ทางการสหรัฐฯ เตรียมฟ้อง Visa ฐานผูกขาดตลาดบัตรเดบิต กีดกันการแข่งขัน เก็บค่าบริการสูงเกินควร

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทางการสหรัฐฯ เตรียมฟ้อง Visa ฐานผูกขาดตลาดบัตรเดบิต กีดกันการแข่งขัน เก็บค่าบริการสูงเกินควร

Date Time: 25 ก.ย. 2567 16:58 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง Visa ด้วยข้อกล่าวหาว่าขัดต่อกฎหมายต่อต้านการผูกขาด โดย Visa ผูกขาดตลาดบัตรเดบิต กีดกันการแข่งขัน คุกคามร้านค้า และเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้บริการสูงเกินควร หลัง Visa ครองตลาดบัตรเดบิตสหรัฐฯ กว่า 60% และทำรายได้จากค่าธรรมเนียมอีกกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Latest


กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง Visa บริษัทผู้ให้บริการนวัตกรรมทางการเงินรายใหญ่ของโลก ด้วยข้อกล่าวหาว่าขัดต่อกฎหมายต่อต้านการผูกขาด โดย Visa ผูกขาดตลาดบัตรเดบิต กีดกันการแข่งขัน คุกคามร้านค้า และเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้บริการสูงเกินควร

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้ว่า ปัจจุบัน Visa มีสัดส่วนของบริการกลุ่มบัตรเดบิตในตลาด Payment ของสหรัฐอเมริกามากกว่า 60% ส่งผลให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมส่วนนี้กว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทางอัยการยังกล่าวหาอีกว่า Visa ได้มีการทำข้อตกลงกับผู้ออกบัตรเดบิต ร้านค้า และคู่แข่ง

โดย Visa จะมีการบังคับให้ร้านค้าใช้งานแต่เครือข่ายของ Visa เพียงอย่างเดียว โดยจะกำหนดข้อตกลงพิเศษที่เอาโทษร้านค้าที่ไปใช้งานเครือข่ายอื่น เพื่อเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดแต่เพียงผู้เดียว

ทาง Visa ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อประเด็นนี้ว่า “ธุรกิจและลูกค้าเลือก Visa เพราะเรื่องของความปลอดภัย และมีเครือข่ายที่น่าเชื่อถือ” และจะสู้คดีอย่างเต็มที่ในศาล

ด้านลูกค้าและร้านค้าที่ใช้งานเครือข่ายของ Visa เคยออกมาร้องทุกข์เรื่องบริการของ Visa ที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมสูงเกินไป และจากประเด็นที่ Visa มีการเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมนั้น ส่งผลให้เกิดข้อกล่าวหานี้ขึ้น นอกจากนี้ Visa ยังถูกกล่าวหาอีกว่าได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ให้บริการทางการเงิน อย่างเช่น Apple และ PayPal เพื่อให้ Visa ยังคงเป็นเจ้าใหญ่ผู้ให้บริการทางการเงินในตลาด

อย่างไรก็ตาม PayPal และ Apple ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในข้อกล่าวหาที่เกิดกับ Visa ในครั้งนี้

จากข้อมูลล่าสุด ในปี 2023 Visa สามารถทำรายได้ไปมากถึง 32,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 11% เนื่องมาจากยอดการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 ปีก่อน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เคยยื่นฟ้อง Visa เพื่อไม่ให้เข้าควบรวมกิจการกับ Plaid สตาร์ทอัพผู้พัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน จนทำให้ดีลมูลค่ากว่า 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐต้องพับไป และคดีก็ถูกยกฟ้องไป

นอกจาก Visa แล้ว หากลองมองถึงข้อพิพาทและการยื่นฟ้องโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงิน ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ของ Apple Pay ที่ Apple ถูกฟ้องในข้อกล่าวหาผูกขาดตลาดการบริการ โดยปิดกั้นไม่ให้ผู้ให้บริการเจ้าอื่นใช้งาน Tap-to-Pay บนอุปกรณ์ Apple แต่ให้บริการแต่ของตัวเอง จนล่าสุด Apple ได้ออกมาปรับบริการใหม่ เปิด API และ NFC ให้ผู้ให้บริการทางการเงินเจ้าอื่นมาพัฒนาบริการนี้ได้

ที่มา: Reuters, CNNeMarketer

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ