Lotus ภายใต้ร่มเงาของ Geery วางแผนใหญ่สำหรับอนาคตที่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะต้องขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และเพื่อเป็นการแสดงความพร้อมอย่างเต็มเหนี่ยว! ในการที่จะก้าวเข้าสู่แบรนด์รถสปอร์ตพลังงานสะอาด 100% Lotus ได้เปิดตัวรถต้นแบบแนวคิดคันใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Theory 1 รถสปอร์ต 2 ประตู 3 ที่นั่ง มอเตอร์คู่หน้า-หลัง มีกำลังรวม 987 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนการกำหนดน้ำหนักเป้าหมายของ Theory 1 ไม่เกิน 1.5 ตัน ต้องตามดูกันอีกทีว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมารถไฟฟ้ามอเตอร์คู่กับแบตเตอรี่ 80 kWh มักจะมีน้ำหนักตัวบานเบอะทะลุ 2.2 ตัน หรือมากกว่านั้น น้ำหนักที่มากเกินไปของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งผลต่อการบังคับควบคุม โดยเฉพาะการเลี้ยวโค้งในย่านความเร็วสูง ระยะเบรกที่เพิ่มขึ้นมาก เบรกต้องรองรับการหยุดยั้งมวลน้ำหนักมหาศาล ทำให้ร้อนจัดอย่างรวดเร็วหากไม่ได้ใช้ระบบเบรกคาบอนเซรามิก รถที่หนักยังสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งทำให้เปลืองกระแสไฟในแบตญโดยใช่เหตุอีกตะหาก 

...

Theory 1 วางดีไซน์ล้ำอนาคตไปไกล (บางทีก็ไกลเกิน จนจินตนาการไปไม่ถึงแหละ) เพื่อเป็นตัวแทนของงานการออกแบบในอนาคต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Lotus Esprit รถสปอร์ต รูปทรงลิ่มที่คมชัด ส่วนหน้าที่จงใจทำออกมาให้แหวกอากาศได้ดี ไฟหน้าทรงบูมเมอแรง ห้องโดยสารย้อนกลับไปถึงการออกแบบภายในของ Esprit รถสปอร์ตเครื่องยนต์กลางที่เคยเป็นยานพาหนะของ 007 แต่ก็ยังงงๆว่า ด้านหน้ากับส่วนท้ายของรถนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไฟท้ายที่บางเฉียบ สปอยเลอร์หลังหรือวิงหลังท่ีพับหรือกางออกได้ด้วยไฟฟ้า ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ ส่วนที่เจ๋งที่สุดคือประตูทรงกรรไกที่เปิดออกโดยยกบานขึ้นด้านบน อาจเข้าออกลำบากแต่โคตรเท่เวลาจอดตามห้าง! คล้ายกับประตู dihedral synchro-helix doors ของไฮเปอร์คาร์ Koenigsegg (คิดไปเองหรือเปล่า?) 

...

แนวคิดของ Lotus Theory 1 ก็คือ ท่อคาร์บอนทรงอวกาศ มีสามที่นั่ง และเร่งได้เร็วจี๋ (ยังไม่เข็ด) : ที่นั่งตรงกลางสำหรับคนขับและที่นั่งด้านข้างทั้งสองข้างสำหรับผู้โดยสารเหมือนกับ McLaren F1 ซึ่งใช้งานจริงแล้วไม่ค่อยสะดวก แต่รถแบบนี้ เจ้าของมักขับคนเดียวอยู่แล้ว การมีสองที่นั่งขนาบตำแหน่งตรงกลางของคนขับไม่ต่างจากการจัดที่นั่งใน McLaren ความคล้ายคลึงกันก็จบลงเพียงแค่นั้น ภายในของ Lotus Theory 1 ติดตั้งจอแสดงผลบนกระจกมองข้าง และหน้าจอถัดจากเสา A แต่ละต้นแทนกระจกมองข้าง ที่แปลกประหลาดก็คือมีท่อเป่าลมฝังอยู่ในเบาะที่นั่ง ประตู และพวงมาลัย ซึ่งใช้สำหรับนวดและส่งการตอบสนองแบบสัมผัสไปยังคนขับ ลำโพงฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะของที่นั่งแต่ละตำแหน่งโดยใช้โครงสร้างตาข่ายที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

...

...

เทคโนโลยีจะมีอยู่เฉพาะเมื่อคนขับต้องการที่จะใช้งานเท่านั้น เมื่อไม่ได้ใช้ มันก็จะหายไปจากจอภาพ เหมือนปุ่มต่างๆ ที่ปรากฏขึ้น หรือเลือนหายไปได้ตามความต้องการ” Facundo Gutierrez, managing director of MotorSkins กรรมการผู้จัดการของบริษัทที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีผีหลอกดังกล่าว Facundo Gutierrez ยังกล่าวเสริมอีกว่า เมื่อคุณกำลังขับรถอยู่ แล้วมีรถวิ่งมาข้างหลังคุณ ผ้าหุ้มเบาะ ที่ไหล่ด้านที่มีรถวิ่งอยู่ข้างหลังจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อแจ้งเตือน (นั่นคงเป็นการแทรกแซงทางกายที่ไม่น่ารำคาญเกินไปนะครับ) เบาะจะแจ้งเตือนด้วยการขยับตำแหน่งต่างๆ อย่างแผ่วเบา หรือเมื่อต้องการรับสายโทรศัพท์ ปุ่มรับสาย จะปรากฏขึ้นทันที เพื่อให้คุณรับสายโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว

หัวใจสำคัญในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Theory 1 คือ แบตเตอรี่ขนาด 70.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งทาง Lotus หวังว่าจะสามารถวิ่งได้ 400 กิโลเมตร แต่ไม่ได้บอกว่า ขับเร็วแล้วไฟในแบตฯจะหล่นลงเร็วขนาดไหน วิศวกรไฟฟ้าของ Lotus คาดการณ์ว่า Theory 1 จะทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ต่ำกว่า 2.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 321 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังจากมอเตอร์คู่ 987 แรงม้านั้น น้อยกว่าไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า Lotus Evija ที่มีกำลังจากมอเตอร์สี่ตัวรวม 2,000 แรงม้า แต่การมี 2,000 แรงม้าแล้วควบคุมไม่ได้นั้นกลายเป็นอีกเรื่องในทันที Theory 1 จะมีน้ำหนักเบากว่า Evija ประมาณ 300 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นความหวังที่ Lotus จะหันกลับมาใช้แนวทางเดิมของตนเอง นั่นก็คือ ผลิตแต่รถสปอร์ตน้ำหนักเบา ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วโคตรจะยาก คงต้องรอแบตฯ Solid State และหวังใจเอาไว้ว่ามันจะไม่เป็นเพียงแค่ราคาคุย.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th 
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom 
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/