Porsche Cayman S Black Edition สปอร์ตคาร์เครื่องยนต์วางกลางลำขนาดกระทัดรัดของค่ายม้าป่าจากสตุ้ดการ์ด มาพร้อมกับขุมพลังที่มากกว่าเดิมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน...

เมืองสตุตการ์ต Poesche AG. พร้อมเผยโฉมเคย์แมนรุ่นพิเศษใหม่ต่อจากเคย์แมน เอส (Cayman S) แล้ว นั่นคือเคย์แมน เอส แบล็ค อิดิชั่น (Cayman S Black Edition) ที่จะออกมาอวดโฉมอย่างเป็นทางการภายในเดือนกรกฎาคม 2011 นี้เป็นต้นไป

รถยนต์สปอร์ตคูเป้เครื่องยนต์วางกลางลำรุ่นพิเศษนี้ มีจำนวนจำกัดอยู่แค่เพียง 500 คันเท่านั้น บนสายการผลิตซึ่งใช้รูปแบบลิมิเต็ดอีดิชั่น ขุมพลังที่มากขึ้นและมีอุปกณ์เสริมติดตั้งที่เพียบพร้อม รถเคย์แมน เอส แบล็ค อีดิชั่น (Cayman S Black Edition) คันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.4 ลิตร 6 สูบนอนพร้อมด้วยขุมพลังที่เพิ่มเรี่ยวแรงกว่าเดิมถึง 10 แรงม้า (7 กิโลวัตต์) นั่นคือ 330 แรงม้า (243 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 7,400 รอบต่อนาที (เพิ่มขึ้นอีก 200 รอบต่อนาที) ส่วนแรงบิดสูงสุดนั้นยังคงอยู่ในอัตราเดิม ซึ่งอยู่ในระดับที่เหนือชั้นอยู่แล้วนั่นคือ 370 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 4,750 รอบต่อนาที

...


พลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถยนต์สปอร์ตสองที่นั่งสีดำคันนี้ได้อย่างดีเยี่ยม อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง) อยู่แค่เพียง 5.1 วินาที หากติดตั้งระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ซึ่งถือได้ว่ามีการพัฒนาขึ้นกว่าเดิมและหากติดตั้งระบบส่งผ่านกำลังหรือระบบเกียร์อัตโนมัติแบบอัจฉริยะของปอร์เช่ (Porsche Doppelkupplungsgetriebe PDK) ที่เป็นอุปกรณ์เสริมด้วยแล้ว อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น จะอยู่แค่เพียง 5.0 วินาทีเท่านั้น อัตราเร่งนี้สามารถลดลงได้อีกเหลือแค่ 4.8 วินาทีหากติดตั้งด้วยระบบการควบคุมการออกตัว Launch Control ที่ทำงานผ่านระบบ Sport Chrono package ที่พร้อมให้เลือกติดตั้งเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงสุดของ เคย์แมน เอส แบล็ค อีดิชั่น (Cayman S Black Edition) เร็วขึ้นกว่าเคย์แมน เอส (Cayman S) ถึง 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (1.24ไมล์ต่อชั่วโมง) นั่นคือ 279 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับเกียร์ธรรมดาและ 277 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหากติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ PDK

...


ปอร์เช่เคย์แมน เอส แบล็ค อีดิชั่น (Porsche Cayman S Black Edition) คันนี้เต็มไปด้วยความปราดเปรียวแบบสปอร์ตและมีรูปลักษณ์ที่ดูคล่องตัวมากขึ้น ด้วยขนาดของล้อ 19 นิ้ว ลาย Boxster Spyder ถือได้ว่าใหญ่กว่าล้อมาตรฐานของเคย์แมน เอส (Cayman S) ธรรมดาหรือล้อลาย Cayman S ถึง 1 นิ้วและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่กว้างกว่าล้อขนาด 19 นิ้วอื่นๆ ของรุ่นเคย์แมน เอส (Cayman S) ถึงครึ่งนิ้ว ส่วนยางมีขนาด 235/35 ZR 19s บนเพลาหน้าและ 265/35 ZR 19s บนเพลาหลัง

...


ด้วยอุปกรณ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและพร้อมใช้งานเหล่านี้ทำให้เคย์แมน เอส แบล็ค อิดิชั่น (Cayman S Black Edition) สามารถเติมเต็มทุกความต้องการของผู้ขับขี่ อาทิ ระบบไฟหน้าแบบไบซีนอล (Bi-Xenonheadlights) ที่มาพร้อมกับระบบไฟเมื่อยามขับเข้าโค้งและระบบไฟกลางวันแบบ LED Daytime Runing กระจกภายในและภายนอกที่ใช้คุณสมบัติป้องกันการสะท้อนของแสงเมื่อตกกระทบ ซึ่งทำงานร่วมกับชุดเซ็นเซอร์น้ำฝน สำหรับเบาะนั่งที่รองรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทางด้านหน้าจะมาในรูปแบบหนังแท้ผสมหนังเทียม (Partial Leather Seats) สีดำ พร้อมด้วยโลโก้ปอร์เช่ที่ประดับอยู่บนที่พักศีรษะ ระบบควบคุมอุณหภูมิ (Climate control) จะอำนวยให้เกิดอุณหภูมิที่สะดวกสบายต่อผู้โดยสาร ห้องโดยสารของผู้ขับขี่ในเคย์แมน แบล็ค อีดิชั่นคันนี้ยังติดตั้งพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต (Sport Design steering wheel) และระบบควบคุมการขับเคลื่อน (Cruise control) เพื่อการขับขี่บนความเร็วที่คงที่และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายในการขับเดินทางไกล

...


ทุกๆรายละเอียดที่อยู่ในรถยนต์สปอร์ตคูเป้รุ่นผลิตในจำนวนจำกัดคันนี้ เต็มไปด้วยหลักการของการใช้สีเข้ามาเติมแต่งเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัดที่อยู่ในรูปแบบสีดำสนิท ก้านเกียร์และขอบแผงหน้ารถต่างเป็นสีดำเช่นกัน กาบประตูทำมาจากเหล็กสแตนเลสและประดับด้วยตัวอักษรคำว่า Black edition ฝาช่องเก็บสัมภาระยังติดตั้งเหล็กที่สลักให้เห็นถึงความเป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นรถสปอร์ตเครื่องวางกลางลำตัวคันนี้ยังติดตั้งระบบเสียงให้ความบันเทิงแบบ SoundPackage Plus และความบันเทิงต่างๆ ภายในรถจะถูกควบคุมโดยระบบการจัดการการสื่อสารของปอร์เช่หรือ Porsche Communication Management (PCM) นั่นเอง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบต่างๆ อาทิเช่น ระบบค้นหาเส้นทาง ระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตความเร็วสูง ระบบเสียงอินเตอร์เฟช (AUX, USB, iPod) อีกทั้งโทรศัพท์มือถือยังสามารถควบคุมผ่านระบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน

โดยรวมแล้ว เคย์แมน เอส แบล็ค อีดิชั่น (Cayman S Black Edition) เพรียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายตามรูปแบบของจักรกลสปอร์ต ซึ่งเป็นงานวิศวกรรมยานยนต์จากเยอรมันที่ Porsche มีความถนัดอยู่แล้ว แพคเกจให้ความบันเทิงและแพคเกจดีไซน์ต่างๆ ที่ลงตัวให้กับลูกค้าได้เลือกใช้ ทำให้มันกลายเป็นสปอร์ตคาร์ขนาดเล็กที่ครบเครื่อง ร้อนแรงด้วยสีดำดุดันและทรงพลังจากเครื่องยนต์สูบนอนที่ปรับปรุงใหม่ สมกับการเป็นรถ Sport Mid-Engine 2 ที่นั่งรุ่นเล็กในค่ายม้าป่าแห่งสต็ุกการ์ตอย่างแท้จริง.