นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ ไลน์ (Line) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ไลน์ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเวลาในการใช้ไลน์ให้มากขึ้น จากปัจจุบันเฉลี่ยประมาณคนละ 70 นาทีต่อวัน รวมทั้งกระตุ้นให้มีการใช้บริการต่างๆบนไลน์ ได้มากเท่าเทียมกับบริการแชต (สนทนา) บริการยอดนิยมของไลน์ ซึ่งมีผู้ใช้ในไทยอยู่ทั้งสิ้น 41 ล้านราย

ทั้งนี้ ปัจจุบันฐานผู้ใช้งานไลน์ในไทย ซึ่งมี 41 ล้านรายนั้น ถือเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น เข้ามาให้บริการในไทยตั้งแต่ปี 2557 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันนอกจากบริการแชตแล้ว ไลน์ยังแตกแขนงธุรกิจให้บริการครอบคลุมหลากหลาย ได้แก่ ไลน์เกม, ไลน์แมน-บริการส่งอาหาร, ไลน์ทีวี, ไลน์เพย์-ช่องทางชำระสินค้าและค่าบริการ, ไลน์ทูเดย์-บริการข่าวสาร เป็นต้น

นายอริยะกล่าวว่า ไลน์มีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางของบริการหลากหลาย ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตร เพราะไลน์ไม่สามารถทำทุกอย่างเองได้ แต่มีแพล็ตฟอร์มที่เข้าถึงผู้ใช้ถึง 41 ล้านคน โดยล่าสุดได้เปิดตัวบริการใหม่เพิ่มเติมในปีนี้ ครอบคลุมด้านการเงิน หุ้น บริการเรียกแท็กซี่ และค้นหาร้านอาหาร “เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกคน และการมาของไลน์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาแข่งกับคนทำธุรกิจเดิม แต่มาเพิ่มทางเลือกในการทำธุรกิจ ขณะนี้เทคโนโลยีมันเข้าไปฝังอยู่ในทุกอย่างแล้ว จะบอกว่าไม่เข้าใจไม่ได้แล้ว ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุค”

นายอริยะยังกล่าวอีกว่า ไลน์พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายไทย เนื่องจากทำธุรกิจในไทย ซึ่งปัจจุบันไลน์เป็นบริษัทไทย จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ในนามบริษัทไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2557 มีการเสียภาษีถูกต้อง รวมทั้งพร้อมที่จะนำไลน์ทีวีเข้าสู่ระบบ หากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องการจัดระเบียบบริการทีวีบนแอพพลิเคชั่นอย่างที่ไลน์ทีวีทำอยู่

...

โดยปัจจุบันไลน์ทีวีเริ่มทำรายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ที่ผ่านมา ขณะนี้ไลน์ทูเดย์ ซึ่งให้บริการข่าวสารในแต่ละวันนั้น น่าจะรับรู้รายได้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้ ส่วนรายได้หลักของไลน์ ยังอยู่ที่การขายสติกเกอร์ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามีการดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ในไทยไปทั้งสิ้น 500 ล้านชุด.