ตลาดผลไม้นำเข้าในประเทศไทย นับว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นกรณีศึกษาธุรกิจที่ต้องเร่งปรับตัวตลอดเวลาในสภาพเศรษฐกิจที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ผู้ประกอบการมองกันว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคทั่วไปยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นเมื่อไร
ดังเช่นบริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลไม้อันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าผลไม้จากประเทศจีนและขยายการนำเข้าจากหลายๆประเทศ อาทิ ประเทศแถบแอฟริกาและนิวซีแลนด์ ตอบรับกับกระแสสภาพสังคมของเมืองไทย กลุ่มผู้บริโภคมีความรู้และมีความสนใจบริโภคผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น
แต่เมื่อกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางลงมาถึงระดับล่างได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ยังผลให้กำลังซื้อลดลงจนทำให้ผู้นำเข้ารายใหญ่นี้ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด โดย นางสาววิภาวี วัชรากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด กล่าวว่า แม้ว่ากลุ่มผู้บริโภคนิยมเดินในห้างสรรพสินค้าแต่ไม่ได้จับจ่ายซื้อสินค้ากัน จึงมารีวิวกันว่าจะหันมาจับตลาดพรีเมียมกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เพียงแต่ว่าจะหากลุ่มพวกนี้เจออย่างไร และนำเข้าผลไม้พรีเมียมและมีแบรนด์จากต่างประเทศซึ่งต้องทำการตลาดและโปรโมชั่นอย่างหนัก
...
ทั้งนี้ กลยุทธ์การหันมาจับลูกค้าระดับสูงเริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมากับหาโอกาสตลาดใหม่ๆ กับผลิตภัณฑ์ผลไม้นำเข้า อาทิ แอปเปิ้ล, เชอรี่, สตรอเบอรี่, ลูกพลับ และขยายช่องทางจำหน่ายปลีกจาก เทสโก้, บิ๊กซี, แม็คโครไปยังซุปเปอร์มาร์เกตของเดอะมอลล์กรุ๊ป ทั้งโฮมเฟรชมาร์ท และกูร์เมต์ มาร์เก็ต ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับออกมาดีทำให้ผลการดำเนินการของบริษัทกลับมามีอัตราเติบโตในระดับ 5%
ในปีนี้ก็ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์นี้ เพราะผู้บริโภคในกรุงเทพฯเริ่มมีความรู้เกี่ยวกับผลไม้นำเข้าพรีเมียมกับรสชาติและคุณภาพ และมีความรู้ถึงฤดูกาลของผลไม้ ยอมจ่ายเงินให้คุ้มค่า คุ้มราคา ขณะเดียวกัน บริษัทต้องเร่งจัดกิจกรรมและโปรโมตขายตรงเพื่อสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น
“สินค้าที่นำเข้าในปัจจุบัน แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ องุ่น, แอปเปิ้ล, เบอรี่ จำพวก สตรอเบอรี่, เชอรี่ และส้ม บริษัทมีระบบจัดการเก็บรักษาประสิทธิภาพสูง และสามารถกระจายผลผลิต ไปจำหน่าทั่ว ถึง โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณสี่แยกท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดศูนย์ กลางของภาคอีสาน มูลค่า 60 ล้านบาท โดยมีสินค้าชูโรง คือ แอปเปิ้ลแจ๊สแอปเปิ้ลสายพันธุ์ใหม่นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เอกลักษณ์เด่น คือ สามารถคงความสด-กรอบตลอดทั้งปี มีรสชาติเข้มข้น กรอบกว่า อร่อยกว่า และมีจุดขายคือมีผลผลิตตลอดทั้งปีจนเป็นที่นิยมในยุโรปและสหรัฐอเมริกา”
พร้อมกับขยายตลาดขายส่งไปในต่างจังหวัด ช่วยโปรโมตให้บรรดาพ่อค้าและแม่ค้ามีกำลังใจในการขายผลไม้นำเข้าพรีเมียม ทำยังไงให้เขาทราบว่าไม่ได้เป็นผู้ลงทุนฝ่ายเดียว ได้จัดทีมเข้าไปช่วยโปรโมตและย้ำถึงสโลแกน “ขายไว กำไรดี” นับเป็นตลาดที่ใหญ่มากหากตรงนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่ง นับว่ายากทีเดียว เพราะผู้บริโภคนอกเหนือจากที่คุ้นเคยกับผลไม้ตามฤดูกาลของไทยแล้วยังคุ้นเคยกับผลไม้จากประเทศจีนที่มีดีที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว
ตลาดผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ผลไม้จีนมีสัดส่วนประมาณ 4,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นผลไม้นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐฯ, ชิลี, เปรู, เกาหลีและญี่ปุ่น เป็นต้น
“สถานการณ์เศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจ จากต้นปีวางเป้าหมายการเติบโตที่ 10% แต่เกือบ 4 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น เราจึงได้ลดเป้าหมายลงเหลือการเติบโต 5% แต่ต้อง ทำงานหนักมากขึ้น มีกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปี”
...
ส่วนสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2560 เป็นผลไม้นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ แบรนด์ “อิพมาชุม” แบรนด์ชั้นนำ อันดับ 1 ของประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ สตรอเบอรี่จุ๊กฮยัง, สตรอเบอรี่ซอลฮยัง, ส้มแมนดาริน (ซองเฮอยัง), ส้มเซจู (ฮัลลาบง) และนำเข้าผลไม้จากแบรนด์ดอสคอย จากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ แอปเปิ้ลซันฟูจิ, แอปเปิ้ลโอริน
ในปีนี้ทางบริษัทจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อสร้างสีสันบรรยากาศให้กับตลาดสร้างความทันสมัยตรงกับเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และตอกย้ำกลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อความสำเร็จในตลาดพรีเมียมผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศนี้!!
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th