หลังจากที่ Google ตัดสินใจครั้งสำคัญโดยล้มแผน ยกเลิก Third-Party Cookies หลังไม่สามารถหาวิธีอื่นมาแทนคุกกี้ได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาออนไลน์ในวงกว้าง และอาจจะสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐ จะชวนมาทำความเข้าใจกันว่า จากข่าวนี้ที่เกิดขึ้นมันจะกระทบกับ เราทุกคนในฐานะผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไรบ้าง?
คุกกี้ (Cookies) เป็นโค้ดขนาดเล็กที่เว็บไซต์ส่งไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ และยังคงอยู่แม้ผู้ใช้จะเข้าชมเว็บไซต์อื่นๆ โดยโค้ดเหล่านี้จะคอยติดตามกิจกรรมของผู้ใช้ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์โดยไม่ส่งเสียงรบกวน แต่จะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราค้นหาและประเภทของผลิตภัณฑ์ที่เรามักจะซื้อ
ลองนึกภาพว่ามันเป็นเหมือนกับสลิปที่พนักงานในร้านค้าให้เราเก็บไว้ เมื่อเรากลับมาที่ร้านค้าดังกล่าวอีกครั้ง พนักงานจะสามารถดูสลิปนั้นได้ เพื่อให้จำได้ว่าเราเคยมาที่ร้านนี้ และเคยซื้ออะไรไปบ้าง
หน้าที่ของคุกกี้มันช่วยให้เว็บไซต์สามารถจำได้ว่าเราเคยล็อกอินไว้แล้ว จดจำการตั้งค่าที่เลือกไว้ เก็บของในตะกร้าสินค้าของเราไว้ และแนะนำสินค้าหรือเนื้อหาที่ผู้ใช้อาจสนใจ ตามสิ่งที่เคยดูมาก่อน
ดังนั้น คุกกี้จึงกลายเป็นวิธีการสำคัญสำหรับนักการตลาดในการปรับแต่งวิธีการกำหนดเป้าหมายโฆษณาออนไลน์ โดยในกรณีของ Google ที่เป็นการใช้ Third-Party Cookies ติดตามกิจกรรมบนเว็บได้กลายเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศการโฆษณาดิจิทัล และนักการตลาดมากมายพึ่งพาคุกกี้อย่างมากในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า คิดเป็นกว่า 40.9% ของเว็บไซต์ทั่วโลก
อย่างไรก็ตามว่าคุกกี้จะมีประโยชน์ในแง่ของการโฆษณา แต่ก็มีความน่ากังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะมันสามารถใช้ติดตามพฤติกรรมการท่องเว็บของเราได้ ดังนั้นเว็บไซต์ต่างๆ จึงมักจะต้องขออนุญาตเราก่อนที่จะใช้คุกกี้นั่นเอง
เดิม Google พยายามแนะนำทางเลือกอื่นแทนคุกกี้ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยในปี 2020 ทาง Google ออกมาประกาศแผนที่จะยกเลิกการใช้งาน Third-Party Cookies หรือคุกกี้ที่เปิดให้บุคคลที่ 3 เข้าถึงและแสดงข้อมูลประเภทโฆษณาบนเว็บไซต์ต่างๆ ที่เข้าถึงผ่าน Chrome ภายในปี 2022 แต่แล้วเวลาก็ล่วงเลยมากว่า 2 ปี จนล่าสุด Google ตัดสินใจล้มแผนดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมกับทั้งผู้ใช้งาน เจ้าของเว็บไซต์ และกลุ่มบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้โฆษณา
ต่อมาในปี 2021 ทาง Google เผยว่า อาจจะต้องขอขยายเวลาเพื่อให้กลุ่มผู้ผลิตโฆษณาบนเว็บไซต์ได้หาทางออกแบบโฆษณาที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูกค้ามากขึ้น
แต่ในปี 2022 ที่ตามกำหนดการเดิมทาง Google ควรจะมีแนวทางใหม่มาแทนที่คุกกี้ แต่ Google ได้ออกมาขอเวลาเพิ่มเพื่อให้ผู้ผลิตโฆษณาได้หาทางออกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม Google ได้เลื่อนกำหนดเวลาในการยกเลิกคุกกี้หลายครั้ง โดยอ้างถึงข้อเสนอแนะจากอุตสาหกรรมโฆษณาเกี่ยวกับการนำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปใช้ ซึ่งอาจส่งผลให้แคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพน้อยลง
ผ่านมาแล้ว 4 ปีหลังจาก Google ประกาศยกเลิก Third-Party Cookies ตามแผนที่จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน แต่แล้วก็ต้องมาพับแผนดังกล่าว โดย Google ประกาศว่าจะยังคงใช้คุกกี้ต่อไป แทนที่จะยกเลิกการใช้งาน แต่จะเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน Chrome แทน และในขณะเดียวกับ Google กำลังหารือเกี่ยวกับแนวทางใหม่นี้กับหน่วยงานกำกับดูแลด้วย
การเปลี่ยนแปลงของ Google ที่เกิดขึ้นนี้ กล่าวคือ ประสบการณ์การใช้งานเว็บจะยังคงเหมือนเดิม โดยผู้ใช้จะยังคงเห็นกล่องให้เลือกที่ด้านบนของหน้าเว็บ ที่ถามว่าต้องการยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือเฉพาะคุกกี้ที่จำเป็นเท่านั้น
อินเทอร์เน็ตยังคงเป็นบริการฟรีเหมือนเดิม และเจ้าของเว็บไซต์ยังสามารถสร้างรายได้จากผู้ใช้ของตัวเองต่อไป แต่เนื้อหาที่เป็นการสมัครสมาชิก หรือ มี paywall อาจต้องลดลง อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงของ Google ที่มีการตัดสินใจเช่นนี้ ได้สร้างความผิดหวังให้กับสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของสหราชอาณาจักร (ICO) ซึ่งพวกเขาได้ออกมาแสดงท่าทีว่า จะติดตามการตอบสนองของอุตสาหกรรมและพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายหากพบการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเป็นระบบ โดยสรุปแล้ว การตัดสินใจของ Google ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะตามที่ Google ได้ประกาศออกมานั้น ชี้ให้เห็นว่าการผลักดันเพื่อความเป็นส่วนตัวออนไลน์ที่มากขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของกฎหมายความเป็นส่วนตัว เช่น GDPR ของสหภาพยุโรป
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney