นายกณพ ศุภมานพ หัวหน้าธุรกิจสติกเกอร์ ไลน์ ประเทศไทย (LINE) เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่าธุรกิจสติกเกอร์ LINE ซึ่งผู้ใช้ต้องเสียเงินเพื่อดาวน์โหลดหรือ (Paid Sticker) จะเติบโตได้ 35% จากเมื่อปีที่ผ่านมาที่ทำอัตราเติบโตได้ 30% ทำให้ธุรกิจขายสติกเกอร์ถือเป็น 1 ใน 3 ของธุรกิจที่ทำรายได้สูงสุด ของ LINE ประเทศไทย
“ธุรกิจสติกเกอร์ของ LINE แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.สปอนเซอร์ สติกเกอร์ ซึ่งเป็นสติกเกอร์ของผู้ประกอบการที่ต้องการโฆษณาสินค้าและบริการ 2.ฟรีสติกเกอร์ ซึ่ง LINE ทำเองเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการของ LINE และ 3.สติกเกอร์เพื่อการขาย (Paid Sticker) ซึ่งแบ่งเป็นสติกเกอร์ของบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือดารา (official sticker) และสติกเกอร์ของคนทั่วไปที่ต้องการขายสติกเกอร์ร่วมกับ LINE (creator sticker) โดยเมื่อปีที่ผ่านมามียอดดาวน์โหลดสติกเกอร์ LINE ในประเทศไทยทั้งสิ้น 500 ล้านครั้ง และเป็นการดาวน์โหลดสติกเกอร์ที่ต้องเสียเงินมากกว่า 15 ล้านครั้ง”
นายกณพกล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจสติกเกอร์จะเติบโตขึ้นสอดคล้องกับความพยายามที่จะส่งเสริมให้มีผู้ออกแบบ (creator) สติกเกอร์ให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีผู้ออกแบบราว 100,000 ราย โดยผู้ออกแบบได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 80% ของรายได้สุทธิจากการขายสติกเกอร์ ส่วน LINE ขอส่วนแบ่งที่เหลือ 20% และ LINE มีแผนที่จะสร้างความสะดวกในการชำระเงินค่าสติกเกอร์ให้มากขึ้น จากเดิมต้องชำระผ่านบัตรเครดิตหรือผ่านบิลของค่ายมือถือ เป็นเพิ่มช่องทางชำระด้วยเงินสด และสติกเกอร์เพื่อการขายที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ สติกเกอร์หนูหิ่น สติกเกอร์น้องเป่าเปา ที่มียอดดาวน์โหลด 120,000 ครั้ง และ 60,000 ครั้ง ตามลำดับ รวมทั้งสติกเกอร์ของแจ๊ส ชวนชื่น, hello Sandy Noona hello Sunny และ Bear Please ent from my Huawei Mobile
...