ในที่สุด งานครบรอบ 45 ปี ของ มูลนิธิไทยรัฐ ซึ่งมี คุณจิตสุภา วัชรพล Co-CEO ไทยรัฐกรุ๊ป เป็นแม่งาน ก็จบลงไปด้วยความเรียบร้อย และ ประสบความสำเร็จชนิดที่เรียกว่า เกินคาด! 

เพราะได้ทั้งความเห็นที่ทรงคุณค่าในด้านการพัฒนาโครงสร้างการศึกษาของโรงเรียนไทยรัฐวิทยา จาก “คุณปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติมศักดิ์ ของ ธนาคารกสิกรไทย, คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แม่งานอย่าง คุณจิตสุภา ในฐานะรองประธานมูลนิธิไทยรัฐ

ตลอดจนถึงการส่งต่อความเห็น และมุมมองที่ผ่านการลงมือทำแล้วของผู้นำทางความคิดด้านการศึกษาทั้งสามท่านสู่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้เกียรติไปร่วมรับฟังการบรรยายเรื่องความสำคัญของระบบการศึกษาต่อเด็ก และ เยาวชนไทยที่จะเติบโตเป็นพลเมืองดีของชาติในอนาคต

จากความพยายามจะปิดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล และในถิ่นทุรกันดาร สู่การก่อตั้ง มูลนิธิไทยรัฐ ที่มีโรงเรียนไทยรัฐวิทยาในความดูแลถึง 111 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนในความอุปถัมภ์ (ลดลงเพราะการเกิดของประชากรลดจำนวนลง) กว่า 22,000 คน เราได้พบกับปัญหามากมาย...คุณจิตสุภา 

ขณะที่ “คุณปั้น” บัญฑูร ตอกย้ำว่า เราต้องให้โอกาสคนที่อยู่ระดับล่างลงไป คนยากจนที่ยังต้องปากกัด ตีนถีบ ได้รับการศึกษาเพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี และลืมตาอ้าปากได้ เพราะในทุกๆ จังหวัดของประเทศไทย การเข้าถึงระบบการศึกษายังเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องช่วยกันจัดการแก้ไข ทั้งเรื่องงบประมาณ สภาพการเรียนการสอน ตลอดจนถึงวิถีชีวิตของเด็กไทยที่ต้องประคับประคองชีวิตให้พวกเขาได้เข้าถึงการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการ และความสามารถของพวกเขา

...

ส่วน คุณศุภชัย ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยต้องเพิ่มศูนย์กลางการเรียนรู้มากขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก และเยาวชน ภายใต้ความร่วมมือ และช่วยเหลือกันของทุกภาคส่วนเพื่อให้เด็ก และเยาวชนไทยสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้อย่างเพียงพอ

CEO ใหญ่ของธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ผู้เป็นเจ้าของศูนย์กลางการเรียนรู้ที่รู้จัก กันดีในนาม “ทรู ปลูกปัญญา” นำเสนอหลักการ 5 ข้อ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ แนวทางที่ 1. เป้าหมาย และตัวชี้วัดด้านการศึกษา จะต้องโปร่งใสภายใต้หลักการสร้างจริยธรรม ควบคู่ไปกับ 2. กลไกตลาดต้องมีปฏิสัมพันธ์กันในระหว่างบ้าน โรงเรียน และสังคม

3. ครู และบุคลากรทางการศึกษา ต้องเป็นคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจต่อเด็ก และเยาวชน 4. ต้องรู้จักการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็ก และเยาวชนเพื่อให้ระบบการศึกษา รวมถึงเด็กไทย ได้รับการพัฒนาคุณภาพไปพร้อมๆ กัน และ 5. โรงเรียนต้องเป็นที่สร้างความปลอดภัยให้แก่เด็กๆ เสมอ ไม่ใช่แค่เป็นสถานที่เรียนหนังสือเท่านั้น

หลังเสร็จสิ้นการถกแถลงร่วมกันในหัวข้อเรื่องความสำคัญของระบบการศึกษาไทยที่ควรเป็นแล้ว คุณจิตสุภา ได้เปิดให้มีการประมูลของสะสม และของบริจาคจากผู้ใหญ่ใจดีในภาคธุรกิจเอกชนเพื่อระดมทุนให้แก่มูลนิธิไทยรัฐ และโรงเรียนไทยรัฐวิทยาในการนำไปใช้เพื่อการอุปภัมถ์นักเรียนในด้านต่างๆ ตั้งแต่การจัดหาคอมพิวเตอร์ให้ครู และเด็กๆ ใช้ในการเรียนการสอน รวมถึงการจัดหาทุนเพิ่มขึ้น ทั้งทุนการศึกษาเพื่อเด็กยากจน และกองทุนเพื่ออาหารกลางวันสำหรับเด็กเล็ก นอกเหนือจากที่มูลนิธิไทยรัฐจัดหาให้ในทุกปี

การประมูลโดย คุณริก้า ดีล่า แห่ง Phillips House บริษัทประมูลเก่าแก่กว่า 200 ปี... ดำเนินไปด้วยความเข้มข้น สนุกสนาน มีเสน่ห์ และรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถปิดการประมูลได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงจากของสะสมที่มีทั้งสิ้น 16 ชิ้น

การประมูลนี้ ยังปรากฏว่า มีนาฬิกาเก่าแก่ที่ราคาประมูลทำลายสถิติ “World record” ได้ถึง 2 เรือน คือ CARTIER TANK SOLO และ PATEK PHILIPPE รวมเป็นมูลค่าการประมูลที่ได้รับทั้งสิ้น 18 ล้านบาทเพื่อมอบให้แก่มูลนิธิไทยรัฐโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในการส่งมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็ก และเยาวชนกว่า 22,000 คนของโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ให้พวกเขามีสติปัญญา มีโอกาสในการมีชีวิตที่ดี และเติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า