สวัสดีชาวไทยทุกคน สวัสดีครับ! วันนี้เป็นวันที่สำคัญมาก ผมเลยพยายามทำตัวให้น่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น ผมจึงขอยืมไฮลักซ์อันทรงพลังคันนี้จากลูกค้า อย่างที่คุณรู้ ผมไม่ได้รักแค่รถ...ผมรักรถยนต์! นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมมีความสุขที่ได้เห็นลูกค้าเพลิดเพลินกับรถของพวกเขาในลักษณะเดียวกันกับที่ผมเพลิดเพลิน เราขอขอบคุณผู้ที่ชื่นชอบรถทุกคนที่ปรับแต่งรถของเราเพื่อให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับผู้ที่สร้าง Hilux คันนี้ ผมชอบ Hilux ที่ได้รับการดัดแปลงของเขามาก ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากได้เหมือนกัน!
...
ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี แขก และสมาชิก Toyota Thailand ขอบคุณมาก สำหรับการมาร่วมงานกับเราในวันนี้ ผมอายุเพียงห้าขวบเมื่อ Toyota Motor Thailand ก่อตั้งขึ้น ผมไม่เคยคิดเลยว่า 60 ปีต่อมา ผมจะสามารถฉลองวันครบรอบพิเศษเช่นนี้กับพวกคุณทุกคนได้ สำหรับผม ประเทศไทยคือบ้านหลังที่สอง ถ้าผมไม่ต้องทำงานที่ญี่ปุ่น ผมอยากอยู่เมืองไทย และเมื่อผมจะอาศัยอยู่ในประเทศไทย ผมจะหาบ้านที่อยู่ติดกับสมบูรณ์ซีฟู้ด และไปรับประทานแกงปูผัดผงกะหรี่ที่ร้านนี้ทุกวัน!
...
สำหรับผมแล้ว.... ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้มอย่างแท้จริง ผมได้รับกำลังใจจากผู้คนที่อบอุ่นและมองโลกในแง่ดีมานานแล้ว ต้องขอบคุณคนไทยที่ทำให้เราได้ต้อนรับการเฉลิมฉลองในวันนี้ เมื่อ 60 ปีที่แล้ว Toyota Motor Thailand เริ่มต้นธุรกิจด้วยการประกอบรถยนต์โดยใช้ชิ้นส่วนที่ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น แม้ว่า Hilux และ Corolla จะได้รับความนิยม แต่กำลังการผลิตในประเทศไทยมีจำกัดและมีปริมาณการขายต่ำ ถึงกระนั้นเราก็อุทิศตนเพื่อผลิตรถยนต์ให้กับคนไทย
...
อีกสิบปีต่อมา เราต้องเผชิญกับความท้าทายแรกในประเทศไทย การนำเข้าจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการคว่ำบาตรสินค้าญี่ปุ่นแพร่กระจายในหมู่ผู้บริโภค ดังนั้น นายยูกิยาสุ โตโก ซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัท Toyota Motor Thailand ในขณะนั้น ได้ทำบางอย่าง เพื่อแสดงความจริงใจต่อประชาชนชาวไทย น่าแปลกที่เขาโกนหัวและบวชเป็นพระ ผมไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนั้น แต่ความตั้งใจของ Mr.Togo ที่จะเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ยิ่งขึ้นช่วยให้ความขัดแย้งระหว่างคนไทยกับ Toyota อ่อนลง เราได้สืบทอดบทเรียนในช่วงเวลานั้นมาอย่างรอบคอบจนถึงทุกวันนี้ การแสดงความเคารพและขอบคุณประเทศไทยมีความสำคัญสูงสุด เหตุการณ์สำคัญอีกประการหนึ่งคือการก่อตั้งบริษัทสยามโตโยต้าแมนูแฟคเจอริ่ง ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์ในปี พ.ศ. 2530 ร่วมกับเครือซิเมนต์ไทย (SCG) ซึ่งเป็นบริษัทไทยที่ทรงพลัง ต้องขอบคุณเอสซีจีที่ช่วยให้เราจัดหาทรัพยากรและบุคลากรที่จำเป็นเพื่อพัฒนาธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างเต็มที่
...
10 ปีต่อมา เราเป็นคนแรกที่เปิดตัวรถยนต์ที่ออกแบบและผลิตในประเทศสำหรับตลาดประเทศไทย รถคันนี้ชื่อ Soluna กลายเป็นที่นิยมพอๆ กับ Blackpink (กลุ่มนักร้องยอดนิยมของไทย) อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติค่าเงินในเอเชีย และยอดขายก็ดิ่งลง แม้ในช่วงวิกฤติ เรายังคงยึดมั่นในจุดยืนที่จะไม่เลิกจ้างพนักงานแม้แต่คนเดียว ในหลวงรัชกาลที่ 9 (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร) ทรงทราบเรื่อง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นเมื่อทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ครอบครัว Toyota ได้มีส่วนร่วม ในการดำเนินตามรอยพระยุคลบาทโดยทรงพระราชดำรัสให้จัดสร้างโรงสีข้าว ขึ้นอีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 6 แสนบาท ในการก่อตั้ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานของ Toyota และยังเป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้แก่ชาวนาในชุมชนบริเวณใกล้เคียงโรงสีข้าวอีกด้วย และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 Toyota จึงก่อตั้ง "บริษัทข้าวรัชมงคล" ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ตกทุกข์ได้ยาก
นี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ราชวงศ์ไทยช่วยเหลือเรา ในปี 2010 เมื่อ Toyota ประสบปัญหาการเรียกคืน ผมต้องขึ้นให้การต่อหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก หลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ Toyota แต่รัชกาลที่ 9 เป็นผู้นำเพียงคนเดียว ที่แสดงความเชื่อมั่นในแบรนด์ Toyota และทรงตั้งคำถามกับรายงานดังกล่าว ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่า รู้สึกซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณมากแค่ไหน ผมขอแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และปวงชนชาวไทยที่ให้ความกรุณากับ Toyota
นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับ Toyota ที่ได้มีโอกาสเติบโตและพัฒนาที่นี่ ในประเทศไทย และผมภูมิใจในความก้าวหน้าของ Toyota สำหรับผม ไม่สำคัญว่าเราจะขายได้กี่คัน หรือเราเป็นอันดับหนึ่งในด้านยอดขายหรือไม่ ความปรารถนาสูงสุดของผมก็คือ การเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ผมต้องการมีส่วนร่วมในประเทศ นี้ไม่ใช่แค่รถยนต์ Toyota ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2545 เราได้เริ่มโครงการใหม่ระดับโลกที่เรียกว่า IMV ในประเทศไทย จากความคิดดังกล่าว เราตัดสินใจพัฒนารถกระบะราคาประหยัดและมีความปลอดภัย ตั้งแต่เริ่มต้นที่นี่ในประเทศไทย ตอนนั้นผมเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของแผนกเอเชีย การพัฒนารถกระบะใหม่ ประสบปัญหาและล่าช้ากว่ากำหนดอย่างมาก ในขณะที่ผมยังอายุน้อย ในฐานะเจ้าหน้าที่ที่จะเป็นผู้จัดการทั่วไป และมาจากตระกูลผู้ก่อตั้ง ผมได้ยินหลายเสียงที่กังขาในญี่ปุ่นว่า "โครงการนี้อาจล้มเหลว" ผมตั้งใจจะทำให้เสียงเหล่านั้นเงียบลง โดยทำงานอย่างหนักร่วมกับพนักงาน Toyota ชาวไทยและมุ่งมั่นที่จะเปิดตัวรถตามกำหนด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมเดินทางมาที่ประเทศไทย ทำงานร่วมกับวิศวกร เพื่อหาแนวทางแก้ไข และใช้ความคิดริเริ่มในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในที่สุด รถที่ประกอบเสร็จแล้วก็ได้รับการเปิดตัวตามกำหนด ต้องขอบคุณความพยายามของทีมงาน Toyota ชาวไทย โดยตั้งชื่อว่า Hilux VIGO รถคันนี้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "รถประจำชาติ" ของประเทศไทย และประสบความสำเร็จอย่างมาก
การเปิดตัว Hilux VIGO เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในอาชีพการงานของผม และมากกว่าโครงการอื่นๆ โครงการนี้ สอนให้ผมรู้จักการเป็นผู้นำ ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากประสบการณ์นี้ และก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ขอบคุณทุกคนในประเทศไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ผมจึงขอให้วิศวกรและนักออกแบบ: "มาสร้างรถกระบะ IMV ใหม่ ราคาย่อมเยา และเป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริงในประเทศไทยกันอีกครั้ง" เราเรียกแนวคิดนี้ว่า "IMV 0" การเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมากกว่าหนึ่งปี แต่วันนี้ ผมต้องการให้ทุกคนเห็นรถกระบะรุ่นใหม่นี้โดยเร็วที่สุด
สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ นี่คือรถยนต์ต้นแบบแนวคิด IMV 0 ใหม่ และรถยนต์ต้นแบบแนวคิด Hilux Revo BEV! รถยนต์แนวคิดทั้งสองนี้ แสดงถึงอนาคตในอุดมคติของยานพาหนะ โดยพิจารณาจากบทบาทและความต้องการของลูกค้าตามลำดับ หนึ่งคือรถยนต์ที่รองรับอิสระในการเคลื่อนไหวและการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกประเภทหนึ่งคือรถยนต์ที่ก่อให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนและสภาพแวดล้อมของโลกที่ดีขึ้น ผมขอขอบคุณนักออกแบบและวิศวกร ที่ได้เตรียมรถยนต์สองคันนี้ โดยเฉพาะ IMV 0 ที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการ ผมมั่นใจว่าเครื่องจักรทั้งสองนี้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนและมอบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
ที่ Toyota เราให้ความสำคัญกับบุคลากรเหนือสิ่งอื่นใด เราต้องการให้รถยนต์ Toyota มีความเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า การพัฒนา IMV 0 (ZERO) เราใช้เวลาหลายเดือนในการสำรวจไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน เหตุผลที่ Toyota ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบส่งกำลังในทุกทิศทาง เพราะเราให้ความสำคัญกับคน ผมมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อ เพราะเรา ไม่ได้พูดว่า "Toyota ควรมุ่งมั่นที่จะใช้แบตเตอรี่ EV (BEV) 100%" ผมยังยืนยันว่า เราจำเป็นต้องมองความเป็นจริงอย่างใจเย็น เมื่อพูดถึงการแพร่กระจายของแบตเตอรี่ EV และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไร้คนขับก็เช่นกัน ถึงตอนนี้ (ถ้าสื่อว่ากันตามที่เขาพูด) “รถยนต์ไร้คนขับ” น่าจะมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในเมือง แบตเตอรี่ EV ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนบนโลก ผมมองเห็นทางเลือกที่มีอยู่หลายทาง ไม่เพียงแค่ทางเลือกเดียว แต่ทุกทางเลือก เช่น เชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ปราศจาก CO2 และไฮโดรเจน เราเชื่อว่าไฮโดรเจน เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สดใส เช่นเดียวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ผมเดินทางไปเบลเยียม เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน WRC และขับ GR Yaris เครื่องยนต์สันดาปภายในเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ผมขับมันเป็นครั้งแรกและมันทำได้ดีมาก
ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) เช่น Camry ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เช่น Prius และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) เช่น bZ4X ใหม่ Toyota นำเสนอทางเลือกทั้งหมดแก่ลูกค้าในการลดการปล่อย CO2 เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญคือการจัดหา นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด นอกจากนี้ เรายังมองไปที่ทางเลือกของเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เช่น รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง Toyota Mirai และรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เช่น GR Yaris และ Corolla Cross ผมจะไปขับรถเครื่องยนต์ไฮโดรเจนคันนี้ ในการแข่งขัน Idemitsu 25 Hours Endurance Race ที่ประเทศไทยในสุดสัปดาห์นี้ และผมรอคอยที่จะพบกับทุกท่านที่สนามแข่งขัน
"เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นกลางทางคาร์บอน ตลอดวงจรการทำงานทั้งหมด ตั้งแต่วิธีการจัดหาวัสดุ ไปจนถึงวิธีการผลิตยานพาหนะ วิธีติดตั้งลงในระบบส่งกำลัง และวิธีการกำจัด CO2 ศัตรูของเราคือคาร์บอน ไม่ใช่เครื่องยนต์ และความเป็นกลางทางคาร์บอนไม่สามารถทำได้โดยบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพียงลำพัง นอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว เราต้องนำจุดแข็งของทุกคนมารวมกัน"
"วันนี้ Toyota มีความยินดีที่จะประกาศความร่วมมือกับ CP ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซีพี มีส่วนร่วมในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุด รถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิง กับเทคโนโลยีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์อื่นๆจะเหมาะสมกับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ และใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบใหม่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการขนส่ง ตรวจสอบวิธีการจัดส่งสำหรับสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน เพื่อลดการปล่อย CO2 นอกจากนี้ เราจะขยายการใช้ชีวมวลผลิตก๊าซไฮโดรเจน เช่น มูลสัตว์ปีก ซึ่งซีพีกำลังดำเนินการอยู่ และทำงานร่วมกันเพื่อ สร้างไฮโดรเจนที่สะอาด Toyota และ CP มีความมุ่งมั่นในภารกิจที่จะช่วยเหลือประเทศที่สวยงามแห่งนี้ และโลกใบนี้ เพื่อนำความสุขมาสู่ผู้คน นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากจะรวมจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะมีส่วนร่วมต่อไป สมาชิกของ Commercial Japan Partnership Technologies (CJPT) รวมถึง Daihatsu, Suzuki, Isuzu และ Hino จะเข้าร่วม ในความร่วมมือครั้งนี้ CJPT ก่อตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับอนาคตของการขับเคลื่อนร่วมกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ การรวมตัวกันและพยายามทำงานร่วมกันเพื่อลด CO 2
เราจะดำเนินการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นและช่วยเหลือคนไทยต่อไป อาจเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่ไม่มีอะไรทำให้เรานึกถึงประเทศไทยได้มากไปกว่าน้ำท่วมในปี พ.ศ. 2554 ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของทุกคนที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทำให้ Toyota มีความเชื่อมั่นในอนาคตของประเทศไทย นั่นคือเหตุผลที่ Toyota ได้เพิ่มการลงทุนในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่นั้นมา อนาคตของ Toyota และประเทศไทยนั้นสดใส และจะสว่างขึ้นไปอีก ผมเชื่ออย่างนั้น ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา Toyota ได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านเป็นอย่างดี และเราหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทุกท่านไปอีก 60 ปีข้างหน้า เราสัญญาว่าจะทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อเป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่รักของทุกคน
ผมอยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อทุกท่านอีกครั้ง สำหรับความพยายามของพวกคุณ (พนักงาน Toyota) คุณคือสมาชิกที่มีค่าของครอบครัว Toyota ทั่วโลก เป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับรอยยิ้ม
สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ภูเขาและแม่น้ำที่อยู่เบื้องหน้าเราอาจมีชื่อเรียกต่างกัน แต่เราทุกคนมีดวงอาทิตย์และท้องฟ้าดวงเดียวกัน และเราต่างก็ปรารถนาความปรองดองและความสุขในโลกนี้ เรามีความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด เมื่อมองไปยังอีก 60 ปีข้างหน้า เราหวังที่จะวาดภาพความฝัน ลงมือทำเพื่อให้เป็นจริง และเป็นตัวตนที่สังคมต้องการต่อไป มาสร้างอนาคตด้วยกัน ขอบคุณสำหรับวันนี้.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/