังแบบในทันทีทันใด นี่คือเหตุผลที่ทำไม Autometer จะหน้าดำ หน้าขาว หน้าเงิน หน้าคาร์บอน แต่สเกลวัดรอบไปได้ถึง 11,000 รอบ ถึงจำเป็นต่อชีวิตๆ พอๆ กับโปรตีนและวิตามิน
ถ้าเราติดมาตรวัดรอบบนคอนโซลในแนวตรงๆ เวลาลากรอบถึง 9,000 เข็มมันจะตั้งฉากกับพื้นโลกพอดี สังเกตด้วยหางตาได้ง่าย เรื่องนี้จำเป็นในการแข่งสนามรอบกลางวัน เพราะในช่วงแสงจัด ชิฟต์ไลต์จะสู้แสงอาทิตย์ไม่ได้ครับ ก่อนอื่นเราเคลียร์ใจกันก่อนว่า ถ้าจะนับตัวเป็น HI-REV ได้ นั่นก็คือตัวเครื่องยนต์ต้องสามารถหมุนได้ขั้นต่ำ 8,000 รอบต่อนาทีนะครับและถ้าเป็น HI-REV สายโรงงาน ก็ต้องสามารถลากรอบขนาดนี้ได้โดยก้านไม่ขาดลูกสูบไม่บิน และต้องเป็นเครื่องแบบที่จูนมาเพื่อเน้นการสร้างกำลังในรอบสูงด้วย ไม่ใช่ว่าเอาเครื่องอะไรก็ได้มาหมุน 8,000 รอบแล้วนับเป็น HI-REV เครื่อง Corolla 1.3 คาร์บูเรเตอร์เก่าๆ ก็ 8,000 รอบได้ครับ แต่เสียงตอนลากจะเหมือนการทรมานแมวมากกว่า
...
เครื่องยนต์ HI-REV มีเสน่ห์ตรงไหน? ถ้าสมมติคุณเอาเครื่องยนต์เทอร์โบกับ HI-REV สเปกใกล้เคียงกันที่สุดมาเทียบกัน อย่างสมัยยุค Y2K ฝั่งสาวก Toyota จะมีเครื่องยนต์ 4A-GZE ซึ่งเดิมจะติดตั้งซูเปอร์ชาร์จแล้วเราเอามา “ถอดซุปเซตโบ” ลงไป กับเครื่อง 4A-GE 20 วาล์ว 4 ลิ้นคันเร่ง จะเป็นรุ่นฝาขาวหรือฝาดำก็แล้วแต่ ถ้าเป็นการขับบนทางเปิดโล่ง รถมีระบบอัดอากาศแรงดึงหนักกว่า ทำความช่วงกลางกับปลายได้ดีกว่า แต่ในช่วงออกตัวกับช่วงความเร็วต่ำ การคุมคันเร่งรถเทอร์โบที่การมาของพลังไม่สม่ำเสมอนั้นทำได้ยากกว่า
การขับในสนาม ช่วงกลางโค้งไปจนถึงออกโค้ง รถ HI-REV เดินคันเร่งส่งพลังได้เนียนๆ ในขณะที่รถเทอร์โบถ้าไม่มีลิมิเต็ดสลิปช่วย จะกดคันเร่งแทบไม่ได้เลย นอกจากนี้การที่มีรอบให้ยันต่อได้เยอะกว่า ทำให้บางจังหวะที่รถเทอร์โบต้องชั่งใจแล้วว่าจะคาความเร็วไว้แล้วไปขึ้นเกียร์สูงหลังออกโค้งหรือชิงสับก่อนแล้วยัดเข้าไปทั้งอย่างนั้น รถรอบจัดจะมีที่ให้สามารถเติมความเร็วเข้าไปได้อีก นี่คือจากที่ผมรู้สึก
...
แต่แท้จริงแล้วมันขึ้นอยู่กับอัตราทดเกียร์ด้วยว่าเซตมาลงตัวกับสนามแค่ไหน นอกจากความง่ายในการขับบนทางโค้งแล้ว สุ้มเสียงที่ได้ ก็กังวานเสนาะหูยิ่งนัก เครื่องรอบสูงยุค Y2K ในภาคชาวบ้านไม่นับซุปเปอร์คาร์ ที่ดังที่สุดน่าจะเป็น B16A กับ B18C ของ Honda ซึ่งมาพร้อมกับระบบ VTEC DOHC ที่บนเพลาลูกเบี้ยวนั้นจะมีองศาแคมชาฟต์แบบปกติ ไว้วิ่งใช้งานเหมือนรถ 1.6-1.8 ลิตรทั่วไป และแคมชาฟต์องศาสูง ที่ปกติจะหมุนตัวเปล่า แต่พอถึงจุดหนึ่งที่รอบเครื่อง 5,500 กระเดื่องจะวิ่งเข้าไปล็อกให้แคมลูกเบี้ยวองศาสูงนี้เป็นตัวตีกบาลกระเดื่อง ไปเปิดปิดวาล์ว การเปลี่ยนโทนเสียงเครื่องระหว่างแคมองศาบ้านๆ กับแคมองศาสูง ที่ชัดเจนและดุดัน ทำให้เกิดคำว่า “เทคเปิดโลกเปลี่ยน”
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับสถานบันเทิงใดๆ หรอก แค่อาการรถมันเปลี่ยน ทั้งเสียง และแรงดึงเปลี่ยน หลอนมาถึงยุคของ Civic 1.7 ลิตรแคมเดี่ยวกับ Jazz VTEC ที่บางคนบอกว่า 5,500 รอบเทคเปิดโลกเปลี่ยน..แล้วผมกับเพื่อนก็จะขำขี้แตกกันเพราะไอ้สองรุ่นนี้มันไม่ได้มีแคมลูกองศาสูง แล้วเทคก็ไม่ได้เปิดที่ 5,500 โว้ย
สมัย Y2K ยุคที่ชาวซิ่งยังไม่มี Facebook แต่รวมโลกไซเบอร์ไปอยู่ที่ Racingweb.net ซึ่งมีห้องรวม และห้องแบ่งตามคลับรถรุ่นต่างๆ แล้วก็..ห้อง RELAX ที่ผมไปบ่อยสุดเพราะเป็นห้องโพสต์รูปสาวๆ สมัยนั้นจะมีการวัดประลองกำลังระหว่างเครื่องเทอร์โบ กับอีกเจ้าคือ VTEC Temple สองเจ้านี้ เจอกันเลียบด่วนหน่อยไม่ได้เลย คนใช้เครื่องเทอร์โบมักจะมองว่า VTEC DOHC เครื่อง Honda มีแต่ม้า ไม่มีแรง โดยอาจจะลืมไปว่าความแรงของรถยนต์ “เมื่อคุณวิ่งลากรอบไปสุด” มันดูที่ม้า และ Honda ตัววิ่งหัวสมัยนั้นมีแต่รถขับหน้าตัวเบาๆ ใช้ล้อขอบ 15 ที่เบากับยางหนึบๆ เกียร์ก็ทดจัดและมักเป็นเกียร์ธรรมดา
...
คุณพี่ขับ Cefiro A31 วาง 1JZ เทอร์โบเกียร์ออโต้ หวังเคี้ยวรถเล็ก โดนรถเล็กวิ่ง 13 วิ เบาะ แอร์ ยางอะไหล่อยู่ครบ สอยคาคลองห้ามาเยอะแล้วครับ Honda สมัยนั้นบางคันจึงมีสติกเกอร์ติดรถเขียนว่า “เทศกาลกินเจ” และนั่นไม่ได้แปลว่าเขากินพืชแต่อย่างใด
เสน่ห์แบบเครื่องยนต์รอบจัดจ้าน ไร้ระบบอัดอากาศไม่ได้มีอยู่แค่กับ Honda เท่านั้นนะครับ ในยุค 90s ตอนต้น Toyota ก็เล่นเครื่องรอบจัด ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัย AE86 เปิดตัวใหม่ๆ แล้ว ใน Corolla โฉมสามห่วงที่บ้านเราขายกันนั้น ทางญี่ปุ่นเขาก็มีรุ่น 1.6 GT ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4A-GE 20 วาล์ว รุ่นแรกฝาครอบวาล์วจะเป็นสีเงิน ซึ่งแม้เป็นเครื่องรอบจัดตัวเล็กเหมือน B16A ของ Honda ทว่าได้มาด้วยเทคนิคที่แตกต่างกัน ของ Honda ใช้ระบบ VTEC ที่เปลี่ยนลูกเบี้ยวไปมาระหว่างองศาปกติกับองศาสูง แต่ของ Toyota ใช้ฝาสูบแบบ 5 วาล์วต่อสูบที่ Yahama ออกแบบให้ บวกกับลิ้นคันเร่งแบบสูบใครสูบมัน และระบบ VVT (ยังไม่มี i) ที่หมุนแท่งแคมชาฟต์ฝั่งไอดียื้อจังหวะเปิดปิดวาล์วได้นิดหน่อย ทำม้าได้ 160 ตัว ซึ่งยังตามหลัง 170 ตัวของ Honda อยู่บ้าง และเขยิบเข้าชิดขึ้นมาหน่อยในเจเนอเรชันถัดมา (บอดี้ AE111 ในบ้านเรา) ซึ่งเปลี่ยนฝาครอบวาล์วเป็นสีดำ เพิ่มกำลังอัด ขยายรูลิ้นปีกผีเสื้อ ลดขนาดก้านสูบ ได้มา 165 แรงม้า แต่เด็ดตรงที่มีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ฝั่ง Mitsubishi แม้จะไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ก็มีเครื่อง HI-REV เหมือนกัน นั่นก็คือ 4G92 MIVEC ซึ่งติดตั้งวางอยู่เงียบๆ ในรถ Mirage รุ่น Cyborg-R และ Lancer MR ซึ่งขนาดความจุ ก็ 1.6 ลิตรเท่าๆ กันกับเพื่อน ใช้กลไกปรับเปลี่ยนองศาแคมชาฟต์แบบคล้ายๆ กันกับ VTEC DOHC ของ Honda ระบุแรงม้าเอาไว้ 175 ตัว บ้านเราก็มีคนเล่นอยู่บ้าง อย่างน้อยสมัยวัยรุ่นผมก็เคยจับเช็งกับ MIVEC มาคันนึง วิ่งไม่เลวเลยครับถ้าได้ช่างฝีมือถึง เพียงแต่ว่าสมัยนั้น คนจะเล่นมิตซู มักจะมองไปที่เครื่องยนต์เทอร์โบมากกว่า เขามีทั้ง 4G93T และ 4G63T ซึ่งม้าจากโรงงานก็มีกัน 193-280 ตัวแล้ว ต่างจาก Toyota ที่คนไทยวัยรุ่น Y2K จะเล่น 20 วาล์วด้วย เล่นเครื่อง 4A-GZE ซุปเปอร์ชาร์จ หรือถอดซุปเซตโบ หรือเอา 4A-FE มาติดตั้งเทอร์โบโมเครื่องกินพวกเดียวกันเองครบสูตร
มาช้าตั้งแต่ยุคนั้น คือ Nissan นั่นล่ะพี่ คนอื่นเขาเล่นเครื่อง Hi-REV ตั้งแต่ยุค 90s ตอนต้นแล้ว แต่ Nissan เพิ่งจะมาทำจริงจังในพิกัด 4 สูบ ก็ตอนที่มี Pulsar N15 และ Sunny B15 ออกมา รถทั้งสองรุ่นนี้ไม่ได้ถูกนำเข้ามาขายในไทยอย่างเป็นทางการนะครับ ของ Nissan นี้ เครื่องยนต์ HI-REV ของเขาจะมีชื่อว่า NEO VVL
ซึ่งใช้เทคนิคเพิ่มลูกเบี้ยวองศาสูงมาอีกชุด เช่นเดียวกับ B16A ของ Honda แต่ใส่ระบบหมุนองศาแท่งแคมชาฟต์ (VVT) คล้ายของ Toyota มาด้วย
เครื่องของ Nissan มีฝาครอบวาล์วสีน้ำเงินสวย มีรหัสว่า SR16VE 175 แรงม้า สมรรถนะไม่หยอก ถ้าได้เกียร์ลูกที่ทดจัดหน่อยวิ่งไล่กับ Honda สบายๆ แต่บ้านเราบางทีสมัยนั้น ไปเอาเกียร์ SR20 หรือ SR18 ที่อัตราทดเน้นประหยัดน้ำมันมาประกบ เลยไม่วิ่ง หรือช่างไม่รู้จักระบบสายไฟ VVL ดีพอ ก็ไม่วิ่งเช่นกัน แต่สมัยนี้หมดห่วงครับ VVL ที่วิ่งดีมีหลายอู่ทำได้
เครื่องตัวเล็กแต่ร้ายพวกนี้ ยังมีเวอร์ชันแรงพิเศษอีก อย่าง Honda Civic Type-R หรือ Integra DC-2 Type-R นั้น ใช้ฝาสูบที่ให้ช่างเทคนิคมาเก็บรายละเอียดเพิ่ม ใช้แคมชาฟต์องศาดุขึ้น แต่งทรงเครื่องเตรียมรับงานหนักมากขึ้น รถพวกนี้แรงม้าจากโรงงานมาก็ 200 ตัวแล้ว Nissan เห็น Honda ทำ ก็เข็น SR16VE เวอร์ชันพิเศษออกมาชน ทำม้าได้ 200 ตัวพอกัน แต่ Nissan ใส่เครื่องรุ่นนี้ลงใน Pulsar VZ-R N1 ซึ่งผลิตจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น ถ้าใครมีเครื่องตัวนี้อยู่ ให้รู้ไว้ว่าในโลกนี้มีเครื่อง Ferrari F40 เยอะกว่าเครื่องในรถคุณอีก
แต่ในปัจจุบัน เครื่องยนต์ HI-REV ในตลาดรถบ้านเป็นเผ่าพันธุ์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ด้วยปัญหาเรื่องมลภาวะ และต้นทุนการผลิต Nissan เลิกทำเครื่อง SR ไปหลังข้ามศตวรรษใหม่ไม่กี่ปี Toyota สิ้นสุดการใช้งานเครื่อง 4A ก็มาสร้างเครื่อง 2ZZ-GE VVTL-I ติดตั้งลงในรถอย่าง Celica เจเนอเรชันสุดท้ายซึ่งไม่ประสบความสำเร็จในยอดขายเท่าที่ควร เห็นทีจะมีแต่ Honda ซึ่งสร้างเครื่องยนต์ 4 สูบรอบจัดอย่าง K20A Type-R ใช้มาตั้งแต่ปี 2001-2002 ยาวมาอีกสิบปี เมื่อสิ้นสุด Civic Type-R โฉม FD ทาง Honda ก็หันหลังให้กับแนวทางเครื่องยนต์รอบจัดในพิกัด 4 สูบ เพราะ Type-R ปี 2015 เป็นต้นมา ก็เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ K20C แล้ว
ทุกวันนี้ ถ้าคุณต้องการรถป้ายแดง รอบสูง ไม่มีเทอร์โบ เสียงกังวานลั่นๆ คุณต้องรวยครับ..รวยเท่านั้น เพราะน่าจะเหลือแค่ Porsche Cayman GT4 หรือ 911 GT3 กับรถอิตาเลียนอย่าง Lamborghini Huracan V10 ที่ยังยึดถือแนวทางนี้อย่างเหนียวนั้น รถพวกนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องต้นทุนการสร้าง เพราะคนที่ซื้อนั้นมีเงินเหลือเฟือพร้อมที่จะจ่าย แต่สำหรับรถระดับบ้านๆ ที่คนฐานะปานกลางเอื้อมถึง คุณมีโชคอยู่ในตลาดรถมือสองเท่านั้น อย่างรถ 4 สูบ 8,000 รอบ 9,000 รอบ ก็จะมีรถ Honda Type-R ซึ่งรถแท้ ไม่ได้หากันง่ายๆ ถึงหาได้ ราคาก็ตั้งตามความพอใจของเจ้าของรถ แต่ถ้าคุณสู้ไหว ลองซื้อมาขับได้ครับ
เพราะถ้าไม่ถูกโฉลก ขอแค่ให้มีโลโก้ H และเปิดฝากระโปรงมาเจอก้อนอะไรเงินๆ แดงๆ เชื่อว่าตอนขายก็มีคนสู้ สำหรับสายรถแต่ง รถวางเครื่องนั้น เครื่อง B-Series ทั้งหลายของ Honda ในนาทีนี้ แทบจะไม่มีเครื่องเซียงกงอยู่แล้ว อย่างที่คุณตี้ Day Dream Drive บอกคือ คุณต้องถึงกับซื้อรถเพื่อเอาเครื่องกันแล้ว ส่วนพวก K20A High Performance จาก Type-R ทั้งหลายนั้น เครื่องบวกเกียร์ เตรียมเงินไว้แสนปลายๆ ครับ สำหรับคนที่เงินไม่ใช่ปัญหา เครื่อง Honda คือทางออกที่ดีที่สุดในแง่สมรรถนะ ของแต่ง และความชำนาญของผู้ประกอบ/จูนเครื่อง ในเมืองไทย มีเซียน Honda เก่งๆ อยู่เยอะ แม้ว่าบางท่านจะขาย Honda ไปจอง Tesla แล้วก็ตาม
ส่วนนักเล่นรถสายประหยัด เครื่องรอบจัดที่คุณยังเล่นได้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนโบกมือลา น่าจะเป็น 4A-GE 20 วาล์ว ซึ่งยังมีเครื่องสภาพดีอยู่บ้าง แม้ไม่ได้หาง่ายเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว ทนทาน แต่แรงแค่พอสนุกและควรติดตั้งออยล์คูลเลอร์ระบายความร้อนน้ำมันเครื่อง (เพราะ Oil Temperature ร้อนเร็วและร้อนง่ายมาก) กับเครื่อง 2ZZ-GE 180 แรงม้าที่น่าเล่นเช่นกัน แม้ว่าเครื่องเดิมๆ มาเหมือนจูนไม่ค่อยจบ สับเกียร์แล้วไม่เดินดีเท่าที่ควร แต่ช่างจูนไทยปรับแต่งเพื่อแก้จุดนี้ได้ เส้นผมบังภูเขา แค่กลไกการทำงานของ VVTL-I ครับ ถ้าทำจบแล้ว
รถวิ่งดีน่ากลัวเลยทีเดียวและยังหาเครื่องดีๆ ลงได้อยู่ในราคาที่ไม่โหดจัดแบบเครื่อง Honda ส่วน Nissan นั้น ความที่ไม่ได้มีสาวกเยอะ ทำให้ยังเป็นเครื่องยนต์ที่หาได้ และมีคนทำให้/จูนให้ได้ คุณสามารถนำเครื่อง SR20VE 2.0 ลิตรมาเปลี่ยนใส่แคมชาฟต์ของรุ่น 16VE ที่องศาสูงกว่าได้ รถ NEO VVL ช่างไทยทำจบ 220-230 แรงม้าที่ล้อ มีไม่น้อยครับ แต่แม้จะชอบ และดีใจถ้าจะยังมีคนหลงใหลเสน่ห์รถยุค Y2K สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ รถพวกนี้นั้น เหมาะจะเป็นรถเอาไว้วิ่งเล่น Track Day
หรือขับนานๆ ครั้ง เพราะอย่าลืมว่า ประกาศิตที่สั่งให้เครื่องพวกนี้ทยอยตายไปจากโลกคือเรื่องมลภาวะที่พวกมันสร้าง
ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ถ้าคุณได้มองไปที่ขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ได้สูดหายใจเข้าปอดไปแล้วรู้สึกระคายจมูกพิกล มันก็เป็นสัญญาณบอกอะไรสักอย่างแล้ว ถ้าจำเป็นต้องใช้รถเหล่านี้ในชีวิตประจำวันจริง เครื่องกรองไอเสียแบบติดตั้งเองมีขายในราคาหย่อนหมื่น ส่วนเสียงท่อ แม้จะรัญจวนใจแค่ไหน แต่ดึกๆ ถ้ารู้ตัวว่าเท้าหนัก ก็อย่าไปใส่ท่อให้มันดังลั่นโลกนัก “เราต้องแบ่งโลกกับคนอื่น แม้พวกเขาจะไม่ได้บ้ารถ” มันไม่มีใครหรอกที่ดี 100% ได้กับสิ่งแวดล้อมของเรา
คำถามก็คือ เราจะพยายามแค่ไหนในการทำให้ Passion ในรถคลาสสิกของเราสามารถอยู่ร่วมกับสังคมที่กำลังจะลืมรถเหล่านี้ได้ ในแบบที่เราอยู่ได้คนอื่นอยู่ได้ เด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่ด่าว่าเราเห็นแก่ตัว เหนือกว่าอยู่ได้ คืออยู่เป็น ดีกว่าอยู่เป็นคืออยู่แล้วสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นน้อยๆ ไว้ครับ.
Pan Paitoonpong