ในยุคที่ข่าวสารพร้อมเสิร์ฟในสมาร์ทโฟนอย่างไว การนัดพบปะรวมกลุ่มของคนรักรถยิ่งเป็นเรื่องง่ายขึ้น วัฒนธรรมของการรวมพลคนบ้ารถในไทยก็แพร่หลายกระจายตัวไปตามที่ต่างๆไม่แพ้เมืองนอก การที่คนบ้ารถเอารถมาจอดรวมกันเยอะๆแบบนี้เรียกว่า Car meet หรือ Meeting ซึ่งสมัยนี้จะมีทั้งงานเช้าชิงไก่ตื่น งานบ่ายคลายเครียด งานยามเย็น ไปจนถึงงาน Meeting ยามค่ำคืน แต่ในการรวมคนและรถจำนวนมากเอาไว้ด้วยกันแบบนี้ จิตสาธารณะและน้ำใจ คือสิ่งที่ทำให้ Car meet เริ่มและจบลงได้สวยในแต่ละครั้ง
...
การรวมพลคนบ้ารถ หรือ Car meet เป็นสวรรค์ของนักดูรถ และเป็นที่พบปะพูดคุยของคนมากมายหลายเหล่า โดยมีรถเป็นจุดศูนย์กลาง ผมเองก็ชื่นชอบการดูรถมาตั้งแต่ยังเล็กและปัจจุบันเวลาว่างทุกคืนวันเสาร์ ก็มักจะไปอุดหนุนร้านของพี่เบียร์ใบหยกและร้าน Golden Curry ที่จุดพักรถ ปตท. ทางด่วนประชาชื่นด่าน 10 บาท ทุกวันเสาร์ช่วงหลังสามทุ่ม มักจะมีรถมาจอดรวมกันเยอะ และมีตั้งแต่รถเก่ารุ่นพ่อแม่จีบทางไกลผ่านโทรเลขเอย รถ EV รุ่นใหม่ๆเอย ไปจนถึง Luxury car และ Supercar เดินดูแล้วเพลินตายิ่งนัก แถมเดินดูหญิงยิ่งเพลินกว่าดูรถแม้ว่า 90% ของสาวๆเหล่านั้นจะมากับคนรู้ใจแล้วก็ตาม (ดูแต่ตา ไม่ต้องสานเรื่องต่อหรอก)
อย่างไรก็ตาม สถานที่ส่วนมากที่เกิดกิจกรรม Car meet มักเกิดบนที่ส่วนตัวหรือที่สาธารณะที่มีผู้อื่นซึ่งไม่ได้อินกับโลกของรถ สัญจรปะปนไปด้วย แล้วในหลายโอกาส พฤติกรรมของพวกคนบ้ารถอย่างเราๆท่านๆนั้น ก็ไปทำให้คนทั่วไปเขารู้สึกไม่สบอารมณ์ เรื่องการซิ่งรถในที่ที่ไม่ควรซิ่ง เบิ้ลรอบตัด ออกตัวควันกลับตูดรถ เรื่องแบบนี้ผู้ใหญ่รุ่นน้าๆ เขาก็ช่วยรณรงค์ให้เลี่ยงกันจนปากเปียกปากแฉะแล้วครับ แต่เราทำให้ทุกคนทำตามเราไม่ได้ วันนี้ผมเลยคิดว่าจะใช้พื้นที่ตรงนี้เขียนถึงสักยก ว่าการไป Car meet หรือไปงานรถ มีข้อควรจำอย่างไรบ้าง ผมของ่ายๆ แค่ 5 ข้อนี้ครับ
...
****ข้อ 1 อย่าซิ่งให้เกิดเรื่อง****
คนบ้ารถ มีหลายประเภทนะครับ การเอาความหนักของเท้ามาเป็นเกณฑ์วัด คุณก็จะได้คนบ้ารถประเภทเน้นสวย เน้นงาม เน้นคลาสสิคเฉยๆ กับคนบ้ารถแบบที่ชอบกระแทกคันเร่ง หรือที่เรียกว่าซิ่งนั่นล่ะ แล้วในบรรดาคนที่ซิ่ง ก็จะมีทั้งคนที่ซิ่งแบบผู้ใหญ่รู้กาละเทศะ กับพวกที่คิดว่าทุกที่คือมาเก๊ากรังด์ปรีซ์ พวกหลังนี้แม้แต่คนบ้ารถด้วยกันเองยังแอบระอาเลย น้องน็อตเพจ “บ้ารถเก่า” ยังเคยบ่นกับผมว่ามันก็แค่ลานจอดรถจะซิ่งไปหากัปตันเคิร์กที่ไหนวะ แล้วพวกเราก็จะโดนหาว่าโลกสวยครับ แหม ขอโทษ โลกของผมกับของคุณก็สวยเท่ากันแหละแต่จุดที่ต่างคือเราจะไม่ขับรถในลักษณะที่คนจัดงานจะเดือดร้อน คุณจะไม่รู้สึกอะไรเรื่องนี้หรอกจนกว่าคุณจะเห็นเสี้ยววินาทีที่มีรถที่ซิ่งในลานจอดรถแบบกดเต็มเกียร์ 1 แล้วจู่ๆมีเด็กเล็กที่หลุดจากมือพ่อแม่วิ่งตัดออกมาข้างหน้า ผมเห็นกับตา เสียวจี๊ดไปทั้งแผ่นหลัง ถ้าไม่ใช่ว่าแม่เด็กมือไวกว่าชะนีบ้านนายสา คว้าลูกเอาไว้ทัน ไอ้คนที่ซิ่งรถคันนั้นเป็นฆาตกรในลานจอดไปแล้ว
อย่าพูดว่า แม่กับพ่อทำไมไม่ดูเด็กให้ดี! เพราะมันคือลานจอดรถที่คนทั่วไปจอดรถเพื่อมาหาของกินครับ ไม่ใช่พิทเลนสนามช้างอินเตอร์เนชั่นนัลเซอร์กิต! ขนาดในสนามแข่งระดับโลก ก็ยังมีกฎที่ต้องทำตามนะไม่ใช่เข้ามาแล้วซิ่งได้ทุกที่ในสนาม
...
แล้วไม่ใช่แค่เรื่องซิ่งในลานจอดนะครับมันรวมถึงตอนมาและตอนออกไปจากสถานที่รวมกลุ่มนั้นด้วย การที่คุณเข้ามาในเขตมีตติ้งด้วยการซิ่งมาอย่างเร็ว และจากไปด้วยการกดออกเต็มๆ ผมเชื่อว่าคนส่วนน้อยชื่นชม คนส่วนมากลุ้นอยากให้มิดตรงปากทางไปเลยมากกว่า แล้วพฤติกรรมแบบนี้ล่ะครับที่เมื่อรวมกับท่อดังๆที่พวกคุณบางคนชื่นชอบ ในยามดึกดื่นชาวบ้านเขาทนไม่ไหว ก็จะมีพี่ตำรวจมาขอสัมผัสได้มั้ยจ๊ะ แล้วคนอื่นที่ไม่ได้ซิ่งแต่ดันท่อดังก็จะโดนจับหมด..ไอ้คนที่ซิ่งไม่โดน จนบางทีในบรรดาพวกคนบ้ารถด้วยกันเนี่ยล่ะครับเอาเรื่องกันเองเพราะซวยฟรี
...
มามีตรถ..รู้ว่าห้ามการซิ่งของคุณไม่ได้ แต่อย่างน้อยก่อนเข้าพื้นที่รวมพล..มาดีๆ ตอนกลับบ้าน..ก็ไปดีๆ ห่างจากบริเวณงานมาสักพัก เอาให้ดูไม่เหมือนคุณเพิ่งออกมาจากที่นั่นล่ะครับ ในรัศมีบริเวณงาน ให้คิดเยอะๆทั้งเรื่องความปลอดภัยและมลภาวะทางเสียง แต่ในที่อื่นๆห่างไกลจากตรงนั้นไป..เราคงไปห้ามอะไรคุณไม่ได้
****ข้อ 2 อย่าเบิ้ล อย่าเบิร์น อย่าตด****
ภาพของ Dominic Toretto ขับ RX-7 เข้ามางานมีตรถแล้วเบิ้ลเครื่องโรตารี่ลั่นก่อนจอดในหนัง Fast & Furious มันก็เท่ดีครับ ตอนพวกผมวัยรุ่นก็มองว่าโคตรเท่ แต่คุณต้องลองมองไปรอบๆนิดนึงว่าตรงนั้นเป็นที่ไหน ถ้ามันเป็นการมีตติ้งรถในสถานที่ส่วนตัวซึ่งอยู่ห่างชุมชน หรือมันเป็นสนามแข่งที่จัดอีเวนท์มีเสียงรถแข่งตลอดอยู่แล้วขณะนั้น มันก็เท่ครับ แต่เรากำลังพูดถึง Car meet ในสถานที่ทั่วไป ถ้าคุณใช้รถไฟฟ้าก็เชิญเบิ้ลไปเถอะ หรือถ้ารถคุณเป็นรถสันดาปแต่ท่อเงียบ จะเบิ้ลก็เชิญแต่แมวจรจัดบนกำแพงอาจจะสงสัยว่าคุณจะทำแบบนั้นไปเพื่อตัวเงินตัวทองอะไรแม้มันจะถามคุณเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ก็ตาม ส่วนพวกท่อดังเบิ้ลเครื่องโดยเฉพาะในอีเวนต์ตามตึกจอดรถในห้าง คุณทราบไหมครับว่ามันก้องหูจะบ้าตายขนาดไหน แล้วสัญญาณกันขโมยชาวบ้านก็จะติดวี๊หว่อป่วนกันทั้งชั้น คุณสนุกโปกฮา แต่ชาวบ้านที่เขามาใช้ชีวิตปกติ เกลียดครับ ใช้คำว่าเกลียดเลยแล้วกัน โดยเฉพาะพวกจูนรถให้เบิ้ลแล้วมีเสียงปุปะปุงปังเหมือนยิงปืน คือ..มันก็เท่ครับแต่มันไม่ถูกที่เหมือนการขี้นอกห้องส้วม
เบิร์นยางให้ควันโขมง หรือการออกตัวแรงๆล้อฟรีกระจายในงานมีตติ้งรถก็เหมือนกันครับ เรื่องพวกนี้ผู้ใหญ่ที่จัดงาน หรือเจ้าของสถานที่เขาก็ปวดหัว บางทีปวดใจตรงที่ไอ้คนที่ทำน่ะ ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย แก่แล้วแต่ยังไม่เลิกซน คุณต้องเข้าใจครับว่า มีตติ้งรถกับการแข่งแดร็กชิงถ้วยฯ มันคือคนละเรื่อง คนละบริบทกัน มีตคือมาพบ อย่างพวกนักซิ่งที่ยังเห็นแก่หน้าคนจัดมีต มันก็นัดพบกันตรงนั้นแล้วไปซิ่งกันที่อื่น ไม่ใช่เบิร์นเอาท์ ควันกระจายกลางงาน พอหลายครั้งเข้า เจ้าของพื้นที่ตัวจริงก็ล้อมรั้ว หรือปฏิเสธการให้ใช้พื้นที่มีตติ้ง ถามว่าความผิดใคร แล้วคนทำผิดเคยโผล่มารับผิดชอบสักครั้งหรือเปล่า
****ข้อ 3 ระมัดระวังการสัมผัสรถคนอื่น****
ในฐานะคนที่เคยทั้งเป็นผู้มาร่วม และเป็นคนจัด Car meet มาก่อน จนเลิกไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกก็คือ คนเรามีความรักรถมากไม่เท่ากัน แสดงออกไม่เหมือนกัน แต่การไม่มีเรื่องคือดีที่สุด ในฐานะวัยรุ่นเมื่อ 25-30 ปีก่อน ผมเคยไปงานมีตแล้วสูบบุหรี่พร้อมกับยืนดูรถ E-Class Cabriolet คันสวยไปด้วย แต่ผมเผลอยื่นปลายบุหรี่เฉียดไฟท้ายรถ เจ้าของรถเอามือปัดบุหรี่ร่วงจากมือผมเลย คุณว่าใครผิด? ตอนแรกผมก็โกรธครับ แต่ถ้าคิดอีกทีคือ แล้วเราไปยืนสูบอะไรตรงรถเขาล่ะ? เรื่องนี้พอพวกน้าๆรุ่นใหญ่ทราบ ท่านก็ตำหนิผมเหมือนกันแล้วบอกว่า บางคนไม่ได้แค่ปัดร่วงจากมือหรอก เขาปัด “หน้า” เอ็งร่วงไปกับพื้นนะ
บาปกรรมมันมีจริงแหละครับ ตอนผมเอารถตัวเองไป Car meet แล้วเปิดกระจกไว้ ก็มีคนสูบบุหรี่แล้วขี้บุหรี่กระเด็นเข้ามาโดนเบาะรถผมจนไหม้เป็นรู ตอนนั้นคือตอนที่ผมเข้าใจหัวอกพี่เจ้าของ E-Class คันนั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องบุหรี่ เรื่องเบสิคอย่างเช่นการยืนพิงรถชาวบ้าน ไม่ได้เท่เหมือนพิงรถตัวเองนะครับ แล้วบางคนยืนพิงรถคนอื่น พอเจ้าของรถโวย ก็ทำเป็นตีโพยตีพายว่ารถเป็นรอยเหรอ เป็นรอยก็มาดิเอาเงินให้ ผมว่ามันบอกสองสิ่งคือ 1. คุณรวย 2. มารยาทคุณน้อยกว่าเงินที่คุณมี และเชื่อว่าหมูป่าในซิมบับเวก็จะคิดแบบเดียวกันถ้ามันมีรถของมัน
ผมระวังเสมอในงาน Car meet ไม่พิงรถใคร ไม่แตะรถใคร และไม่เปิดรถใครโดยพลการยกเว้นแต่ว่าเจ้าของรถบอกให้เชิญเปิดดูได้ เชิญนั่งได้ การเปิดประตูรถ ผมระวังและเอามือสอดกันไม่ให้ไปโดนรถคันข้างๆ เวลาเดินผ่านรถใคร ผมยกถุง กระเป๋า หรือสิ่งของให้แน่ใจว่าไม่ไปปัดโดนรถคนอื่น และแม้จะมีใครเชิญนั่ง ถ้าเป็นรถเก่า ผมจะสัมผัส จับ แตะ แม้กระทั่งการนั่งก็จะหย่อนทวารลงอย่างเบาที่สุด เพราะรถพวกนี้บางรุ่นพอแก่แล้วกลายร่างเป็นบางสิ่งที่ไม่เชิงข้าวเกรียบและไม่ใช่โบราณวัตถุ แต่พร้อมแตกเมื่อแตะ บางอย่างที่ไม่มั่นใจ ผมให้เจ้าของทำการกด ผลัก หรือดึงให้เสมอ
ถ้าสิ่งเหล่านี้ฟังดูยากสำหรับคุณ ผมคิดว่าอยู่ห่างๆรถคนอื่นเท่าที่คุณทำได้ จะดีกับทุกฝ่ายมากกว่า
****ข้อ 4 ไม่วางขยะเรี่ยราด****
บางคน กินน้ำเสร็จ วางไว้ท้ายกระบะรถคันอื่น หรือทำเป็นตีเนียนวางไว้แถวล้อหรือพื้นข้างรถแล้วเดินจากไป หรือใส่ถุงรวมๆกันแล้วนำไปวางไว้ท้ายรถใครสักคน พอจะกลับบ้านก็ขับกันออกไปยกกลุ่ม เหลือเป็นถุงขยะวางเป็นหย่อมๆเหมือนไม้พุ่มเตี้ยรสนิยมต่ำ ผมเคยจัดมีตติ้งแล้วโดนเจ้าของสถานที่โทรมาต่อว่า (โทรเลย เพราะสมัยนั้นไม่มี Facebook หรือ LINE) ว่าคุณทำให้ลานจอดร้านผมเลอะเทอะ ผมไม่ให้คุณมาใช้สถานที่นี้อีก ความผิดของผมคือจัดมีตติ้งแต่ไม่ได้อยู่ดูแลจนจบ (เพราะง่วงนอนเลยขอกลับก่อน) แล้วเจ้าของสถานที่นั้นก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ธรรมดาเท่าไหร่ แปดโมงเช้าวันอาทิตย์ ผมต้องขับรถข้ามเมืองไปเก็บขยะเหล่านั้นที่เพื่อนๆทิ้งไว้ แล้วบอกเลย มันไม่สนุก
ดังนั้น ขยะอยู่ในมือท่าน ก็รวบรวม แล้วลงถังให้ถูกที่ครับ และในบางสถานที่มีตติ้ง ถึงเจ้าของสถานที่ไม่ได้มีถังขยะ บางคนก็จะทึกทักเอาเองว่า เอาขยะของรถทุกคันมากองรวมเป็นที่เดียว คนเก็บขยะจะได้เก็บง่ายๆ ซึ่งความจริงก็คือ บางที่ไม่ได้มีคนไว้ช่วยงานเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจงช่วยกันเก็บใส่รถ แล้วไปทิ้งที่บ้าน หรือที่อื่นที่สะดวก
ผู้ใหญ่ท่านนั้นสอนผมไว้ด้วยว่า สถานที่สาธารณะกับส้วมสาธารณะมีความคล้ายกันก็คือ คุณอยากให้มันมีสภาพแบบไหนตอนเจอ คุณก็ทำให้มันเป็นแบบนั้นหลังใช้เสร็จ
****ข้อ 5 จอดรถให้คนไม่ด่าพ่อ****
ถามตัวเองว่า คุณชอบให้ใครจอดรถขวางแล้วคุณออกไม่ได้ แล้วต้องตามหาตัวอยู่ 10-20 นาทีกว่าจะเจอ พอเลื่อนรถก็ทำหน้าเหมือนคาปิบาร่าริมคลองตีหน้าซื่อเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด เจอคนแบบนี้คุณชอบไหม ถ้าชอบ ..สาธุ ขอให้เจอเยอะๆ ถ้าไม่ชอบ ก็อย่าไปทำกับคนอื่น ถ้าเลือกไม่ได้และคิดว่าถ้าไม่ได้จอดขวางการเข้าออกใครแล้วมันจะขาดใจตาย..ผมขอนะครับ ช่วยจอดปิดตูดรถที่เป็นรถซิ่งเหมือนกันหรือกลุ่มเดียวกัน อย่าไปจอดปิดตูดชาวบ้านที่เขาไม่ได้มามีตติ้งรถ ไม่ได้อินกับรถ เพราะทุกวันนี้ คนที่ไม่ได้ชื่นชมสังคมรถ เขาก็เกลียดเรามากพอแล้ว ก็เอาให้มันเกลียดในระดับที่ยังพออยู่ในโลกเดียวกันได้เถอะ อย่าล้ำเส้นจนเกินงามเลย ถ้าจำเป็นจริงๆ เช่นปวดขี้ด่วนจี๋ก็ขอโทษขอโพย อธิบายกันดีๆ เลิกทำหน้าตึงสักสิบวิ ใส่โหมดขอแสดงความขอโทษจากใจบ้าง ผมว่าคนส่วนมากให้อภัยได้ในเรื่องขี้ๆ
หรือถ้ามันจำเป็นต้องจอดปิดใครจริงๆ อย่างน้อยมีน้ำใจเขียนกระดาษแปะเบอร์ตัวเองไว้ไหมครับ? ให้ตามตัวได้ง่ายๆหน่อย อย่าบอกว่าเขียนเบอร์แล้วกลัวโดนคนจดเอาไปโทรแกล้งหรือไปทำมิดีมิร้าย? คุณไม่ควรมองความสะดวกปลอดภัยของตัวเองและมอบภาระกับการเสียเวลาให้คนอื่นแบบนั้น เว้นเสียแต่ว่าคุณเอา Diagnostic ทิ่มจมูกแล้วมันโชว์ Code ฟ้องว่าระบบตรรกะพัง
มารยาทการจอดอีกอย่างที่คิดว่าต้องสอนคือ ถ้าทางเดินรถไปข้างหน้า มีช่องทางเดียว คันไหนถึงช่องจอดก่อน คันนั้นก็ได้สิทธิ์ แต่ถ้าสมมติช่องทางเดินรถมีสองช่องทางตรงกลาง และมีที่จอดรถฝั่งซ้ายและขวา ถ้าฝั่งซ้ายมีช่องว่าง คุณอยู่ช่องขวา จู่ๆจะไปตบปาดเข้าซ้ายแล้วเข้าช่องจอดนั้น ก็ควรดูด้วยว่ามันมีรถที่เข้ามาใกล้ช่องจอดนั้นกำลังเตรียมเข้าจอดหรือไม่ ถ้าเขาอยู่ข้างหลังคุณไปไม่ถึง 1 ช่วงคัน แล้วคุณไปปาดเขาเข้าจอด อันนี้คือเสียมารยาทครับ แต่ถ้าเขาอยู่ไกลแบบ 4-5 ช่วงคันกว่าจะมาถึง อันนั้นก็ยังไม่น่าเกลียดนัก
ผมเคยเห็นครอบครัวหนึ่งมาที่จุดพักรถประชาชื่น เจอช่องว่างแล้ว เปิดไฟเลี้ยวกำลังจะเข้า จู่ๆ รถเยอรมันสีขาวและไม่ใช่เบนซ์ที่อยู่อีกฝั่งก็เลี้ยวตัดเข้ามาเลยแบบดื้อๆหน้าด้านๆ แล้วเจ้าของรถก็จอดอยู่ตรงนั้นไปเลย ทำนองว่า ก็กูจะจอดใครจะทำไม คุณว่าครอบครัวนั้นที่แค่มาพักหาของกินยามค่ำจะมีความทรงจำแบบไหนเมื่อเห็นรถแต่ง รถซิ่ง?
การไป Car meet จริงๆเรามีมารยาทปฏิบัติกันยังไง ก็อย่างที่ได้เขียนไป สำหรับคนที่สนใจไปดูงานชุมนุมรถ ถ้าคุณปฏิบัติตามนี้ได้ ผมว่าคนจัดงานมีตติ้ง หรือเจ้าของสถานที่มีต ก็จะสบายใจขึ้น ร่วมถึงผู้คนทั่วไปที่ต้องมาร่วมใช้พื้นที่เดียวกับเรา ถึงเขาไม่ชม ก็อย่าไปทำให้เขาด่า ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ในสังคม มีคนบ้ารถ น้อยกว่าคนไม่อินกับรถ 4-5 เท่าเสมอ ถ้าสังคมใหญ่เขาทนเราไม่ได้และตัดสินใจดำเนินการขั้นเด็ดขาด วันนั้นเราก็จะไม่สามารถนัดพบกันแบบนี้ได้อีก “ไม่ต้องน่ารักแต่อย่าให้เขาเกลียด” เชื่อผมเถอะ
และสำหรับภาพที่ใช้ในบทความนี้ นอกเหนือจากภาพเก่าๆยุค 2004-2005 ที่ผมขุดมาจากแฟ้มตัวเองแล้ว ยังได้ภาพบริจาคของหลายท่าน เพจ AMMONIA, เพจ Indysty, เพจ Day Dream Drive, คุณนัตตี้ Carside, น้องแธน, และ Ford Thailand ครับ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเซฟเวลาในการหาภาพครับ
Pan Paitoonpong