ปัจจุบัน TikTok มีจำนวนผู้ใช้ในภูมิภาคอาเซียนรวม 325 ล้านราย รวมถึงมีภาคธุรกิจกว่า 15 ล้านรายที่ดำเนินธุรกิจบนแพลตฟอร์มของ TikTok ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน TikTok มีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านรายที่สร้างรายได้จาก TikTok มีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ
จากการสำรวจพบว่า พฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ The Bargain Hunters - นักช้อปผู้ล่าสินค้าราคาถูก, The Inspirational Shoppers - นักช้อปผู้สร้างแรงบันดาลใจ, The Effortless Shoppers - นักช้อปที่เน้นความสะดวก และ The Purposeful Shoppers - นักช้อปที่มีเป้าหมายชัดเจน
มากไปกว่านั้นพบว่าพฤติกรรมนักช็อปในไทยเชื่อมโยงกับเทรนด์ “Shoppertainment” ที่ผสานความบันเทิงกับการช้อปปิ้ง เป็น Economic Engine ขับเคลื่อนทั้ง Digital Economy และ Creative Economy ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “ช้อปปิ้งกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของผู้บริโภคไทย”
ข้อมูลจาก Kantar ระบุว่า คนไทย 77% ช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยพบว่าในช่วงสิ้นปีที่แล้วนักช้อปบน TikTok มียอดการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 14,000 บาทในทุกเทศกาลเซล
ข้อมูลจาก TikTok ในช่วงมหกรรม Mega Sales ในปีที่ผ่านมา พบว่า 89% ของผู้ใช้ TikTok เลือกช้อปสินค้าในช่วง Mega Sales และปีนี้มีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับยอดขาย (GMV) ของแบรนด์และร้านค้าผ่านช่องทาง Live Commerce ใน TikTok Shop ที่เพิ่มขึ้นถึง 140% ในช่วง Mega Sales เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาปกติ นอกจากนี้การดูคลิปวิดีโอบน TikTok ยังส่งผลต่อพฤติกรรมการช้อปสินค้าของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงแคมเปญ 8.8 ที่ผ่านมาเราเติบโตเคียงข้างธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่อง TikTok Shop มียอด GMV เพิ่มขึ้นถึง 500% ผ่านช่องทางการซื้อสินค้าผ่าน Livestream นอกจากนี้ Shop Tab ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดตัวเมื่อปี 2023 เพื่อให้ความสะดวกแก่ลูกค้าในการค้นหาสินค้าที่ต้องการอย่างรวดเร็ว มียอดการเติบโตสูงถึง 100% ขณะที่ยอดผู้ขายที่ลงทะเบียนเป็นร้านค้าใน TikTok Shop Mall เองก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ส่งผลให้ยอด GMV ของ TikTok Shop Mall มีการเติบโตถึง 18 เท่า
กรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์, Head of FMCG, E-Commerce - TikTok Shop Thailand เปิดเผยว่า TikTok Shop เป็น Entertainment First Shopping Platform ที่นำเสนอข้อมูลและประสบการณ์การช้อปแบบอินเตอร์แอคทีฟ และได้เข้ามาเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ One-Stop Shopping ให้แก่ผู้บริโภคไทย สร้างโอกาสการเพิ่มรายได้ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ร้านค้าหรือครีเอเตอร์ โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์ ร้านค้า ผู้ประกอบการและผู้บริโภค เนื่องจากมีมหกรรมช้อปสินค้าเกิดขึ้นมากมายในแต่ละเดือน
ด้าน สิรินิธิ์ วิริยศิริ Head of Business Marketing - TikTok Thailand กล่าวว่า TikTok ตอกย้ำการสนับสนุนแบรนด์และธุรกิจไทยและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาผ่านนวัตกรรมและโซลูชัน
"Holistic Solutions” โซลูชันที่จะช่วยให้แบรนด์และร้านค้าสามารถกำหนดกลยุทธ์แบบครบวงจร ช่วยให้แบรนด์และร้านค้าสามารถเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้แบรนด์ และมอบ Seamless Experience ในการทำ Full-Funnel Marketing ได้ตรงตามเป้าหมาย ประกอบด้วย 3 โซลูชันหลัก ได้แก่ Ads Solution, In-App Shop Solution และ Live Commerce Solution ที่จะครอบคลุมกิจกรรมการตลาดใน TikTok ได้อย่างครบวงจร ยกตัวอย่าง การเริ่มโปรโมต 1 เดือนก่อน Mega Sales, กระตุ้นให้คนดูปักตะกร้าและทำ Retargeting ช่วงแคมเปญเพื่อปิดการขาย, ไปจนถึงการเลือก Top Affiliate Content มาใช้ช่วง After Party ที่เป็นช่วงหลังแคมเปญไปแล้ว
พร้อมนำเสนอให้รู้จัก “PACE” เฟรมเวิร์กสำหรับแบรนด์และร้านค้าเพื่อสร้างความได้เปรียบและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดที่ใช้วางกลยุทธ์ร่วมกัน ประกอบด้วย
นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า คอนเทนต์ยังเป็น "กุญแจสำคัญ" ในการขับเคลื่อนความสำเร็จของการทำตลาด Social Commerce ในภาคธุรกิจ ผู้ขายยังต้องให้ความสำคัญทั้งในด้านคุณภาพ (Quality) และปริมาณ (Quantity) โดยคุณภาพของคอนเทนต์จะช่วยเพิ่มยอดคลิก ยอด Engage จากผู้ชมมากกว่า 3 เท่า รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการดูคอนเทนต์ซ้ำ และเพิ่มปริมาณการแชร์คอนเทนต์ สิรินิธิ์ กล่าว
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney