หลังถูกจับตาเรื่องความเป็นส่วนตัวและถูกต่อต้านจากหน่วยงานกำกับดูแลมาอย่างต่อเนื่อง Meta ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียชื่อดัง ประกาศว่าบริษัทกำลังทดสอบระบบยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Face Recognition) เพื่อปราบปรามบัญชีเซเลบริตี้ปลอม
Meta เรียกพฤติกรรมดังกล่าวว่า “Celeb-Bait Ads” หรือโฆษณาที่ใช้คนดังเป็นตัวล่อ โดยผู้ไม่หวังดีจะใช้รูปภาพของเหล่าเซเลบริตี้มาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ดึงดูดให้คนทั่วไปคลิกไปที่โฆษณา ซึ่งจะเชื่อมโยงยังเว็บไซต์ต้องสงสัยที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงฝังลิงก์ที่นำไปสู่การติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงินบนอุปกรณ์นั้นๆ
ทั้งนี้ Face Recognition จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบยืนยันตัวตนแบบใหม่ของแพลตฟอร์ม โดยจะทำการเปรียบเทียบรูปภาพต้องสงสัยที่พบกับรูปภาพจริงจากบัญชี Facebook หรือ Instagram ของคนดัง โดย Meta กล่าวว่าเบื้องต้นจะทำการลงทะเบียนบัญชีของบุคคลสาธารณะกว่า 50,000 คนเพื่อทดลองระบบในการเปรียบเทียบภาพโปรไฟล์กับรูปภาพที่น่าสงสัยแบบอัตโนมัติ หากตรวจพบว่าเป็นแอคเคาน์ปลอมและ Meta เชื่อว่าโฆษณานั้นเป็นสแปม Meta จะทำการบล็อกโฆษณานั้นๆ ทันที
Monika Bickert รองประธานฝ่ายนโยบายเนื้อหาของ Meta ระบุว่า ระบบดังกล่าวผ่านกระบวนการตรวจสอบความเป็นส่วนตัวและการประเมินความเสี่ยงที่เข้มงวดของบริษัท รวมถึงหารือกับหน่วยงานกำกับดูแล ผู้กำหนดนโยบาย และผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวภายนอกก่อนที่จะเริ่มการทดสอบ ภายใต้การทดลองใหม่นี้ บริษัทกล่าวว่าจะลบข้อมูลใบหน้าใด ๆ ที่สร้างขึ้นจากการเปรียบเทียบกับภาพต้องสงสัยทันที โดยไม่คำนึงว่าจะตรวจพบกลลวงหรือไม่
ก่อนหน้านี้ในปี 2021 Meta ปิดระบบจดจำใบหน้าและทำการลบข้อมูลการสแกนใบหน้าของผู้ใช้กว่าหนึ่งพันล้านคน โดยอ้างถึง “ความกังวลของสังคมที่เพิ่มมากขึ้น” หลังจากบริษัทถูกฟ้องร้องครั้งใหญ่ในข้อหารวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกอย่างผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน Meta ยังล้มเหลวในการป้องกันสแกมเมอร์ที่สร้างโฆษณาหลอกลวงด้วยการใช้รูปภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียงในการหลอกลวงผู้ใช้ ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลทั่วโลก
นอกจากนี้ Meta ยังระบุถึงการใช้ข้อมูลการจดจำใบหน้าในรูปแบบภาพวิดีโอเซลฟี่ใบหน้า (Video Selfie) เพื่อยืนยันตัวตนในการล็อกอินเข้าบัญชี สำหรับบัญชีที่ละเมิดกฎของแพลตฟอร์มหรือถูกระงับอัตโนมัติจากการตรวจพบการละเมิดด้านเนื้อหาบางประการ รวมถึงการเข้าถึงบัญชีที่ถูกแฮ็กเกอร์เจาะระบบ หรือถูกล็อกเนื่องจากลืมรหัสผ่านได้อีกครั้ง
โดยผู้ใช้ที่ถูกล็อกบัญชีส่งภาพวิดีโอเซลฟี่ของตนเองเพื่อเข้าระบบได้ทันที เมื่อถูกล็อกไม่ให้เข้าถึงบัญชีของตนเอง จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ที่ถูกล็อกบัญชีจะต้องส่งเอกสารยืนยันตัวรูปแบบอื่นๆ เช่น บัตรประจำตัวหรือใบรับรองที่สร้างความซับซ้อนให้กับผู้ใช้ โดย Meta จะทำการเปรียบเทียบวิดีโอกับรูปภาพในบัญชีเพื่อดูว่าตรงกันหรือไม่ และจากนั้นจะทำการลบข้อมูลใบหน้าทั้งหมดทันทีหลังจากการยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -