นี่คือรถสปอร์ต 5 ประตูที่ใช้ทรัพยากรบุคคลเปลืองที่สุดของ Honda นับจากโครงการ NSX ที่เพิ่งจะจบสิ้นลงไปหมาดๆ Civic Type R รุ่นใหม่ที่ขายในยุโรป ญี่ปุ่นและอเมริกา เป็นการเปิดตัวพร้อมกับวาระครบรอบ 25 ปีของ Civic Type R ที่เคยสร้างชื่อกระฉ่อนวงการมอเตอร์สปอร์ตให้กับ Honda

เครื่องจักรแห่งความเร็วคันนี้มีรูปทรงที่คล้ายกับ Civic Hatchback 5 ประตู รุ่นมาตรฐาน แต่มีอุปกรณ์ทั้งภายในและภายนอกที่แตกต่างจากรุ่นปกติพอสมควร แนวคิดทางวิศวกรรมของ Honda คือการผลิต Type R เวอร์ชั่นล่าสุด รหัส FK8R ให้กลายเป็นรถยนต์สำหรับการขับขี่ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และระบบรองรับ Civic Type R รุ่นล่าสุดมีน้ำหนักตัวเบาขึ้น (เล็กน้อย) แชสซีแข็งขึ้นและมีจุดศูนย์ถ่วงที่เตี้ยลง 10 มิลลิเมตร ความสามารถในการต้านทานแรงบิดตัวก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 52 % เมื่อเทียบกับ Type R รุ่นที่แล้ว โครงสร้างที่แข็งขึ้นเกิดจากการประกอบเฟรมส่วนนอกก่อนตามด้วยการยึดเฟรมด้านในตามเข้าไป น้ำหนักที่เบาขึ้น 16 กิโลกรัมพร้อมความแกร่งของแชสซีที่เพิ่มเข้ามาคืองานวิศวกรรมอันเข้มข้นที่ Honda ต้องจ่ายด้วยเงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆ ในขั้นตอนของการพัฒนารถต้นแบบ

...

...

โครงสร้างที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้จุดยึดพวกช่วงล่างต้องแข็งตามไปด้วย ระบบรองรับด้านหน้าของ Honda Civic Type R เป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คและกันโคลงเหล็กเส้นเขื่อง ส่วนด้านหลังเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างแบบมัลติลิ้งค์ที่ให้ความเฉียบคมมากกว่าในย่านความเร็วสูง Honda พัฒนาแม้กระทั่งเหล็กกันโคลงเพื่อให้สมรรถนะของตัวรถขึ้นถึงจุดสูงสุด คนขับสามารถควบคุมได้ดีขึ้นบนทางโค้ง ส่งผลให้รถเข้าโค้งได้เร็วกว่าเดิมด้วยความเร็วที่สูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนโม้แต่อย่าลืมว่าแบรนด์ Honda นั้นโลดแล่นอยู่ในวงการเอฟวันและทัวส์ริ่งคาร์มานาน การทำรถสปอร์ตดีๆ สักคันท่ามกลางเทคโนโลยีใหม่จึงไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงแต่อย่างใดทั้งสิ้น

Honda Civic Type R ยัดล้อลายก้านขนาด 20 นิ้ว เกิดจากการขยายแพลตฟอร์มให้กว้างขึ้น 30 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าไซส์ 235/30ZR20 91Y ส่วนล้อหลังจัดเต็มข้อที่ไซส์ 245/30ZR20 90Z เป็นยางสปอร์ตจากค่ายยางเยอรมนียี่ห้อ Continental รุ่น Sport Contact 6 แก้มข้างด้านหน้าพร้อมโป่งซุ้มล้อที่อวบขึ้นเกิดจากการขยับขยายระยะห่างระหว่างล้อหน้ากับช่องระบายความร้อนสำหรับเป่าลมเย็นๆใส่จานเบรก เบรกจาก Brembo เป็นแบบ 4 พอตหน้า 2 พอตหลังเหมือนเดิม จานเบรกเจาะรูระบายก็ยังเหมือนเดิมแต่ไม่มีออปชั่นเบรกคาร์บอนเซรามิกเนื่องจากไม่ได้แรงแบบซุปเปอร์คาร์จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้เบรกเทพราคาแพงแบบนั้น

...

หัวใจของความแรงจากอนุกรมรถ Type R เกิดจากขุมกำลังแบบใหม่ความจุสองลิตรอัดอากาศด้วยเทอร์โบ เครื่องยนต์ของ Honda Civic รุ่นแรงสุด เป็นเครื่องเบนซินเทอร์โบ 2 ลิตร 4 สูบ i-VTEC ติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผัน บูสแรงม้าได้มากถึง 320 ตัว (น้อยกว่าเครื่อง 2 ลิตร เทอร์โบของ Mercedes AMG A45 4MATIC ที่มีม้าท่วมท้นมากถึง 385 แรงม้า) มากพอที่จะไล่กัด BMW M2 แต่แค่ไล่เท่านั้นอัดแซงขึ้นหน้าคงเป็นไปไม่ได้ แรงบิดของเครื่อง 2 ลิตรเทอร์โบอยู่ที่ 400 นิวตันเมตร เป็นแรงฉุดลากที่มากพอในการทำความเร็ว อาการรอรอบยังคงอยู่ตามประสาเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระบบอัดอากาศแต่ไม่มากจนทำให้รู้สึกหมดอารมณ์ ระบบส่งกำลังของมันใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าของ Honda ที่คุ้นเคยมีการร่นตำแหน่งแท่นเครื่องใหม่เพื่อวางเครื่องยนต์ให้น้ำหนักตกลงตรงกลางรถมากที่สุด ปล่องรับอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับอินเตอร์คูลเลอร์ทำให้มันดูโหดร้ายคล้ายรถแข่ง

...

สมรรถนะของ Civic Type R 2017 เร่งจากจุดหยุดนิ่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.4 วินาที ช้ากว่า BMW M2 อยู่ถึง 1 วินาที (M2 เครื่อง 6 สูบเทอร์โบคู่) ความเร็วสูงสุดถูกตอนเอาไว้แค่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ศักยภาพของการขับที่ดีขึ้นโดยไม่จำเป็นที่จะต้องวิ่งให้เร็วจี๋ถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคือความสมดุลที่คนของ Honda พยายามนำเสนอ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีอาการทอร์คสเตียร์อยู่บ้างเมื่อออกตัวแรงๆ แต่วิศวกรของ Honda แจ้งว่าอาการดังกล่าวจะไม่ไปบั่นทอนความรู้สึกของคนขับอย่างแน่นอน ระบบขับเคลื่อนทุกล้อยังคงเป็นเรื่องที่ห่างไกลของ Honda การมุ่งพัฒนารถสปอร์ตขับหน้าแรงๆ ที่ Honda มีความเชี่ยวชาญดูจะสมเหตุสมผลมากกว่าพวกที่รอ Type R รุ่นขับ 4 ซึ่งไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้

วิศวกรของ Honda พัฒนาระบบรองรับแบบใหม่ของ New Civic Type R ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เหล็กกันโคลงถูกปรับใหม่ให้ลดอาการโคลงตัวขณะเทโค้ง ช่วงล่างหลังแบบมัลติลิ้งค์เมื่อวิ่งทดสอบสร้างความสมดุลให้กับส่วนท้ายของรถมากกว่าคานแข็งแบบเก่า ผู้ขับสามารถอัดเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม รถมีอาการเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Type R รุ่นสามประตูตัวสุดท้าย

ความยืดหยุ่นที่เข้ามาแทนอาการกระด้างหรือย้วยคือไดนามิกที่ถูกปรับแก้ใหม่หมด แพลตฟอร์มกว้างขึ้น 30 มิลลิเมตรทำให้ฐานล้อขยับตาม มีผลต่อความสมดุลเมื่อต้องวิ่งอยู่บนล้อไซส์ยักษ์ขอบ 20 นิ้ว (ใน Type R คันต้นแบบ) การเซตช่วงล่างที่เอาอกเอาใจวัยรุ่นแบบนี้ถือเป็นงานทางการตลาดที่ Honda มีความถนัด น่าเสียดายที่ New Civic Type R ไม่ได้ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย หากอยากได้จนตัวสั่นต้องรอจนถึงฤดูร้อนแล้วสั่งผ่านผู้นำเข้าอิสระเอาเอง.