นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดวันแรกหลังหยุดเทศกาลสงกรานต์เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 34.33 บาทต่อ

ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในรอบ 21 เดือน ปัจจัยหลักเกิดจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาส่งสัญญาณว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเกินไป ตลาดเงินทั่วโลกจึงตอบรับต่อกระแสข่าว ทำให้ค่าเงินทุกสกุลแข็งค่าขึ้น

ขณะที่แนวโน้มของค่าเงินบาท คาดว่าจะไม่แข็งค่าทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ การแข็งค่าของเงินบาทรอบนี้ ผู้ประกอบการส่งออกไม่ค่อยออกมาเรียกร้อง เนื่องจากเมื่อเทียบกับภูมิภาคแล้วพบว่าเงินบาทมีอัตราการแข็งค่าขึ้นอยู่ระดับกลางๆ หรือแข็งค่าขึ้น 4.5% ขณะที่เงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น 8% ฯลฯ และผู้ส่งออกส่วนใหญ่ก็ได้ซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าว โดยก่อนที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นก่อนที่จะไปถึง 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ธปท.ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงิน ซึ่งตลาดการเงินเชื่อว่า ธปท.จะ
ไม่ปล่อยให้แข็งค่าทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และ ธปท.ก็ต้องการให้ภาคเอกชนมีการบริหารจัดการ ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ค่าเงินบาทตลอดทั้งปีนี้จะเคลื่อนไหวเฉลี่ย 35-36 บาทต่อดอลลาร์.