พอเอ่ยถึงรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นยอดนิยมของมาสด้า หลายคนต้องนึกถึง “มาสด้า CX–5” ทันที

เพราะในช่วงที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยมีสัดส่วนการขายไม่มากนัก แต่การบุกเบิกของมาสด้า ด้วยการส่ง CX-5 ลงสู่ตลาดได้กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกม

ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มหันมาให้ความนิยมรถยนต์ประเภทนี้มากขึ้น

จนกระทั่งปัจจุบันยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทำให้หลายค่ายรถต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเข้าสู่สนามการแข่งขันและช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด

ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้เดินหน้าพัฒนารถยนต์รุ่นนี้อย่างจริงจัง และส่งลงตลาดครั้งแรก ในฐานะรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มีรูปโฉมสง่างาม มาพร้อมสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์สกายแอ็กทีฟ ที่ให้ทั้งพละกำลังแรงและประหยัดน้ำมัน และมีเครื่องยนต์ให้เลือกมากที่สุดในตลาดถึง 3 แบบ ที่สำคัญให้ความอเนกประสงค์และตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายสไตล์

ส่งผลให้มาสด้า CX–5 กลายเป็นรถเรือธงอันเลื่องชื่อในยุคนั้น

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นล้วนมาจากปณิธาน “กล้าที่จะแตกต่าง” มาสด้ากล้าที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ ในสมัยนั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากเท่าใดนัก นั่นคือโจทย์ที่ท้าทายอย่างยิ่ง แต่มาสด้ากลับมองตรงข้าม เล็งเห็นถึงโอกาสที่ยานยนต์ประเภทนี้จะตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มาสด้า CX–5 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว กลายเป็นรุ่นยอดนิยมของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและนานาประเทศนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันมีลูกค้าจากทั่วโลกครอบครองรถยนต์รุ่นนี้ไปแล้วเกือบ 5 ล้านคัน และหนึ่งในนั้นคือลูกค้าชาวไทยที่เป็นเจ้าของกว่า 33,000 คัน

...

เมื่อมาสด้า CX-5 เจเนอเรชันแรก เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2555 ถูกจับตามองเรียกความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก กลายเป็นรถครอสโอเวอร์ที่สร้างชื่อให้กับมาสด้าอย่างรวดเร็ว พร้อมคว้ารางวัลความสำเร็จมากมาย

จนถึงปัจจุบันมาสด้า CX-5 มียอดขายสะสมทั่วโลกสูงถึง 4.6 ล้านคัน

มาสด้า CX–5 เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อเดือน พ.ย. 2556 กลายเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นแรกที่สร้างชื่อเสียงอันโด่งดังให้กับแบรนด์มาสด้าจนผงาดขึ้นแถวหน้าของตลาด ส่วนเจเนอเรชันที่สองเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย.2560

นี่คือเรื่องราวความเป็นมาโดยสังเขปของมาสด้า CX-5 ที่ได้สร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและวิธีคิด “กล้าที่จะแตกต่าง” ด้วยการลงมือทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริง ทำให้อุปสรรคกลายเป็นความท้าทายบทใหม่ ที่พร้อมจะผลักดันให้มาสด้าก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

ในอนาคตก้าวต่อจากนี้ไปน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปสู่อนาคต!!!

อัลคาโปน

คลิกอ่านคอลัมน์ “มอเตอร์วอร์ส” เพิ่มเติม