GAC AION ลดราคา AION Y Plus 490 Premium อีก 1 แสน เหลือ 999,900 บาท เฉพาะช่วง Motor Expo 2023 เท่านั้น ย้ำรถทุกคันใช้ Magazine Battery แบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 นายโอเชี่ยน หม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) หรือ GAC AION กล่าวว่า เราได้ประกาศลดราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus 490 Premium ลงอีก 100,000 บาท สำหรับผู้ที่จองซื้อในช่วงงาน Motor Expo 2023 และในโชว์รูมทั่วประเทศ

โดย AION Y Plus 490 Premium จะขายในราคา 999,900 บาท ส่วน AION Y Plus 490 Elite ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 899,999 บาท โดยจะเริ่มตั้งวันที่ 29 พ.ย. - 11 ธ.ค. 66 และจะต้องจดทะเบียนรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 67 สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ภายในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ก็จะได้รับเงินคืนประมาณ 30,000 บาท  

อย่างไรก็ตามการปรับลดราคาครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามแผนการขายที่เราตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 คันในปีนี้ ปัจจุบันมียอดจองซื้อเข้ามาแล้ว 1,200-1,300 คัน ที่กำลังรอส่งมอบในเร็วๆ นี้ ส่วนการแต่งตั้งศูนย์บริการและโชว์รูมรถของ GAC AION เราจะอนุมัติแผนการก่อสร้างของดีลเลอร์ประมาณ 50 แห่งในปีนี้ และในปี 2567 จะมีแผนกเพิ่มอีก 20 แห่ง รวมเป็น 70 แห่งทั่วประเทศไทย

...

สำหรับเทคโนโลยี AION Y Plus 490 Premium ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AEP ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่น และทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง มาพร้อมอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ และได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งตำแหน่งการวางแบตเตอรี่ไว้ที่จุดศูนย์กลางของตัวรถ ทำให้มีความปลอดภัยสูง ส่งผลให้ตัวรถทำงานควบคู่กับระบบอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวแบตเตอรี่ขนาด 63.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดมากถึง 490 กม.

พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลกอย่าง Magazine Battery ที่ผ่านการทดสอบโดยการใช้กระสุนปืนยิงทะลุแบตเตอรี่มากกว่า 980,000 ครั้ง ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางของรอยกระสุนที่ใหญ่กว่าการทดสอบแบบทั่วไปมากกว่า 7-8 เท่า ผลลัพธ์คือแบตเตอรี่ไม่มีการติดไฟหรือเกิดการระเบิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ปัจจุบัน AION กำลังก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC จังหวัดระยอง ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 2,400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 50,000 คันต่อปี โดยจะก่อสร้างเป็น 2 เฟส คาดว่าโครงการเฟสแรกจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 2567

ขณะเดียวกัน GAC AION มุ่งมั่นที่จะให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันศูนย์สต๊อกอะไหล่ของเราได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว สามารถส่งอะไหล่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศไทย ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย และในวันที่ 15 ธ.ค. 66 จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ ของแบรนด์

โดยสามารถค้นหาตัวแทนจำหน่ายและนัดหมายทดลองขับได้ภายในคลิกเดียว รวมถึงบริการหลังการขาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบควบคุมรถจากระยะไกล เช่น การล็อครถ และการเปิดแอร์ เป็นการมอบประสบการณ์การบริการดิจิทัลที่สะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานอีกด้วย

นายโอเชี่ยน หม่า กล่าวอีกว่า เราเป็นแบรนด์ที่ผลิตสินค้าระดับโลก ไม่ใช่แค่ผลิตสินค้าในประเทศจีน และเราก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเข้ามาในประเทศไทย เราได้นำเอาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้กับผู้บริโภคคนไทย โดยเฉพาะ Magazine Battery และปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าของ GAC AION ทุกคันที่ขายในประเทศไทยก็เป็น Magazine Battery ซึ่งความปลอดภัยอันดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราแตกต่างจากค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่มาจากจีนด้วยกันนั่นคือ 1.เราเป็นบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจในตลาดหลักทรัพย์ 2.เราเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในประเทศจีน และ 3.เราเป็นบริษัทที่นำแพลตฟอร์มอีวีมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะปัจจุบันแพลตฟอร์มของเราถูกพัฒนาเป็นเจเนเรชันที่สามแล้ว ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus จึงมีพื้นที่กว้างขึ้น

...

นอกจากนี้ในงาน Motor Expo 2023 AION ยังได้นำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ของ GAC AION มาโชว์ด้วย อย่างเช่น Hyper GT รถสปอร์ตซีดานไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูดุดัน และสง่างาม เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยราคาประมาณ 1,100,000-1,700,000 บาท สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก และทำยอดขายไปได้มากถึง 2,000 คัน ในเดือนแรกของการเปิดตัว

Hyper GT ถือเป็นรถสปอร์ตซีดานไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ทำยอดขายได้เร็วที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัว ดีไซน์ภายนอก และภายในของ Hyper GT แฝงไว้ด้วยเส้นสายที่ดูสปอร์ต ผสานกับความหรูหราไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยประตูแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly Doors) ที่สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว รวมถึงสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟ ที่จะทำงานเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด หรือเลือกเปิด-ปิดได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่

...

ขุมพลังของ Hyper GT จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว มอบพละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.9 วินาที ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 80 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 710 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC) 

นอกจากนี้ยังได้ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ NDA ทำงานควบคู่กับกล้อง LIDAR 3 ตัวที่สามารถปรับโฟกัสสำหรั บการตรวจหาวัตถุได้ทั้งในระยะใกล้ และระยะไกล พร้อมด้วยชิปประมวลผล AI คุณภาพสูงจาก Huawei มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย และปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับ และผู้โดยสารอีกด้วย 

ปิดท้ายด้วย Hyper SSR ซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นรถซุปเปอร์คาร์สมรรถนะสูงระดับไฮเอนด์รุ่นแรก ภายใต้แบรนด์ Hyper จาก GAC AION บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับแถวหน้าจากประเทศจีน

โดย Hyper SSR มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ ตัวถังภายนอกผลิตขึ้นจากวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูง 100% ให้ความแข็งแรง และมีน้ำหนักที่เบากว่าเหล็กทั่วไปมากถึง 2.5 เท่า โดดเด่นด้วยประตูแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly Doors) ที่สามารถเปิด หรือปิดเพียงแค่กดปุ่มบริเวณประตู, หรือเหยียบแป้นเบรกให้ลึกขึ้นในขณะจอดรถ ประตูก็จะเปิดโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Active Spoiler ซึ่งสามารถสร้างแรงกดบริเวณท้ายรถได้มากถึง 100 กิโลกรัม และไม่น่าเชื่อว่า Hyper SSR มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (cd) เพียงแค่ 0.146 เท่านั้น

...

สำหรับขุมพลังของ Hyper SSR จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้พละกำลังสูงสุดมากถึง 1,225 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ด้วยเช่นกัน.