รถยนต์ไฟฟ้า Audi New Q6 e-Tron ที่งดงามและมีชีวิตชีวาของ Audi ถูกเปิดตัวพร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการในไทยที่สินธรวิลเลจ โดยมีราคาอยู่ที่ 4,699,000 บาท นี่คือ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของแบรนด์สี่ห่วง สำหรับโมเดล Q6 e-Tron เกิดมาเพื่อเสริมทัพยานยนต์ไฟฟ้าของ Audi และวางตำแหน่งตัวเองอยู่ระหว่าง Q4 e-Tron และ Q8 e-Tron จริงๆแล้วรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์โมเดล Q6 เข้ามาสานต่อความสามารถของ Audi Q5 55TFSIe ที่ขายดีในยุโรป เมื่อไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน มอเตอร์ขับเคลื่อนเดี่ยว (ตัวเดียว) พร้อมระบบบริหารพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงจะเข้ามารับหน้าที่เป็นระบบส่งกำลังแบบใหม่แทนเครื่องยนต์แบบเก่า มันอาจจะดีสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่แฟนคลับเก่าแก่ของแบรนด์สี่ห่วงก็ยังถวิลหารถที่มีจิตวิญญาณมากกว่า
...
Audi Q6 นับเป็นยานยนต์รุ่นใหม่จาก Ingolstadt นับตั้งแต่ Audi Q4 E-tron ที่เปิดตัวในปี 2021 เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ Porsche (Macan) เป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เช่น Porsche Macan, Audi A6 E-Tron
...
...
...
แพลตฟอร์มใหม่ ติดตั้งระบบไฟ 800V ทำให้ประสิทธิภาพการชาร์จไฟเร็วขึ้น (แรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้นหมายถึงการสูญเสียความร้อนที่น้อยลง) พร้อมด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อนแบบใหม่ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบโมดูลาร์ คล้ายกับเครื่องยนต์สันดาปภายในสมัยใหม่ ยิ่งมอเตอร์ยาวขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น การปรับปรุงภายในมอเตอร์ มีการเพิ่มขดลวดให้ถี่ขึ้น ระบายความร้อนด้วยน้ำมันโดยตรง และการเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช้เป็นชิ้นส่วนของมอเตอร์ เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานและประสิทธิภาพด้านการเทแรงบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดการใช้พลังงานไฟฟ้าขณะขับเคลื่อน ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายหลักของปแบรนด์สี่ห่วง
Premium Platform Electric: กุญแจสำคัญสู่ Audi EV ที่ปรับแต่งเพิ่มเติมพิเศษสำหรับตลาดรถไฟฟ้าพรีเมี่ยม โครงสร้างพื้นฐานของ Q6 e-Tron ใช้แพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE) ร่วมกันกับแบรนด์รถสปอร์ตอย่าง Porsche หมายความว่า Q6 มีระบบไฟ 800 โวลต์ เหมือนกับ Audi RS E-Tron GT แต่วิ่งได้ไกลกว่ามาก
เมื่อมองไปถึงภาพลักษณ์ที่เน้นความหรูหรา คู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดของ Q6L E-Tron ก็คือ Mercedes-Benz EQE SUV BMW iX3 และ Tesla Model Y ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของคู่แข่ง รวมถึง Maserati Grecale Fogore และ Polestar 3 ที่มีมิติตัวถังใกล้เคียงกับ Q6 e-Tron
Q6L e-Tronใช้แบตเตอรี่ขนาด 100.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว พัฒนาโดย Audi มีกำลังประมาณ 322 แรงม้า เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน มีระยะการขับไกล 641 กิโลเมตร ภายใต้มาตรฐาน WLTP ของยุโรป หักกลบลบหนี้ มันจะวิ่งได้ไกลประมาณ 550 กิโลเมตรได้อย่างสบายๆ ซึ่งถือว่าไกลใช้ได้ แต่ไม่ได้ไกลเท่าที่ลูกค้าอยากได้ในตัวเลข 700-800 กิโลเมตร
ชุดแบตเตอรี่ 12 โมดูล มีเซลล์ปริซึม 180 เซลล์ เมื่อเทียบกับ Q8 e-tron แล้ว Q6 e-tron ใช้โมดูลแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าแต่มีจำนวนน้อยกว่า ซึ่งทาง Audi แจ้งว่า จะช่วยลดสายไฟและจำนวนการเชื่อมต่อ จึงช่วยลดปริมาณพลังงานที่สูญเสียไปจากความร้อนได้ดีกว่าเดิมมาก ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตเน้นแรงยึดเกาะและความนุ่มนวล Audi ขึ้นชื่อในเรื่องของการเซ็ตอัพฟิลลิ่งของช่วงล่างอยู่แล้ว โช้คอัพและคอยล์สปริงแบบพาสซีฟทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าช่วงล่างแบบถุงลม Adaptive Air Suspension นับเป็นการเลือกออปชันเพื่อทำราคาที่ถูกต้องของ Audi Thailand
Audi Q6 e-Tron สามารถชาร์จเร็วสูงสุดได้ 270 กิโลวัตต์ รองรับสถานีชาร์จสาธารณะกับไฟกระแสตรง DC ขนาด 350 กิโลวัตต์ ทำให้แบตเตอรี่เปลี่ยนระดับพลังงานไฟฟ้า จาก 10 เป็น 80- เปอร์เซ็นต์ ด้วยสถานะการชาร์จเร็วในเวลาประมาณ 30 นาที แบตเตอรี่แรงดันสูง (HV battery) พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อระยะทางวิ่งไฟฟ้าที่ไกลที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าของ Audi ด้วยระยะทางวิ่งสูงสุดของ Q6 e-tron performance รุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ซึ่งทำระยะทางวิ่งสูงสุด 641 กิโลเมตร รถสามรุ่น ได้แก่ Audi Q6 e-tron quattro / Audi Q6 e-tron performance (รุ่นที่ขายในไทย) และ Audi SQ6 e-tron ใช้แบตเตอรี่แรงดันสูง ความจุรวม 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง (94.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงสุทธิ) เมื่อเทียบกับระบบแบตเตอรี่ที่ Audi เคยใช้มาก่อน แบตเตอรี่มี 12 โมดูล โดยมีเซลล์ปริซึมรวม 180 เซลล์ 15 เซลล์ต่อโมดูล เชื่อมต่อแบบอนุกรม เมื่อเปรียบเทียบแล้ว แบตเตอรี่ HV ใน Audi Q8 e-tron ประกอบด้วยโมดูล 36 โมดูลและเซลล์ 432 เซลล์
ขนาดเซลล์ที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับสถาปัตยกรรม 800 โวลต์เกือบจะสมบูรณ์แบบ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างระยะทางและประสิทธิภาพการชาร์จ อัตราส่วนของนิกเกิล โคบอลต์ และแมงกานีสในเซลล์ คือ 8:1:1 ซึ่งหมายความว่าปริมาณโคบอลต์ลดลง และปริมาณนิกเกิลซึ่งมีความสำคัญโดยเฉพาะต่อความหนาแน่นของพลังงานถูกใส่เพิ่ม
การลดจำนวนโมดูลในแบตเตอรี่ PPE มีข้อดีหลายอย่าง แบตเตอรี่ซึ่งสามารถใช้งานแบบแยกส่วนสำหรับรุ่นที่มีพื้นสูงและพื้นเรียบต้องการพื้นที่ติดตั้งน้อยลง มีน้ำหนักเบากว่า และผสานเข้ากับโครงสร้างได้อย่างลงตัว ระบบระบายความร้อนทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ สายเคเบิลและขั้วต่อแรงดันไฟฟ้าสูงที่ลดลง ทำให้จำนวนการเชื่อมต่อของสกรูลดลงอย่างมาก การเชื่อมต่อไฟฟ้าระหว่างโมดูลที่สั้นลง ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดน้ำหนัก แผ่นระบายความร้อนที่รวมเข้ากับตัวเรือนแบตเตอรี่ ช่วยให้ถ่ายเทความร้อนได้สม่ำเสมอ ทำให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
แผ่นป้องกันด้านข้างที่ทำจากเหล็กขึ้นรูป ไม่ได้ถูกยึดติดกับชุดแบตเตอรี่ แต่ติดตั้งกับตัวเฟรมแทนเพื่อให้มีความเสถียรมากขึ้น คุณสมบัติใหม่ คือ การป้องกันใต้ท้องรถที่ใช้วัสดุคอมโพสิตไฟเบอร์ที่ช่วยลดน้ำหนัก ปกป้องแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากความเสียหายเมื่อเกิดการกระแทก ปรับปรุงฉนวนกันความร้อนของแบตเตอรี่จากสภาพแวดล้อมที่สุดขั้ว แบตเตอรี่ในแพลตฟอร์ม PPE สามารถทำความเย็นหรือระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หน่วยควบคุมส่วนกลางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแพลตฟอร์ม PPE คือ Battery Management Controller (BMCe) มีหน้าที่ควบคุมกระแสไฟสำหรับการชาร์จไฟที่รวดเร็วและเป็นมิตรกับแบตเตอรี่ BMCe ซึ่งเป็น "ศูนย์ควบคุมไฟฟ้า" ที่รวมเข้ากับแบตเตอรี่ HV ได้อย่างสมบูรณ์
ตัวควบคุมโมดูลเซลล์ (CMC) จำนวน 12 ตัว จะส่งข้อมูลที่มีความสำคัญ เช่น อุณหภูมิโมดูลปัจจุบันหรือแรงดันไฟในเซลล์ไปยัง BMCe ซึ่งจะส่งข้อมูล เช่น สถานะการชาร์จ (SoC) ไปยังคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง HCP4 (ส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ E3 1.2)
คอมพิวเตอร์จะส่งข้อมูลไปยังระบบการจัดการความร้อนเชิงคาดการณ์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำความเย็นหรือความร้อนตามความจำเป็น เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ที่เหมาะสม แบตเตอรี่แรงดันสูงของ Q6 e-Tron ประกอบขึ้นที่เมืองอิงโกลสตัดท์
นอกจากทุกอย่างจะใหม่หมด Q6 e-tron ยังเป็นรถที่เปิดเผยให้เห็นถึงดีไซน์ใหม่ของ Audi ที่จะทยอยเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเห็นได้ชัดโดยเฉพาะที่ด้านหน้า กระจังหน้าแบบกรอบเดียวขนาดใหญ่ยังคงมีอยู่ เนื่องจากเป็นแนวทางการออกแบบของ Audi มาตั้งแต่ต้นทศวรรษปี 2000 กระจังเป็นแบบปิด Q6 ยังทำตามเทรนด์การออกแบบสมัยใหม่ ด้วยไฟหน้าแบบแยกส่วนและไฟท้ายที่คล้ายกับ Q8 e-Tron ด้านข้าง เส้นสายที่ซุ้มล้อมีไว้เพื่อให้คล้ายกับกรอบหน้าต่างของ Audi Quattro ปี 1980 ในขณะที่องค์ประกอบสีดำบนบานประตูหมายถึงตำแหน่งของแบตเตอรี่
Q6 e-Tron มาพร้อมกับไฟหน้า LED แบบใหม่สุดเท่ ด้วยชุดไฟทรงสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็กเรียงรายอยู่ในกรอบไฟหน้า ทำหน้าที่ทั้งเป็นไฟหรี่และไฟส่องสว่างในเวลากลางคืนพร้อมระบบอัตโนมัติ Q6 ไฟฟ้ายังติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับที่ทำงานได้ฉลาดกว่าเดิม เพราะคนขับยุคใหม่มักจะใส่ใจกับโทรศัพท์มากกว่าการมองไปข้างหน้าเพื่อควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทาง ด้านความหล่อของรูปลักษณ์ Q6 กับเรือนร่างเอสยูวีหรูที่มีขนาดไม่เล็ก สร้างความประทับใจในครั้งแรกที่ได้พบ มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 4,771 มิลลิเมตร กว้าง 1,965 มิลลิเมตร สูง 1,702 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,899 มิลลิเมตร
พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 526 – 1,529 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระหน้า 64 ลิตร ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.31 (cd 0.31)
พื้นฐานของ Q6 e-Tron ตอบสนองวัตถุประสงค์ของการใช้งานสองประการ อย่างแรกคือความสบายในการขับทางไกล อย่างที่สองคือ สมรรถนะ ภายใต้แพลตฟอร์มที่ใช้ร่วมกับ Porsche Macan EV ระบบกันสะเทือนที่โดดเด่น ทำให้รถเอสยูวีรุ่นนี้มีช่วงล่างที่นิ่มนวล วิศวกรของแบรนด์สี่ห่วงนั้นเชี่ยวชาญในการปรับตั้งช่วงล่างเพื่อรับมือกับถนนที่หลากหลาย การวางแบตเตอรี่ให้ต่ำลงส่งผลให้ Q6 e-Tron เป็นรถอเนกประสงค์คันโตที่มีเสถียรภาพโดยเฉพาะขณะขับเข้าโค้ง
Q6 e-tron Performance พรีเมียมเอสยูวีเทคโนโลยีไฟฟ้า 100% Mid-size SUV ที่ขนาดลงตัวที่สุด มาตรฐานใหม่ของรถไฟฟ้า generation ใหม่ทุกรุ่นต่อจากนี้ และยังเป็นรุ่นแรกที่ผลิตบนแพลตฟอร์มรถไฟฟ้าพรีเมียมที่เรียกว่า Premium Platform Electric (PPE) ซึ่งได้รับการพัฒนาและยกระดับในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น ระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น การชาร์จที่ใช้เวลาน้อยลง รวมไปถึงด้านการออกแบบ เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในรถ ทั้งภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น และพื้นที่เก็บสัมภาระที่จุของได้มากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
New design philosophy นิยามดีไซน์ภายในที่เป็น Digital stage ของหน้าจอที่เป็นรุ่นใหม่ 3 จอ ซึ่งมีความยาวต่อเนื่องตั้งแต่ฝั่งประตูคนขับฝั่งขวาจนสุดประตูผู้โดยสารฝั่งซ้าย ภายในห้องโดยสาร Digital stage ติดตั้งหน้าสัมผัส New generation MMI หน้าจอ Curved MMI Panoramic Display เชื่อมต่อ 3 จอ เช่น มาตรวัดและจอภาพมอนิเตอร์กลางของคนขับและจอภาพส่วนตัวของผู้โดยสารตอนหน้า MMI Virtual Cockpit Plus ขนาด 9 นิ้ว จอกลาง MMI Touch Display ระบบสัมผัส New generation MMI ขนาด 14.5 นิ้ว จอผู้โดยสารตอนหน้า MMI front passenger display ขนาด 9 นิ้ว แผงควบคุมที่ประตูหน้า Smart door panel ควบคุมไฟหน้ารถ การปรับกระจก การบันทึกตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่และที่ล็อคประตูฝั่งคนขับ
ไฮไลท์ Q6 e-tron Performance
เทคโนโลยี Active digital light signature ไฟหน้า Matrix LED 61 ดวง ปรับการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนการแสดงผลได้ 8 รูปแบบ พร้อมกับ Light staging ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
New design philosophy ดีไซน์ภายในใหม่หมด เป็นงานตกแต่งภายในของ Audi ยุคใหม่ที่เริ่มต้นในปีนี้ นับเป็น Digital stage ครั้งแรกกับระบบสัมผัสของหน้าจอ New generation MMI
Curved MMI panoramic display หน้าจอระบบสัมผัส 11.9 นิ้ว MMI virtual cockpit plus และจอมอนิเตอร์กลางของระบบอินโฟเทนเมนท์ ขนาด 14.5 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการณ์ MMI touch display มีความยาวตั้งแต่ฝั่งคนขับไปจนถึงผู้โดยสารตอนหน้า หน้าจอทำมุมเอียงเข้าหาคนขับเพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวก
จอภาพ 10.9 นิ้ว MMI front passenger display หน้าจอส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าที่สามารถควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ ได้โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่
Smart door panel แผงควบคุมอัจฉริยะเจเนอเรชั่นใหม่ ควบคุมไฟหน้ารถ การปรับกระจก การบันทึกตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่ และที่ล็อคประตูฝั่งคนขับ
Audi Nwq Q- e-Tron Performance มีระยะทางวิ่งไฟฟ้าไกลที่สุด มากกว่า Audi พลังงานไฟฟ้าทุกรุ่นที่ 714 กิโลเมตร (NEDC) และ 641 กิโลเมตร (WLTP)
ชาร์จเร็วด้วยระบบไฟกระแสตรง DC จาก 10-80% ภายใน 22 นาที (260 kW DC charging)
Hidden frunk space ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าขนาด 64 ลิตร และ Rear luggage space พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเมื่อพับเบาะ 1,529 ลิตร
e-tron sport sound ระบบเสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์แบบสปอร์ต
ภายนอกงดงามตามสไตล์สี่ห่วงพลังไฟฟ้ายุคใหม่ Q6 มีขนาดที่ลงตัว กระจังหน้าใหม่พร้อมโลโก้ 2 มิติ ชุดแต่งสปอร์ต S line รอบคัน ช่วงล่างแบบ S Sport ล้อลาย 5-double-arm Falx rims ขนาด 20 นิ้ว เพิ่มความปลอดภัยด้วย Projection light ที่ส่องไฟลวดลายกราฟฟิกต้อนรับลงบนพื้นจากกระจกมองข้าง ช่องชาร์จไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งสองข้างของตัวรถ
Q6 e-tron Performance ใช้ระบบควบคุมการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตำแหน่ง กำลังสูงสุดที่ 322 แรงม้า (ในโหมด Launch control) แรงบิด 485 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) DC maximum charging capacity 260 kW ความจุพลังงานแบตเตอรีไฟฟ้าแรงสูง 100 kWh มีอัตราเร่งสูงสุดจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การฟื้นคืนพลังงานเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางของ Audi Q6 e-tron ในระหว่างการพัฒนา ทีมวิศวกรมุ่งไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ และความพร้อมใช้งานของ ระหว่างการเบรกแบบหยุดนิ่งที่ความเร็วต่ำกับระบบ regenerative braking หมายความว่า Audi Q6 e-tron กระบวนการเบรกแบบฟื้นคืนพลังงาน regenerative braking จะเกิดขึ้นประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของ การใช้เบรกปกติ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่รีเจนไฟกลับเข้าไปในแบตฯ ดังนั้น การใช้เบรกแรงเสียดทานระหว่างการผสมเบรกจึงน้อยกว่ารถยนต์สันดาปภายใน ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม Audi Q6 e-tron จะฟื้นคืนพลังงานได้มากถึง 220 กิโลวัตต์ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่ การฟื้นคืนพลังงานหรือ regenerative braking โดยการลดความเร็วจะถูกจัดการโดยเพลาหลัง ด้วยเหตุผลด้านประสิทธิภาพ อัตราการฟื้นคืนพลังงานที่สูงขึ้นนั้นได้รับการทดสอบแล้วว่า regenerative braking ที่เพลาหลังจะมีความสมมาตรและสร้างความเสถียรขณะขับเคลื่อน
แพลตฟอร์ม PPE ระบบเบรกแบบสร้างพลังงานจะไม่ถูกควบคุมโดยระบบควบคุมเบรก แต่จะถูกควบคุมโดย HCP1 ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง รับผิดชอบระบบส่งกำลังและแชสซีในรถยนต์ที่ใช้แพลตฟอร์ม PPE ทุกรุ่น การทำงานในลักษณะดังกล่าวจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งกำลังที่มีต่อระบบเบรก รวมถึงระบบเบรกอัจฉริยะ (iBS) ซึ่งอยู่ใน e-tron รุ่นก่อนหน้านี้และได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อนำมาติดตั้งกับแพลตฟอร์ม Premium Platform Electric
ในระหว่างการเบรกแบบสร้างพลังงานคืน ระบบจะคำนวนว่าจำเป็นต้องใช้เบรกแบบปกติ หรือใช้ระบบ regenerative braking ผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าว่าเพียงพอต่อระยะหยุดหรือไม่ ทันทีที่คนขับเหยียบแป้นเบรก regenerative braking จะทำงานทันที หากคนขับเหยียบเบรกแรงขึ้น เบรกแบบเสียดทานด้านหน้าจะถูกเพิ่มแรงดันเพื่อเพิ่มพลังเบรกให้มากขึ้น จนไปถึงการสั่งให้ระบบ ABS ทำงาน เบรกหลังจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ แม้ในสถานการณ์ที่ระบบสั่งให้ ABS ทำงาน มอเตอร์ไฟฟ้าจะยังคงคืนพลังงานย้อนกลับ การผสมผสานระหว่าง regenerative braking กับเบรกปกติด้วยระบบไฮดรอลิกนั้นแทบจะไม่สามารถรับรู้ได้ การผสมผสานช่วยให้รู้สึกถึงการเหยียบเบรกในปริมาณที่เหมาะสมพร้อมจุดกดที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ
มีโหมด regenerative braking สองรูปแบบ ปรับใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย สามารถลดความเร็วได้สูงสุด 1.5 เมตรต่อวินาที นอกจากนี้ ยังสามารถชลอความเร็วแบบไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ จะเคลื่อนตัวได้อย่างอิสระโดยไม่มีแรงต้านเพิ่มเติมเมื่อยกเท้าออกจากคันเร่ง โหมดการขับขี่อีกแบบหนึ่งใน Audi Q6 e-tron คือโหมด "B" เมื่อเลือกฟังก์ชันอัตโนมัติใน MMI รถจะ regen พลังงานโดยอัตโนมัติ ผสานกับหน่วยประเมินข้อมูลเส้นทางที่อยู่ในระบบนำทาง เช่น ความชันของเส้นทาง ลักษณะของทางโค้ง ป้ายจราจร ฯ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการประมวลผลของระบบเบรกแบบรีเจนก็คือสภาพการจราจรข้างหน้า
regenerative braking ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ HCP5 และ HCP1 เรดาร์ระยะไกล และกล้องด้านหน้า สำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ เพื่อสแกนปริมาณการจราจรข้างหน้า ระบบควบคุมเบรกอัจฉริยะ (iBS) สำหรับการควบคุมและผสมผสานเบรก นั่นคือการเปลี่ยนผ่านระหว่างเบรกแบบเสียดทานและเบรกแบบสร้างพลังงานคืน และ HCP3 เพื่อให้แสดงปริมาณพลังงานที่กู้คืนได้ให้ผู้ขับเห็นบน Audi Virtual Cockpit
Q6 e-tron2 ยังติดตั้งระบบควบคุมเบรกอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีนี้รวมฟังก์ชันเพิ่มแรงเบรกและการควบคุม ABS/ESC ไว้ในระบบเดียว เบรกที่มีขนาดกว้างขวางพร้อมดิสก์เบรกเหล็กระบายอากาศ ช่วยให้ชะลอความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบเบรกมีคาลิปเปอร์เบรกแบบลูกสูบสี่ตัวที่เพลาหน้า และคาลิปเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยวลอยตัวพร้อมเบรกมือกลไกลไฟฟ้า คาลิปเปอร์เบรกได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการเบรกเพื่อหยุดรถที่ความเร็วต่ำ สปริงพิเศษช่วยให้ผ้าเบรกกดได้อย่างรวดเร็ว ระบบตรวจจับการสึกหรอของผ้าเบรกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับเบรกมือไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่
ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน และรักษาระยะห่างด้านหน้า (Adaptive cruise control with Stop&Go function)
ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก (Front cross traffic assist)
ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear cross-traffic assist)
ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane departure warning)
ระบบช่วยหักเลี้ยวพวงมาลัยในกรณีฉุกเฉิน (Swerve assist) และ ระบบช่วยเบรกเมื่อเลี้ยวรถที่ทางแยก (Turn assist)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change assist warning)
ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ (Exit warning)
ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Front emergency brake assist)
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง (Proactive occupant protection, front, side and rear)
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround cameras)
เซ็นเซอร์หน้า-หลัง พร้อมเส้นช่วยในการนำรถเข้าจอด (Parking aid plus with distance display)
Audi New Q6 e-tron Performance สีตัวถัง 5 สี
Manhattan grey, metallic
Glacier white, metallic
Mythos black, metallic
Ascari blue, metallic
Plasma blue, metallic
ราคา 4,699,000 บาท
สนใจสามารถรับข้อเสนอพิเศษได้ตั้งแต่วันที่ 21-24 ตุลาคม 2567 ณ Velaa Sindhorn Village (ลานกิจกรรม หน้าร้านอาหารโรงสี) หรือติดต่อที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook / Instagram: Audi Thailand / www.audi.co.th