ไทยแลนด์ 4.0 มีความสำคัญต่อ นวัตกรรมทางการเงิน การลงทุน ที่จะพลิกโฉมหน้าและพฤติกรรมของผู้บริโภคไปสู่นวัตกรรมทันสมัย หรือที่ก่อนหน้านี้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย พยายามที่จะเข็นโครงการ พร้อมเพย์ ออกมาเพื่อลดการใช้เงินสด แม้จะมีข้อสังเกตเรื่องของความปลอดภัยทางการเงิน แต่ในส่วนของภาครัฐมีการนำร่องในการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานของรัฐไปแล้ว

ไม่ว่าอย่างไรในอนาคต ประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นนวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมด้วย นอกจากจะลดต้นทุนด้านการเงิน การคลัง จะต้องมีการพิมพ์ธนบัตรหมุนเวียนในตลาดเพื่อให้เกิดสภาพคล่องและยังลดขั้นตอนธุรกรรมทางการเงินให้สะดวกและคล่องตัวขึ้น

ในสภาพที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว การใช้จ่ายเงินที่หมุนเวียนในธนาคารต่างๆเพิ่มขึ้นทุกวัน ต้นทุนการบริหารจัดการ นับวันจะเพิ่มตามไปด้วย ยกตัวอย่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชี้แจงถึงผลการดำเนินการในปี 2559 ที่ผ่านมา สามารถปล่อยสินเชื่อได้ทั้งสิ้น 168,136 ล้านบาท สินเชื่อคงค้างรวม 936,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.85 คิดเป็นกำไรสุทธิ 9,616 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ทางการเงินและการดำเนินการธุรกรรมทางการเงินในปี 2560 ที่คาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ธอส.จำเป็นต้องวางแผนงานในการ พัฒนาคนและพัฒนาระบบเทคโนโลยี Transformation to Digital Services เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการแข่งขัน ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ให้ตรงตามเป้าหมาย

นำระบบ Business Solution และ Social Solution การดำเนินการ ตามแนวทางประชารัฐ ลดความเหลื่อมล้ำ ที่จะต้องมีการประสานงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขปัญหาอุปสรรคการพัฒนาขององค์กรควบคู่ไปด้วย เช่นการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ ลดหนี้เสีย ที่คาดว่าเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 178,224 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 6 โดยแผนการดำเนินงานทั้งหมด ฉัตรชัย ศิริไล ผจก.ธอส.ยืนยันว่า ทั้งสินทรัพย์รวมและจำนวนเงินฝากมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 8.63 และร้อยละ 7.48 ตามลำดับ

...

องค์กรในอนาคตที่ต้อง พึ่งพาเทคโนโลยีทางการเงินทุกรูปแบบ Financial Technology Fintech เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงของ Digital Economy อาทิ Digital Banking การปรับโครงสร้างองค์กร Re-Organization Structure & Digital Marketing ซึ่งจะต้องเริ่มต้นที่ การพัฒนา IT Frastructure พัฒนาทรัพยากรโดยรวมให้เกิดประโยชน์สูงสุด รองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต ทั้งด้านประสิทธิภาพ รวดเร็วและต้นทุนต่ำ

ไม่ว่าจะเป็นระบบ Core Banking System หรือ CBS ระบบ ERP ระบบ HR หรือ Mobile Application ที่เข้าถึงธุรกรรมการเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว หรือจะเป็นระบบ Line Application ติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับลูกค้าโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่โดยตรง เมื่อไปถึงจุดหนึ่งการขอสินเชื่อ การชำระหนี้ การตรวจสอบข้อมูลทางการเงินก็จะผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งองค์กรและสถาบันต่างๆจะต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 เต็มตัว.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th