นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ลิเทียมเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จึงได้สั่งการให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) สำรวจแหล่งแร่ลิเทียม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตว่าประเทศไทยจะมีลิเทียมในการผลิตแบตเตอรี่เพื่อรองรับการผลิตอีวี ล่าสุด กพร.ได้ออกใบอนุญาต อาชญาบัตรพิเศษ จำนวน 3 แปลง เพื่อสำรวจแหล่งลิเทียมในพื้นที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา จากผลสำรวจพบว่าหินอัคนีเนื้อหยาบมาก สีขาว หรือหินเพกมาไทต์ ซึ่งเป็นหินต้นกำเนิดที่นำพาแร่เลพิโดไลต์สีม่วง หรือแร่ที่มีองค์ประกอบของลิเทียมมาเย็นตัวและตกผลึกจนเกิดเป็นแหล่งลิเทียมที่มีศักยภาพ 2 แหล่ง
ประกอบด้วย แหล่งเรืองเกียรติ มีปริมาณสำรอง 14.8 ล้านตัน เกรดลิเทียมออกไซด์เฉลี่ย 0.45% และแหล่งบางอีตุ้ม ที่อยู่ระหว่างการสำรวจ โดยลิเทียมจากแหล่งเรืองเกียรติ หากมีการอนุญาตประทานบัตรเพื่อทำเหมือง จะสามารถนำแร่ลิเทียมมาเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับอีวี 50 kWh ได้ 1 ล้านคัน ที่สำคัญคือเทคโนโลยีการแต่งสินแร่ลิเทียมในปัจจุบันสามารถควบคุมและลดผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนได้ และ กพร.ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถรีไซเคิล แบตเตอรี่ที่ใช้แล้วและนำกลับมาใช้เป็นแหล่งพลังงานซ้ำ (Second Life EV Batteries) สำหรับอีวีขนาดเล็ก อาคารบ้านเรือน สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการบริหารจัดการแบตเตอรี่ที่ผ่านการใช้งานแล้วในอนาคตได้อีกด้วย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่