แม้เศรษฐกิจหดตัว แต่ "ไทยฮอนด้า" กวาดยอดขายมอเตอร์ไซค์ครึ่งปี 67 ถึง 729,152 คัน จากยอดรวมทั้งประเทศขายได้ 904,449 คัน พร้อมตั้งเป้าปิดปีนี้ขายได้ 1,360,000-1,400,000 คัน
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการเติบโตของตลาดรถสองล้อ หรือ มอเตอร์ไซค์ ไม่ได้เติบโตเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์อาจมีความเข้มงวดขึ้น ทำให้การเติบโตไม่ได้เหมือนกับอดีตอย่างที่คิด
สำหรับไทยฮอนด้าเองได้ให้ความสนใจถึงความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ และการบริการหลังการขาย ที่น่าจะตอบสนองความต้องการลูกค้าส่วนใหญ่ได้ดี
โดยที่ผ่านมารถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เราจึงมุ่งมั่นพัฒนารถจักรยานยนต์ที่ทันสมัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้าในยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้ ส่งผลให้ฮอนด้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทุกกลุ่มรวมถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ฮอนด้าสามารถครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มรถ เอ.ที. มาอย่างต่อเนื่อง
"เรื่องของยอดขายที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเราทำอะไรไม่ได้มาก แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือสร้างความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์และการบริการ ซึ่งอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น เราประเมินไม่ได้ แต่จะเน้นสินค้าและบริการเป็นหลัก"
สำหรับตลาดรวมรถมอเตอร์ไซค์ไทยในครึ่งแรกของปี 67 จะชะลอตัวและมีความต้องการในตลาดลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ด้วยกลยุทธ์ของไทยฮอนด้า รวมถึงการผลักดันการขายของผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้ดีกว่าสถานการณ์ตลาด โดยมียอดจำหน่าย 729,152 คัน จากตัวเลขตลาดรวมที่ 904,449 คัน
ทั้งนี้ ฮอนด้าพร้อมกระตุ้นตลาดในครึ่งปีหลังอีก โดยจะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์จำนวน 6 รุ่น และตั้งเป้าการขายทั้งปีอยู่ที่ 1.36-1.40 ล้านคัน โดยคาดว่ารถในกลุ่ม เอ.ที. ยังคงที่ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปัญหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขึ้นกับความน่าใช้งาน ซึ่งหากสาธารณูปโภค และรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ยังประหยัดน้ำมันอยู่ ตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงไม่เติบโตเท่าที่ควร อีกทั้งรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าที่ใช้อยู่ ก็ประหยัดน้ำมัน ซึ่งในอนาคตหากตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไทยฮอนด้าก็พร้อมจะลงทุนเพิ่ม