แม่ค้าร้านส้มตำกาฬสินธุ์ วอนรัฐบาลควบคุมราคาสินค้า โอดราคามะละกอแพง พุ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี ขอให้สงสารผู้บริโภค

วันที่ 18 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลที่ร้านส้มตำชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากได้รับแจ้งมาว่าพ่อค้าแม่ค้าส้มตำในจังหวัดกาฬสินธุ์ ประสบปัญหาราคาวัตถุดิบแพงมากขึ้น โดยเฉพาะราคามะละกอ ที่แพงสูงสุดในรอบ 30 ปี ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องปรับกลยุทธ์การขาย และวอนขอให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคาสินค้า

จากการสอบถาม เจ๊แต๋ง เจ้าของร้านแต๋งส้มตำ บขส.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดร้านส้มตำมามากกว่า 30 ปี ปีนี้เพิ่งเจอราคามะละกอแพงที่สุด เป็นมะละกอพันธุ์ดำเนิน ราคาถุงละ 460 บาท (ถุงละ 10 กก.) เท่าที่จำได้ว่าราคามะละกอแพงที่สุดก็อยู่ที่ราคาถุงละ 200 บาท ปีนี้ราคาพุ่งสูงเกินเท่าตัว

ส่วนลูกค้าก็เข้าใจว่าเราซื้อวัตถุดิบมาแพง ก็ยอมรับที่ทางร้านต้องเพิ่มราคาขายส้มตำเพิ่มขึ้น 5-10 บาทต่อครก ปกติขายครกละ 30 บาท ก็ต้องปรับมาขายที่ราคา 35 – 40 บาท จึงต้องปรับกลยุทธและปรับตัวโดยการซื้อมะละกอพื้นบ้านมาผสมบ้าง ถ้าไม่ทำอย่างนั้นเราก็อาจจะขาดทุนไปเลยก็ได้ และไม่แพงแค่มะละกอเท่านั้น ทั้งเครื่องปรุงอย่าง มะนาว มะเขือเทศ พริก ทุกอย่างก็ปรับตัวขึ้นราคาพร้อมกันหมด บางส่วนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคามะละกอแพงนั้น เท่าที่ได้ยินมาจากแม่ค้าชาวขอนแก่นก็บอกว่าเกิดจากน้ำท่วมหรือไม่เราก็ไม่รู้ เพราะปกติสามารถสั่งออเดอร์มะละกอจากขอนแก่นได้ครั้งละเป็นตันก็ได้เพียงครั้งละ 10 ถุงเท่านั้น จึงอยากขอฝากให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคาสินค้า เพราะสงสารคนที่เคยซื้อกิน จากปกติที่ซื้อส้มตำ 30 บาท ไก่ย่าง 50 บาท ข้าวเหนียว 20 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 100 บาท ก็กินอิ่มได้แล้ว

...

แต่ปัจจุบันต้องควักเงินจ่ายเพิ่มเกือบถึงเท่าตัวถึงจะซื้อกินได้ หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยเพิ่มค่าครองชีพ เพื่อให้ประชาชนมีเงินรายได้เพิ่ม ควบคู่ไปกับราคาสินค้าในท้องตลาดที่สูงขึ้นไปพร้อมกันได้