ผู้สื่อข่าว Thairath Money เดินทางร่วมงาน “GITEX GLOBAL 2024” งานมหกรรมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 44 โดยการขับเคลื่อนหลักของแม่งานใหญ่อย่าง “Dubai World Trade Center” (DWTC) พร้อมด้วยหน่วยงานรัฐและองคาพยพในวงการนวัตกรรมเทคโนโลยีหลายภาคส่วนภายในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เพื่อร่วมกันแสดงศักยภาพและก้าวต่อไปของประเทศในฐานะผู้เล่นจากภูมิภาคตะวันออกกลางที่ต้องการมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกต่อจากนี้
ในปีนี้ GITEX GLOBAL นำเสนอธีม “Global Collaboration to Forge a Future AI Economy” พูดคุยกันถึง “บทบาทของ AI กับการปฏิวัติเศรษฐกิจและความร่วมมือระดับโลกเพื่อสร้างเศรษฐกิจ AI ในอนาคต”
ภายในงานรวบรวมยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี สถาบันวิจัย สุดยอดนักคิดจากทั่วโลกมาโชว์ผลงานและวิสัยทัศน์กว่า 6,500 ราย สตาร์ทอัพ 1,800 ราย นักลงทุน 1,200 ราย ร่วมกับรัฐบาลจากกว่า 180 ประเทศ พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมมากถึง 200,000 รายตลอดห้าวัน ซึ่งถือเป็นผู้เข้าร่วมงานระดับนานาชาติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่มารวมตัวกันที่ดูไบจากทุกทิศทั่วโลก
ทั้งนี้ GITEX GLOBAL ปักหมุดทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเชิงกลยุทธ์ดึงดูดนักลงทุนและผู้ที่ต้องการโอกาส ซึ่งรวบรวมหลายเวทีไว้ด้วยกัน ภายใน GITEX Editions และ World Future Economy Digital Leaders Summit เวทีผู้นำระดับสูงหารือแนวทางสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและการเชื่อมโยงบริษัทชั้นนำระดับโลกเพื่อส่งเสริมการสนทนาเกี่ยวกับกฎระเบียบ AI กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจและการเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ผู้เล่นระดับโลก AWS, Google, Microsoft, Nvidia, Oracle, Dell Technologies และ G42 รวมถึงบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย ตบเท้าจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดในด้าน AI, Cloud Computing, Data Center, Cyber Security, Edge Computing, และเทคโนโลยีอื่นๆ อาทิ Sustainability, Clean Energy, Automotive และ Smart Cities
พร้อมนำเสนอบทบาทของตัวเองในการสนับสนุนอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก โดยมีการคาดการณ์ว่าการลงทุนและข้อตกลงเชิงกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นจะเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก มูลค่าสูงถึง 1,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ตามข้อมูลของ Markets and Markets
สาระสำคัญจากเวทีผู้นำระดับสูงหัวเรือในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งกำลังเปลี่ยนผ่านจาก Rich-Oil-State ไปสู่ Non-Oil Economy นำโดย H.E. Abdullah Bin Touq Al Marri สมาชิกคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวปราศรัยต่อผู้ร่วมงานในหัวข้อ “Rise of the New Economy: AI & Emerging Industries”
ฉายภาพให้เห็นถึงความสำคัญของ AI ต่ออนาคตของเศรษฐกิจประเทศอย่างไร เขาเน้นย้ำถึงแผนริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของยูเออีที่ปักหมุดส่งเสริมเรื่อง AI และอื่นๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกด้วยเป้าหมายกำหนดตำแหน่งของประเทศให้เป็นผู้นำระดับโลกในเศรษฐกิจยุคใหม่
ยูเออีประสบความสำเร็จในการสร้างภาคส่วนที่เป็น Non-Oil Economy คิดเป็น 74% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศในปี 2024 โดยปัจจุบันสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังเร่งดำเนินการนำ AI มาใช้ในภาคส่วนต่างๆ อย่างแข็งขัน ในปีที่ผ่านมาตลาด AI ภายในประเทศมีมูลค่าโดยรวมกว่า 3,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนให้ได้ถึง 80% ภายในปี 2030 พร้อมเป้าหมายในการเป็นประเทศศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาสำหรับโลกอีกด้วย
การร่วมงานในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เห็นถึงการผลักดันเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีการเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน AI รวมถึงเทคโนโลยีคลาวด์ในท้องถิ่นที่ล้ำสมัย การพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถสูงจำนวนมาก
แต่รวมไปถึงบทบาทการเป็น “ระบบนิเวศเทคฯ ระดับโลก” และการเป็น “ประตูเกตเวย์” เชื่อมเงินทุนและทรัพยากร ปูทางไปสู่การสร้างความร่วมมือข้ามภูมิภาคระหว่างประเทศชั้นนำและประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะภูมิภาคแอฟริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ระบบนิเวศ AI กำลังเติบโตสูงอย่างโดดเด่น
Trixie LohMirmand รองประธานบริหารของ DWTC ซึ่งเป็นเจ้าภาพผู้จัดงาน เปิดเผยว่า เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของ GITEX GLOBAL คือ การสร้างมาตรฐานใหม่ของเครือข่ายเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมุ่งสานต่อการทำงานร่วมกันและขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อกำหนดภูมิทัศน์ด้านเทคโนโลยีในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
"ในปีถัดไปเราจะขยายการจัดงานไปทั่วโลกตอกย้ำเครือข่ายงานเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีกรอบการทำงานที่แข็งแกร่งในการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ได้แก่ GITEX EUROPE Berlin, GITEX AFRICA Morocco, GITEX NIGERIA และ GITEX ASIA Singapore ประเทศที่จะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายที่จะเชื่อมโยงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทยที่จะเป็นเจ้าภาพสถานที่ร่วมจัดงาน GITEX 5.0 DIGI_HEALTH THAILAND (Co-Creative a Most Innovative & Digital Focused Future Health Economy of Thailand) ในวันที่ 10-12 กันยายน 2025 เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยที่ภาครัฐและผู้ให้บริการมีการตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยีการแพทย์รวมถึงด้านอุตสาหกรรมเวลเนสที่เติบโตสูงและได้รับการยอมรับในระดับโลก"
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -